แม่ดาราเหยื่อเมาแล้วขับ หอบลูกเกณฑ์ทหาร - ช้ำ คู่กรณีไล่ไปตาย แฉใช้ชีวิตหรูโชว์เงิน

          แม่อ็อฟ ธนกฤต ดาราเหยื่อเมาแล้วขับ พาลูกป่วยติดเตียงเกณฑ์ทหาร เจอสัสดีตอบแบบนี้ทั้งที่รู้ป่วย ช้ำหนักคู่กรณีไม่เยียวยา อยากได้ก็ฟ้องเอา แฉใช้ชีวิตหรู โป๊ะแตกรีบไล่ลบรูป


          กรณีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ หลังจากแม่ดาราเหยื่อเมาแล้วขับ แบกร่างลูกชาย อ็อฟ ธนกฤต วุฒิโรธง นักแสดงจากภาพยนตร์ 16 ห้าว 19 เดือด ที่กำลังนอนป่วยติดเตียง จากอุบัติเหตุคู่กรณีเมาแล้วขับ ซึ่งแม่พาไปเกณฑ์ทหารเพื่อยืนยันว่าลูกป่วยติดเตียงจริง ไม่สามารถเกณฑ์ทหารได้ พร้อมเผยเรื่องคดีว่าถึงตอนนี้คู่กรณีไม่เหลียวแล ให้เงินแค่ 4.6 หมื่น ที่เหลืออยากได้ไล่ไปฟ้องเอาเอง

          รายการโหนกระแส ออกอากาศวันที่ 11 เมษายน 2566 ได้เปิดใจสัมภาษณ์ แม่อ้อม ดวงกมล วุฒิโรธง แม่น้องอ็อฟ ธนกฤต มาพร้อม ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล หรือ ทนายแก้ว


แม่มีลูกกี่คน ?

          แม่อ้อม : มี 2 คนค่ะ น้องอ็อฟเป็นลูกคนเล็ก ตอนเกิดเหตุเขาอายุ 19 จะเต็ม 20 วันเกิดเขาวันที่ 15 เมษายน ก็คือเขาอายุ 21 ค่ะ

เอาเรื่องต้องพาน้องไปชี้แจงการเกณฑ์ทหารก่อน เหตุการณ์เกิดอะไรขึ้น ?

          แม่อ้อม : เมื่อปีกลายแม่ได้รับหมายเรียกทหารมา ก็ไปรายงานตัวแทนลูก ก็บอกแล้วว่าลูกป่วย ไปถามสัสดีแล้ว ท่านบอกว่ามีให้เลือก 2 ทาง ถ้าแม่เอาน้องมาได้ปีนี้ก็จบเลย ปีหน้าแม่ไม่ต้องมา ถ้ามาไม่ได้แม่เอาเอกสารมา เป็นใบรับรองแพทย์ เหมือนผ่อนผันนั่นแหละ ก็มา 3 ปี ถ้าตัวแม่ไปเองก็ไป 3 ปี แม่ก็อยากทำให้มันเสร็จปีนี้เลย

แม่แจ้งไหมว่าไปไม่ไหวจริง ๆ ?

          แม่อ้อม : ท่านเข้าใจ ท่านสัสดีรับรู้แล้วค่ะ แม่ไม่ได้ไปครั้งเดียวค่ะ ไป 2 ครั้งค่ะ แม่ก็บอกให้ท่านไปหาที่บ้าน ท่านบอกทหารออกไปไม่ได้ ถ้าเจ้าหน้าที่ออกไปเขาจะเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ทั้งชุด เป็นระเบียบของเขาค่ะ ตอนเดือนที่แล้ว 14 กุมภาพันธ์ น้องไปนอนโรงพยาบาลอีก 1 เดือน ตอนอยู่โรงพยาบาลแม่ขอพ่อกำนันและหมออนามัย หมอสาธารณสุข คุณหมอกับพ่อกำนันไปถามสัสดีให้อีกรอบ ท่านก็โทร. มาตอนแม่อยู่โรงพยาบาล แม่ก็รับสาย ท่านก็บอกแบบนี้แหละ มีทางเลือกให้ 2 ทาง


ทางแรกแม่มารายงานเอง 3 ปี อีกข้อพาน้องมา พอเห็นปุ๊บปีต่อไปไม่ต้องมาแล้ว เขาจะเห็นเลย วันนั้นจะให้ทหารออกไปดูที่บ้านเองไม่ได้เพราะเป็นระเบียบของเขา ?

          แม่อ้อม : ใช่ค่ะ วันนั้นก็เลยตัดสินใจพาน้องไป

นี่คือภาพที่สังคมได้เห็นจากสื่อแทบทุกสื่อ เชื่อว่าสังคมก็ไม่สบายใจว่าเกิดอะไรขึ้น มุมคุณแม่ก็ชี้แจงให้ฟังว่าได้มีโอกาสปรึกษาทางสัสดี ท่านก็บอกว่ามันมีทางออก 2 ทางเท่านั้น ถ้าแม่มาได้ทุกปี ปีละครั้ง 3 ครั้งติดกัน แม่มาได้ก็มา แต่ถ้าไม่ไหวจริง ๆ ก็พาลูกมาตอนนี้ ?

          แม่อ้อม : ตอนแรกยายบอกว่าไม่ต้องเอาไปหรอก สงสารลูก ตาข้างซ้ายเขาที่กะโหลกยุบปิดไม่สนิท ตาเขาจะแดง ถ้าอยู่บ้านต้องปิดตาค่ะ

แม่ได้ถามทางฝั่งพี่ทหารไหมว่าถ้าแม่พาไปแล้วลูกแม่ช็อก หรือฉุกเฉินเกิดขึ้นกลางทางจะทำยังไง ?

          แม่อ้อม : ก็จำยอมค่ะ แม่จำยอม ไปก็ไปให้มันจบ ๆ ไป ถึงไปตรงนั้น จอดรถคนเต็ม คนเป็นพัน ๆ ฝุ่นก็เยอะ น้องอ่อนแอมาก บางวันกินไม่ได้ก็อ้วก มีไข้ เกร็ง


ต้องบอกทางฝั่งกองทัพว่าที่เราทำเรื่องวันนี้ เราเข้าใจกองทัพว่ามีระเบียบ แต่เรากำลังพูดคุยเรื่องระเบียบที่มันกำลังเป็นประเด็นทางสังคม มันแก้ได้ไหม เปลี่ยนแปลงได้ไหม อยากให้เคสนี้เป็นเคส Study กับเรื่องที่เกิดขึ้น แม่เขาจำยอมที่จะไป แต่เชื่อไหมไม่ใช่เคสเดียว มีคนร้องมาในเพจโหนกระแส บางคนเดินไม่ได้ พิการ ต้องแบกกันไปรายงานตัว ทีนี้ไม่ได้เป็นข่าว แต่เคสนี้เป็นข่าว เข้าใจว่ากองทัพมีระเบียบแบบนี้ ระเบียบนี้สำคัญกว่าชีวิตคนไหม ถ้าลูกเขาตายขึ้นมากองทัพจะยิ่งกว่านี้อีก จะหาจุดกึ่งกลางตรงไหน อันนี้คือสิ่งที่เรากำลังพูดคุยกันอยู่ ?

          แม่อ้อม : แม่จำยอม ต้องไป ลูกเจาะคอพูดไม่ได้ หายใจเองยังไม่ได้ น้องนั่งยังไม่ได้เลยค่ะ

          ทนาย : ต้องเข็นเข้าไปที่กองอำนวยการ

          แม่อ้อม : ใช่ค่ะ

          ทนาย : จริง ๆ ทหารน่าจะเดินมาได้

          แม่อ้อม : ก็ลงรถไปแล้วค่ะ คนก็มองกันเต็ม เขาก็บอกว่าอย่างนี้ก็มาด้วยเหรอ แม่ก็หดหู่ใจ

ระหว่างระเบียบการกับความเป็นมนุษย์ ต้องมีการเลือกกันสักอย่าง มันสำคัญจริง ๆ เรื่องผู้ป่วยติดเตียงต้องไปเกณฑ์ทหาร ผมว่ามันสำคัญ ?

          ทนาย : ถ้าเด็กเป็นอะไรหรือเสียชีวิตขึ้นมามันเรื่องใหญ่นะ

          แม่อ้อม : แม่ทะนุถนอมเขามาปีนึง ถ้าออกไปข้างนอกเจอฝุ่น เชื้อโรคเยอะ

อยากให้เป็นเคสตัวอย่าง เราไม่ได้โจมตีกองทัพ เราเข้าใจระเบียบของกองทัพ แต่เราต้องเข้าใจความเป็นมนุษย์ด้วย ถ้าต่อไปผู้ป่วยติดเตียง ส่งทหารไปดูที่บ้าน จริงไหม เอาใบรับรองแพทย์มา จบเลย ?

          แม่อ้อม : แม่เอาไปแล้ว ใบรับรองแพทย์ที่หมอเขียนว่าน้องไม่มีสติ และใบพิการ รูปถ่ายน้องไม่มีสติ


เรื่องทหารก็เชื่อว่าน่าจะมีอะไรที่เป็นรูปธรรมเกิดขึ้นได้บ้างในสังคม ส่วนเรื่องอุบัติเหตุ ตัวน้องหลังเกิดเหตุจนตอนนี้ยังไม่ได้รับความเป็นธรรม เรื่องราวเกิดอะไรขึ้นกับน้องตั้งแต่แรก ?

          แม่อ้อม : น้องบอกแม่ว่าจะกลับบ้าน เช้าวันที่ 2 เมษายน ปี 2565 ก็ครบปีแล้ว ตอนแรกน้องอยู่กรุงเทพฯ น้องบอกจะกลับบ้านก่อน หนังจะเข้าโรงแล้วในวันที่ 13 น้องเล่นหนังเรื่อง 16 ห้าว 19 เดือด น้องบอกว่าจะกลับก่อน เพราะผู้กำกับ นักแสดง ไปเป็นทีม แต่บ้านน้องอยู่ลำพูน จะกลับต่างหากและไปส่วนตัว ไม่ไปเป็นทีมกับเขา ก็จะอยู่บ้านยาวจนหนังเข้าวันที่ 13 พอตอนเช้าน้องบอกจะไปเอง มันก็จุก โรงพยาบาลโทร. มาหาแม่ แล้วมีคนมาเรียกแม่ไปโรงพยาบาลด่วน โรงพยาบาลก็ไกลจากบ้านแม่ประมาณ 10 กว่ากิโล โดนผู้หญิงคนหนึ่งเมาแล้วชนท้ายรถน้อง

เขาขับรถอะไรมา ?

          แม่อ้อม : รถเก๋งสีขาว หม้อน้ำเขาแตกเลย ขับรถชนท้ายรถน้องอย่างแรง เกิดเหตุตอนเช้ามืด ถนนโล่งมาก น้องขี่มอเตอร์ไซค์อยู่บนไหล่ทาง

คุณผู้หญิงต้องขับบนถนน ?

          แม่อ้อม : ใช่ ถนนกว้างไม่รู้เท่าไหร่ แล้วผู้หญิงคนนี้ขับรถชนท้ายรถน้อง น้องลอยกลับหันหัวโหม่งใส่กระจกรถเขา เป็นหลุมเลยค่ะ กระจกเป็นหลุม น้องเจ็บสาหัสมาก


น้องลอยไปกระแทกชนกระจกรถคนที่ชนแล้วตกลงมาข้างล่าง ?

          แม่อ้อม : ใช่ค่ะ มีคนเห็นเหตุการณ์ ผู้หญิงคนนี้เมามาก พูดไม่รู้เรื่องเลย เช้าวันนั้นไม่รู้ตี 3 หรือเปล่า

มันก็บอกได้เหมือนกัน ถ้าอ้างว่าตี 5 จะไปใส่บาตร กับตี 3 กลับจากผับ มันต่างกัน ?

          ทนาย : เขาลงบันทึกประจำวันว่าเกิดเหตุรถเก๋งคันหนึ่ง ไม่ทราบชื่อคนขับ ขับมาถนนสายเชียงใหม่-ลำปาง เกิดเหตุประมาณตี 3

หลังเกิดเหตุมีการพูดคุยกับคนขับรถชนไหม ?

          แม่อ้อม : เขาให้ตังค์แม่ 4 หมื่นค่ะ ให้วันที่ 7 เมษายน ปีที่แล้ว ชน 2 เมษายน เขามาที่โรงพยาบาล เยี่ยมน้องแล้วให้เงิน 4 หมื่นบาท


เขาบอกให้เป็นค่าอะไร ?

          แม่อ้อม : ให้ 4 หมื่นไปก่อน ที่เหลือไม่ได้พูดอะไร บอกว่าน้องต้องย้ายโรงพยาบาลนะ แม่ย้ายเลย

แม่บอกทางฝั่งคู่กรณีเมา เพราะมีคนเห็น ตำรวจจับเขาเป่าแอลกอฮอล์ไหม ?

          แม่อ้อม : แม่ไม่เห็นนะ

          ทนาย : เป่าไม่เป่า แต่ตำรวจตั้งข้อหาชัดเจนครับ ขับรถในขณะเมาสุรา

ที่ถามเพราะมีกรณีถึงขั้นต้องเยียวยา เพราะน้องเป็นผู้ป่วยติดเตียง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย มุมผมมากกว่าตาย ?

          แม่อ้อม : ตายทั้งเป็น ถ่ายเองไม่ได้เลย

หลัง 4 หมื่นเขาว่ายังไง ?

          แม่อ้อม : หัวน้องบวม เข้าโรงพยาบาลอีก แม่ก็ขออีก 5 พัน สิ้นเดือนได้ไหม เขาบอกให้ 3 พัน อีก 7 วันแม่ค่อยเอาอีก 2 พัน แม่เลยบอกว่างั้นขออีก 3 พันแล้วกัน เพราะน้องยังอยู่โรงพยาบาล ก็ได้มาทั้งหด 4.6 หมื่นค่ะ แม่บอกเลยว่าหมากัดคนเขายังจ่ายเยอะกว่านี้ อันนี้ชีวิตคนทั้งคน แล้วดูสภาพน้อง

          ทนาย : นับตั้งแต่ตอนนี้คู่กรณีมาเยี่ยมลูกชายแม่

          แม่อ้อม : มาโรงพยาบาลครั้งแรก ๆ ตอน 2-3 เมษายน จากนั้นไม่มีมาเยี่ยมเลยค่ะ มีแค่ 4.6 หมื่นเท่านั้น เพราะพ่อเขาบอกว่าอยากได้ไปฟ้องเอา


เรามีเสียงด้วย ?

          แม่อ้อม : ใช่ค่ะ ตอนอยู่โรงพยาบาลเอกชน หมดค่าใช้จ่ายเยอะ

พ่อคู่กรณีบอกถ้าอยากได้มากกว่านั้นไปฟ้องเอาเอง แม่จ่ายค่ารักษาน้องไปเท่าไหร่ ?

          แม่อ้อม : น่าจะ 3 ล้านกว่า ขนาดบิลจิ๊บ ๆ ที่เอามา บิลโรงพยาบาลบางส่วนที่เอามา ไปทีนึง

เป็นค่ายานอกบัญชีหลักแห่งชาติ อันนี้คือ 6 หมื่นกว่าบาท ?

          แม่อ้อม : ขนาดบิลเดียวนะคะ

แล้วมีค่าอุปกรณ์บำบัดโรค จ่ายต่างหากอีก 3.6 หมื่น ?

          แม่อ้อม : 2 บิลนี้ก็แสนนึงแล้วค่ะ

ค่ายานอกบัญชีอีกหลายตัว ร้อยกว่าบาท พันกว่าบาท แล้วก็ 1.5 หมื่น ค่ายานอกบัญชี 3 ตัว อีก 6 พันกว่าบาท มันเยอะมาก ค่าพยาบาลเฝ้าไข้ หน่วยละ 1,500 บาท ตั้งแต่ 19 เมษายน - 19 พฤษภาคม รวม 4.6 หมื่นบาท ?

          แม่อ้อม : เพราะแม่ไปเฝ้าน้อง แม่ไปติดโควิดค่ะ พยาบาลเลยไล่กลับบ้านเลย


แม่ดูไม่ได้ก็จ้างพยาบาลเฝ้าอีก 4 หมื่นกว่าบาท มันเยอะมาก โอ้โห ?

          แม่อ้อม : แม่ร้องไห้จนไม่รู้จะร้องไห้ยังไง แม่เอามาเป็นบางส่วนเล็ก ๆ น้อย ๆ นะ

ค่าอาหารทางการแพทย์ ค่าห้องต่าง ๆ นานา รวมเกือบ 6 แสน ?

          แม่อ้อม : แล้วการรักษาไม่ได้จบแค่นี้ นี่ปีเดียวค่ะ 374 วัน วันนี้

เขาต้องอยู่ไปอีกไม่รู้กี่ปี ?

          แม่อ้อม : ถ้าอยากให้น้องตายก็มาบีบจมูกให้น้องตายไปเลยค่ะ (ร้องไห้) นางโพสต์แบบนั้น

เหตุการณ์คืออะไร ?

          แม่อ้อม : พอข่าวออกตอนกลางคืน เช้ามามีคนแคปหน้าจอมาให้แม่ นางบอกว่าถ้าเหนื่อยมากก็ให้ตายไป จบง่ายดี


ใครโพสต์ ?

          แม่อ้อม : คู่กรณีโพสต์ค่ะ ออกข่าววันที่น้องนอนอยู่โรงพยาบาล ทางเพจเขาขอช่วย แม่ไม่รู้ต้องเสียเงินเท่าไหร่ น้องไปนอนโรงพยาบาล 1 เดือนเต็ม ๆ (ร้องไห้) ไม่รู้จะจ่ายอีกเท่าไหร่ไง (ร้องไห้)

คู่กรณีโพสต์ว่าเหนื่อยมากก็ไปตายจบ ๆ ง่ายดี ?

          แม่อ้อม : ค่ะ

แม่อยู่ในภาวะเครียดมาก ?

          แม่อ้อม : ค่ะ (ร้องไห้)

          ทนาย : ตำรวจไกล่เกลี่ยไหม

          แม่อ้อม : ไกล่เกลี่ยค่ะ

          ทนาย : เขาเสนอเงินให้เท่าไหร่

          แม่อ้อม : วันที่ไปไกล่เกลี่ยกับตำรวจจะให้แม่ 5 หมื่น แล้วให้แม่เลิกกัน (ร้องไห้)

เห็นบอกพ่อคู่กรณีพูดว่าถ้าจะเอาเงินมากกว่านั้นก็จะปล่อยให้ลูกตัวเองติดคุกไปเลย ?

          แม่อ้อม : ใช่ค่ะ


ช่วง 1 ปีที่ผ่านมา แม่ติดต่อไปหาคู่กรณีไหม ?

          แม่อ้อม : มีขอแค่ 5 พัน ได้ 3 พัน อีก 7 วันค่อยเอา

เขาทำงานอะไร ?

          แม่อ้อม : น่าจะทำงานบัญชี เขาอยู่บ้านราคาเป็นล้าน ๆ ค่ะ มีคนบอก

แม่เองก็เห็นเหมือนกันในเพจ ในอินสตาแกรมต่าง ๆ นานา มีไปเวียดนามโชว์เงิน ถ่ายรูปโพสต์ แฮปปี้ แต่ตัดกลับมาที่ภาพแม่กับลูกเขา มันเป็นความเหลื่อมล้ำยังไง นี่คือแม่ที่ดูแลลูก ?

          แม่อ้อม : (ร้องไห้โฮ)

จากเด็กผู้ชายที่กำลังมีอนาคต ได้เล่นหนัง เสี้ยววินาทีคนเมาแล้วขับชนท้ายมอเตอร์ไซค์เขา ลบสิ่งที่เขากำลังจะมีให้แม่เขา ลบความมีตัวตนของแม่เขาไป ชีวิตไม่ต้องทำมาหากินอะไรแล้ว ต้องดูลูกที่ถูกคนเมาขับรถชน ?

          ทนาย : ใครทำต้องได้รับผล ส่วนคดีความต้องว่ากันไปตามคดีความ แต่กฎหมายมีการกำหนดไว้ชัดเจน ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 446 ว่าค่าเสียหายที่ผู้เสียหายสามารถเรียกร้องได้ แม้ไม่ใช่เรื่องตัวเงินก็เรียกร้องได้ ค่าทุกข์ทรมาน ทุพพลภาพต่าง ๆ จิตสำนึกผู้กระทำความผิดกับผู้เสียหายมันต่างกัน ในเคสนี้เขาอาจไม่มีจิตสำนึก เขาก็ต้องได้รับผลกรรมของเขา ผมเข้าใจว่ารูปคดีผมไม่ก้าวล่วงดุลยพินิจของศาล แต่พฤติกรรมทั้งหมดที่เขาหรูหราหมาเห่า แม่เอาเอกสารต่าง ๆ ไปแถลงศาล บอกทนายความ อัยการ ว่าพฤติกรรมเขาในช่วงได้รับประกันตัว ช่วงสู้คดี เขาใช้ชีวิตแบบนี้ ไม่เคยมาเยียวยา บรรเทาความเสียหายให้กับเราเลย ใจร้ายเกิน

          แม่อ้อม : ใจร้ายค่ะ แม่ไม่ได้ว่าผู้หญิงคนเดียวนะ แม่ประณามพ่อกับแม่เขาเลยค่ะ พ่อกับแม่ก็รุ่น ๆ เดียวกัน ลูกไม่มา พ่อแม่ก็ต้องมา แต่นี่ไม่มาเลยค่ะ


 จะทำยังไงต่อไป ?

          ทนาย : คดีนี้เป็นคดีอาญาเกี่ยวเนื่องคดีแพ่ง เมื่ออาญาตอนนี้เขารับสารภาพ ก็เหลือค่าเสียหายส่วนแพ่ง คุณแม่ขอเรียกร้องไป 8 ล้านกว่าบาท เขาเสนอคุณแม่เท่าไหร่

          แม่อ้อม : แสนเดียวค่ะ

          ทนาย : 1 แสน กับ 8 ล้าน ห่างกันราวฟ้ากับดิน กรณีการที่ฝั่งจำเลยต้องหาทางเยียวยาคุณแม่ คุณแม่ลองดูแล้วกันว่าตัวเลขจะลดลงมาได้เหมาะสมเท่าไหร่แล้วแต่คุณแม่ แต่ผมมองว่า 1 แสน หรือ 1 ล้าน มันน้อยไป เพราะลูกคุณแม่ต้องเป็นแบบนี้ตลอดชีวิต ต้องเรียกค่าเสียหายแล้วจบ เพราะเขาไม่มาจ่ายค่าเสียหายอีกแล้ว การเรียกค่าเสียหายต้องใช้ดุลยพินิจว่าประมาณเท่าไหร่ถึงจะจบกันได้ ส่วนคดีความที่จะขึ้นศาลวันที่ 28 เมษายน คุณแม่เอารายละเอียดต่าง ๆ ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต

รูปบ้านเขาด้วย ?

          ทนาย : เอารายละเอียดไปแถลงศาลว่า ณ ปัจจุบันนี้ จำเลยไม่เคยเยียวยา จ่ายเงินให้เราเลย ในคดีความนั้น ศาลท่านมีดุลยพินิจอยู่แล้วว่าจะรอพิพากษารอลงอาญา หรือให้จ่ายเงินเท่าไหร่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเป็นความเห็นของศาล ถ้ามีการนำสืบ แม่ต้องมีฝ่ายในการพิสูจน์ เก็บหลักฐานต่าง ๆ ไว้ให้ดี ก็ต้องไปว่ากันที่ศาล


ทีมงานพยายามติดต่อไปยังคู่กรณี ทั้งพ่อและคู่กรณีเอง ปิดโทรศัพท์ ติดต่อไม่ได้ คุณพ่อโทร. ติดแต่ไม่รับ คู่กรณีโทร. ไปแต่ติดต่อไม่ได้แล้ว ?

          ทนาย : คนทำเขารู้อยู่แล้วว่าผิด แต่เขาไม่สำนึกในเรื่องการเยียวยาอะไรบ้างเลย ผมว่ามันเกินไป กลับกัน เอาเงิน 4 หมื่นฟาดหัวแล้วทำแบบนี้ ผมว่ามันไม่ถูกครับ

เคยเจอแคสแบบนี้ คุณแม่น้องการ์ตูน หรืออะไรสักอย่าง ที่พ่อยืนอยู่หน้าร้านสเต๊ก รถวิ่งขึ้นมาไปชน พ่อกันลูกไว้ ลูกยังเด็ก พ่อเสียชีวิตตรงนั้น ลูกเป็นทุพพลภาพเหมือนกัน ลักษณะเดียวกัน ก็ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย นี่ก็เป็นอีกหนึ่งกรณี ?

          ทนาย : แต่หลายเคสที่คนทำเขาก็เยียวยาจนสมความตั้งใจของเราก็มี คุณแม่เอารายละเอียดทั้งหมดไปแถลงให้ศาลท่านทราบ เพราะบางท่านเขาไม่ได้ทราบข้อเท็จจริง

ผมพูดอีกมุมหนึ่ง พยายามเข้าใจว่าอีกมุมพยายามอ้างไม่มีเงินมาจ่าย แม่เรียก 8 ล้าน เงินสำคัญไหมก็สำคัญนะ แต่จิตใจยิ่งกว่านั้น คุณไม่เคยติดต่อเขาเลย เคยถามไหม แม่จะไปไหน หนูจะอยู่กับน้องเอง หนูจะพาน้องไปหาหมอให้ไหม น้องต้องอะไรไหม เรื่องตังค์หนูพยายามทำงานจ่ายให้นะ มีพันนึงจ่ายให้ 500 มีหมื่นนึงให้ 9 พัน ผมคิดว่าแม่เขาโอเค แต่นี่พอเขาบอกจะเอา 8 ล้าน คุณบอกว่าไม่มี กูไปแล้ว จิตใจคุณยังไม่มีไปดูแลเขาเลย เรื่องนี้อยู่ที่จิตใจ ?

          แม่อ้อม : ใช่ คุณคงไม่ได้ทำงาน 365 วันหรอกค่ะ ทุกคนต้องมีวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ แม่บอกแล้ว น้องอยู่บ้าน มาหาน้องก็ได้ แต่ไม่เคยมา

ขอเปลี่ยนจากจิตใจ สามัญสำนึกต้องมี ?

          แม่อ้อม : อยู่อำเภอเดียวกันค่ะ ประมาณ 2 กิโล

          ทนาย : ไม่เคยแวะมาเลยเหรอ พ่อแม่ก็ไม่แวะมาเลยเหรอ

          แม่อ้อม : ไม่เลยค่ะ แล้วยิ่งมาท้าเรา แพมเพิร์สก็ไม่เคยซื้อให้เลยค่ะ เขาใจดำค่ะ

          ทนาย : แล้วตัวเลข 1 แสน

          แม่อ้อม : เขาจะผ่อนค่ะ เดือน 3 พัน กี่ปีคะ ผ่อนงวดละ 3 พัน ขอให้เขาคิดใหม่นะคะ ขอให้เห็นใจ


จริง ๆ อยากขึ้นเบอร์บัญชีให้แม่ แต่กังวลใจเรื่องความเหมาะสม 08-1950-9611 ถ้าโทร. ไม่ติด ส่งเมสเสจไปหาแม่ก็ได้ อยากช่วยเหลือด้านไหนก็ได้ ?

          แม่อ้อม : ค่ะ อะไรก็ได้ แพมเพิร์ส หรือของเหลวที่น้องกินได้ก็ได้ค่ะ แม่ยินดีรับค่ะ เพราะน้องกินอาหารสายยางค่ะ หายใจตรงคอค่ะ มีสายดูดเสมหะใช้แล้วทิ้ง ไม่งั้นติดเชื้อค่ะ ผ้าก๊อซ น้ำเกลือ สำลี แผ่นรองทุกอย่าง ใช้แล้วต้องทิ้ง

          ทนาย : วันที่ 28 ก่อนจะจบอะไรก็ตาม แม่ดูเรื่องตัวเลขให้ดี ๆ นะครับ เขาผ่อนยาว ผ่อนสั้น เพราะถ้าเราเซ็นยอมรับ เซ็นเอกสารไม่ติดใจเอาความ คดีหยุดกันแล้วนะ ต้องดูดี ๆ

มีคนส่งมาบอกว่าคู่กรณีน่าจะไล่ลบรูปในไอจี แม่อยากพูดถึงใคร ?

          แม่อ้อม : แม่ขอบคุณคุณหมอเขมชาติ หมอที่รักษาน้อง และพยาบาลที่ดูแลน้องเป็นอย่างดี ขอบคุณพี่บุ๋ม ปนัดดา ขอบคุณเบลล่า ราณี ขอบคุณทุกคนที่ไม่ได้เอ่ยชื่อเอ่ยนาม ที่ช่วยเหลือน้อง แม่ก็ขอบคุณแทนน้องค่ะ

          ทั้งนี้ สามารถติดตามชมรายการโหนกระแส ดำเนินรายการโดย หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33