มิจฉาชีพแกล้งเข้ามาถาม คนพิการขายคุกกี้ตามบีทีเอส อยากรู้พิการจริงหรือเปล่า ก่อนหลอกเอาเงินไปดื้อ ๆ หลายคนโกรธจัด ทำแบบนี้ได้ยังไง
หากใครที่ขึ้นรถไฟฟ้า BTS อาจจะคุ้นเคยกับภาพของคนพิการที่มายืนรอขายคุกกี้พระพร บราวนี่พระคุณ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้คนพิการมีรายได้ แต่ล่าสุดกลายเป็นว่ามีเรื่องน่าปวดใจ เมื่อมีคนธรรมดา มาขโมยเงินคนพิการไปดื้อ ๆ
ทั้งนี้ เฟซบุ๊ก พันธกิจเพื่อคนพิการ ได้เผยเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับคนพิการทางสายตาคนหนึ่ง บริเวณบีทีเอส พร้อมพงษ์ ซ.สุขุมวิท 35 ซึ่งพบว่าคนพิการคนนี้ หากมองภายนอกจะเหมือนคนปกติ แต่จริง ๆ แล้วพบว่าเป็นผู้พิการทางสายตา มองเห็นได้เลือนราง
โดยที่มิจฉาชีพได้แกล้งเข้ามาพูดคุย และถามว่าขายอะไร
พร้อมกับถามว่าตาบอดจริงไหม
ซึ่งคนพิการก็บอกว่าสายตาของตนมองเห็นได้เลือนราง มิจฉาชีพจึงแกล้งบอกว่า
ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวขอไปกดเงินก่อน แล้วจะกลับมาอุดหนุน
ด้านคนพิการก็รอ เพราะคิดว่าจะได้ลูกค้า แต่พอมาเช็กอีกทีกลับพบว่า กระเป๋าเงินทอนที่วางเอาไว้บนรถเข็นได้หายไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม หลายคนมาสอบถามว่า บริเวณนั้นมีกล้องวงจรปิดหรือไม่ และทางเพจบอกว่า บริเวณที่ขายนั้นไม่ได้อยู่ในบริเวณสถานี ทางกลุ่มก็ได้พูดคุยกันในเรื่องนี้เหมือนกัน ส่วนเงินทอนในกระเป๋านั้นถือว่าไม่มาก มีอยู่แค่นิดหน่อย
ทว่าเรื่องนี้ กลับสร้างความโมโหหัวร้อนให้กับใครหลาย ๆ คน ที่ต้องการให้เกิดการตรวจสอบและจับกุมผู้ก่อเหตุ ไม่ว่าเงินจำนวนนั้นจะมากหรือน้อยแค่ไหน ก็ไม่มีใครสมควรโดนขโมยเงินไปต่อหน้ากลางวันแสก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทำกับคนพิการแบบนี้ด้วย
หากใครที่ขึ้นรถไฟฟ้า BTS อาจจะคุ้นเคยกับภาพของคนพิการที่มายืนรอขายคุกกี้พระพร บราวนี่พระคุณ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้คนพิการมีรายได้ แต่ล่าสุดกลายเป็นว่ามีเรื่องน่าปวดใจ เมื่อมีคนธรรมดา มาขโมยเงินคนพิการไปดื้อ ๆ
ทั้งนี้ เฟซบุ๊ก พันธกิจเพื่อคนพิการ ได้เผยเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับคนพิการทางสายตาคนหนึ่ง บริเวณบีทีเอส พร้อมพงษ์ ซ.สุขุมวิท 35 ซึ่งพบว่าคนพิการคนนี้ หากมองภายนอกจะเหมือนคนปกติ แต่จริง ๆ แล้วพบว่าเป็นผู้พิการทางสายตา มองเห็นได้เลือนราง
ด้านคนพิการก็รอ เพราะคิดว่าจะได้ลูกค้า แต่พอมาเช็กอีกทีกลับพบว่า กระเป๋าเงินทอนที่วางเอาไว้บนรถเข็นได้หายไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม หลายคนมาสอบถามว่า บริเวณนั้นมีกล้องวงจรปิดหรือไม่ และทางเพจบอกว่า บริเวณที่ขายนั้นไม่ได้อยู่ในบริเวณสถานี ทางกลุ่มก็ได้พูดคุยกันในเรื่องนี้เหมือนกัน ส่วนเงินทอนในกระเป๋านั้นถือว่าไม่มาก มีอยู่แค่นิดหน่อย
ทว่าเรื่องนี้ กลับสร้างความโมโหหัวร้อนให้กับใครหลาย ๆ คน ที่ต้องการให้เกิดการตรวจสอบและจับกุมผู้ก่อเหตุ ไม่ว่าเงินจำนวนนั้นจะมากหรือน้อยแค่ไหน ก็ไม่มีใครสมควรโดนขโมยเงินไปต่อหน้ากลางวันแสก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทำกับคนพิการแบบนี้ด้วย







