สรุปคดี อุ้มนักศึกษาจีนเรียกค่าไถ่ ฆ่ายัดถุงสายรุ้ง หลอกให้รัก วางแผนไว้หมด ก่อนลงมือ

สรุปคดีฆ่ายัดถุงสายรุ้ง แก๊งหนุ่มจีน หลอกลวงนักศึกษาปี 3 เพื่อนร่วมชาติ ก่อนจับทรมาน เรียกค่าไถ่ พบสาวไทยเอี่ยวช่วย 1 ราย รวบตัวครบต่อเค้นหาเบื้องลึก

ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้

จากกรณีพบศพหญิงสาวถูกฆ่ายัดถุงกระสอบสีรุ้งใบใหญ่ ที่บริเวณร่องน้ำป่ากล้วย ติดกับถนนวัดต้นเชือก หมู่ 6 ต.บางใหญ่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นเขตพื้นที่ความรับผิดชอบของ สภ.บางแม่นาง ก่อนพบว่าผู้เสียชีวิตคือ น.ส.จิน ซ่าน (Ms.Jin Can) นักศึกษาสาวชาวจีน ซึ่งถูกจับไปเรียกค่าไถ่เป็นเงินราว 2.5 ล้านบาทนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 3 เมษายน 2566 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ช่อง 3 รายงานว่า คดีนี้เริ่มต้นจากพ่อของ น.ส.จิน ครูสอนดนตรีที่ประเทศจีน ซึ่งเป็นบุคคลที่มีฐานะดี ได้รับการติดต่อจากชายลึกลับผ่านแอปฯ วีแชต ของลูกสาว เมื่อวันที่ 29 มีนาคม โดยอีกฝ่ายส่งภาพของ น.ส.จิน ในลักษณะถูกมัดมือมัดเท้า พร้อมเรียกค่าไถ่เป็นเงิน 500,000 หยวน (ราว 2,500,000 บาท) ให้โอนเข้าบัญชี Bank of china

ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้

พ่อของ น.ส.จิน ซ่าน ไม่ได้โอนเงินตามที่คนร้ายขู่ จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อกับลูกสาวได้อีกเลย เกรงว่าจะเกิดอันตราย จึงประสานมาที่อาจารย์ที่ปรึกษาของมหาวิทยาลัยในไทย ซึ่งลูกสาวเรียนอยู่ชั้นปีที่ 3 เอกการดนตรี ก่อนที่อาจารย์จะเข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.ธรรมศาลา จนกระทั่งมีชาวบ้านพบศพหญิงสาวถูกฆ่าหมกศพ สภาพศพถูกห่อยัดใส่ถุงสายรุ้งขนาดใหญ่ พบร่องรอยบริเวณต้นขาข้างซ้าย พบร่องรอยบริเวณหลังต้นคอ พบเทปใสที่คอศพ ของกลางที่พบในตัวศพ เทปใส เทปพันข้อเท้า เชือก ปลอกหมอนสีน้ำเงินที่ใช้คลุมศพ

สืบสวนก่อนหายตัว ภาพสุดท้ายคือขึ้่นรถเก๋งสีแดงปริศนา แต่ไร้ซึ่งท่าทีผิดปกติ

ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้

           แนวทางการสืบสวนพบว่า วันที่ 28 มีนาคม น.ส.จิน อยู่ที่มหาวิทยาลัยที่บริเวณวงเวียนน้ำพุ ช่วงเวลาประมาณ 17.00-19.00 น. จากนั้น 19.16 น. วงจรปิดจับภาพ น.ส.จิน สวมเสื้อแจ็กเก็ตแขนยาวสีขาว ด้านในสวมเสื้อยืดลายทาง สวมกางเกงขายาว สะพายกระเป๋าเป้สีดำ อยู่บริเวณร้านอาหาร ริมถนนเลียบคลองทวีวัฒนา

           จากนั้นเวลา 21.00 น. ในวันเดียวกัน กล้องวงจรปิดบริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยจับภาพ น.ส.จิน กำลังเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม เพื่อเรียกรถแท็กซี่เดินทางไปห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เวสต์เกต ก่อนที่จะหายตัวไป หลังจากไปขึ้นรถมาสด้า สีแดงของกลุ่มคนร้าย

           จากการสอบถามโชเฟอร์แท็กซี่ที่ไปส่ง น.ส.จิน ให้ข้อมูลว่า ผู้ตายขึ้นรถมาใกล้กับมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี เธอยื่นโทรศัพท์ที่ปักโลเคชั่นให้ไปส่งที่ตลาดบีบี บางใหญ่ ตนจึงบอกให้เปิด GPS นำทางไป ตลอดเวลาการเดินทาง ประมาณ 30 นาที ก็ไม่ได้สังเกตว่าผู้ตายมีอาการรีบร้อนหรือมีท่าทีลักษณะอย่างไร เมื่อถึงปลายทางพอส่งผู้โดยสารเสร็จตนก็ขับไปทันที ไม่ได้สังเกตเห็นว่ามีใครมาดักยืนรอรับหรือไม่

           ต่อมาทราบว่า รถมาสด้าสีแดงดังกล่าว เป็นของกลุ่มผู้ต้องสงสัยชาวจีน 3 คน เช่าบ้านอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ซึ่งมาเช้าอยู่ได้ราว 1 สัปดาห์ พบว่าเวลา 20.33 น. วันที่ 28 มีนาคม รถคันนี้ขับออกจากหมู่บ้านไป คาดว่าจะเป็นช่วงเวลาที่กลุ่มผู้ก่อเหตุออกจากหมู่บ้านเพื่อไปรับ น.ส.จิน บริเวณด้านหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เวสต์เกต

ไม่ได้ก่อเหตุแค่ชาวจีน แต่สาวคาราโอเกะในไทยก็รับรู้และช่วยเหลือ

ภาพจาก ข่าวช่อง 3

           จากข้อมูลจากตำรวจพบว่า คืนวันที่ 29 มีนาคม พบรถต้องสงสัยเป็นรถมาสด้า 2 สีแดง มาจอดที่บริเวณร่องน้ำสวนบัว ริมถนนวัดต้นเชือก คนร้ายทั้ง 3 ได้ลงมาจากรถและได้นำศพของ น.ส.จิน ที่ถูกฆาตกรรมยัดใส่ถุงพลาสติกสายรุ้งมาทิ้งไว้บริเวณดังกล่าว ก่อนจะขับกลับเข้าบ้านเวลา 05.18 น. ในคืนวันเดียวกัน ก่อนจะเดินทางออกจากประเทศไปเมื่อวันที่ 30 มีนาคม

           ต่อมาทราบว่าคนร้ายทั้ง 3 คนคือ นายโจว เผิงเฟย อายุ 24 ปี, นายเฉิน ไซกัง อายุ 23 ปี และนายโจว เซี่ยวเฟย อายุ 23 ปี ชาวเมืองเหอเป่ย ประเทศจีน เดินทางเข้าประเทศไทยด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2566 จากปักกิ่ง มีรายงานว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุติดต่อให้เพื่อนร่วมชาติที่อยู่เมืองไทย ไปเช่าบ้านพักเป็นเวลา 1 เดือน แต่ทั้งหมดย้ายออกไปเมื่อวันที่ 29 มีนาคม ช่วงเวลา 15.00 น. ส่วนรถยนต์มาสด้าสีแดงที่ใช้ก่อเหตุ เช่ามาจากเต็นท์รถย่านถนนเพชรบุรีตัดใหม่ และนำรถมาคืนเมื่อวันที่ 30 มีนาคม ก่อนจะพบว่าจะมีหญิงสาวขับรถไปส่งที่สนามบินสุวรรณภูมิ

           ความคืบหน้าเรื่องนี้ ข่าว 3 มิติ ช่อง 3 รายงานว่า เมื่อวันที่ 3 เมษายน ตำรวจได้ควบคุมตัว สาวคาราโอเกะ อายุ 19 ปี ซอยอินทามระ 45 มาสอบปากคำ ก่อนจะยอมรับว่าเป็นคนให้คำปรึกษากับชายชาวจีนหลังก่อเหตุ และได้รับเงินเป็นค่าตอบแทน ซึ่งชายชาวจีนมาเที่ยวที่คาราโอเกะ และรู้จักชอบพอกัน เบื้องต้นผู้ต้องหาชาวจีน 3 ราย และหญิงไทย 1 ราย รวม 4 ราย ถูกดำเนินคดีข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว เรียกค่าไถ่ เจตนาฆ่า ฆ่าโดยทรมาน ซุกซ่อนอำพรางศพ

เผยเบื้องลึกก่อนเกิดเหตุสลด คนร้ายตีสนิทจนไว้ใจ

ส่วนจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้พบว่า น.ส.จิน กับชายชาวจีน รู้จักกันมาก่อนตั้งแต่อยู่ที่ประเทศจีน และ น.ส.จิน เคยเดินทางมาที่บ้านหลังเกิดเหตุก่อนหน้านี้แล้ว มีความสัมพันธ์กันแต่ไม่ถึงขั้นชู้สาว แต่คนร้ายมีความพยายามที่จะจีบผู้เสียชีวิต ซึ่งย้อนไปเมื่อวันที่ 21 มีนาคม ก่อนเกิดเหตุก็มีหญิงชาวจีนเข้าไปรอคนร้ายอยู่ที่หน้าหมู่บ้าน

จากสภาพศพ ผู้ตายเสียชีวิตจากการถูกถุงคลุมศีรษะ และรัดคอ และเป็นที่น่าสังเกตว่าผู้ตายเสียชีวิตแล้วตั้งแต่คืนวันที่ 28 มีนาคม แต่คนร้ายได้ใช้โทรศัพท์ผู้ตายส่งภาพไปเรียกค่าไถ่กับบิดาผู้ตายในภายหลัง

ล่าสุด (4 เมษายน) พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่าทางการจีนสามารถจับกุม 3 ผู้ต้องหาชาวจีนได้แล้วหลังหลบหนีไปที่ประเทศจีน โดยไทยส่งพนักงานสอบสวนไปถึงยังปักกิ่งแล้ว เพื่อทำการสอบปากคำผู้ต้องหาร่วมกับทางการจีนถึงสาเหตุการฆาตกรรมครั้งนี้