สุดเซ็ง จ่ายเกือบ 2 หมื่นจองพูลวิลล่าทิพย์ ไปถึงที่กลับไม่ได้เข้า พบเหยื่อนั่งรอเพียบ

          นักท่องเที่ยวกลุ้ม จองห้องพักพูลวิลล่าพัทยาผ่านเพจ จ่ายไปเกือบ 2 หมื่น มาถึงกลับพบว่าโดนหลอก เจ้าของอ้างโดนนำรูปไปแอบอ้าง พบวันเดียวเหยื่อโผล่ 4-5 กลุ่ม


          จากกรณี เพจเฟซบุ๊ก อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ลงคลิปจากกลุ่มผู้เสียหายซึ่งจองห้องพักที่พัทยาผ่านเพจในเฟซบุ๊ก แต่พอมาถึงที่พักจริงกลับพบว่าถูกหลอกจากมิจฉาชีพที่มาสวมรอย ทำทีเป็นเปิดให้จองที่พัก โดยพบว่ามีคนตกเป็นเหยื่อไม่ต่ำกว่า 5 ราย แต่ละรายโดนหลอกไม่ต่ำกว่า 5,000 บาท หรือเสียหายหลักหมื่นก็มีนั้น


          เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 24 เมษายน 2566 ข่าวช่อง 3 รายงานว่า น.ส.อชิรญาณ์ อายุ 27 ปี นักท่องเที่ยวจาก จ.ขอนแก่น หนึ่งในผู้เสียหายถูกหลอกจองห้องพัก เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 เมษายน ตนและครอบครัวอยากจะมาเที่ยวที่พัทยาจึงหาที่พักผ่านเพจเฟซบุ๊กจนกระทั่งเจอเพจหนึ่ง ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเพจมีผู้ติดตามเยอะ และมีความน่าเชื่อถือพอสมควร จึงติดต่อสอบถามไปจนตกลงเข้าพัก และโอนเงินมัดจำพร้อมเงินประกันบ้านรวมจำนวน 16,900 บาท หลังจากโอนเงินเรียบร้อย เพจดังกล่าวหายไปนานกว่าครึ่งวัน ไม่สามารถติดต่อได้ จึงรอจนกระทั่งได้รับการติดต่อและได้รับข้อความการจองจากเพจดังกล่าว แจ้งว่า เมื่อถึงบ้านพักแล้วให้โทร. หาบุคคลชื่อ ป้าแมว พร้อมแนบเบอร์โทร. มาด้วย


          ต่อมาก่อนวันเดินทาง มีเหตุแปลกๆ เพราะมีสายติดต่อเข้าในเบอร์สำรองที่ให้ไว้กับทางเพจดังกล่าว โดยมีการสอบถามเรื่องการเข้าพักบ้านพักพูลวิลล่า ทางตนก็แปลกใจว่า ทำไมถึงโทร. มาเบอร์ส่วนตัวได้ แต่ได้ตอบกลับไปว่า ตนเป็นผู้เข้าพักเหมือนกัน ไม่ใช่ทางเจ้าของบ้าน

          จนกระทั่งวันเดินทาง 22 เมษายน ครอบครัวทั้งหมด 18 คน เดินทางถึงบ้านพักพูลวิลล่าที่จองไว้ บริเวณซอยจอมเทียน 12 ชายหาดจอมเทียน และพบคนดูแลบ้านพักอยู่บริเวณหน้าบ้าน และเมื่อแจ้งว่า จองห้องพักผ่านเพจ ทางคนดูแลบ้านจึงตอบกลับว่า ถูกหลอกแล้ว บ้านพักเต็มแทบทุกวัน การจองต้องจองล่วงหน้าเป็นเดือน เมื่อตนพยายามติดต่อไปยังป้าแมวตามที่เพจให้เบอร์ไว้ ก็ติดต่อไม่ได้ และเมื่อพยายามสอบถามทางเพจดังกล่าว กลับถูกบล็อกทันที

          ต่อมาตนเองและครอบครัวพยายามพูดคุยกับผู้ดูแลบ้านพัก กลับไม่ได้รับข้อมูลเท่าที่ควร บอกเพียงถูกโกงเท่านั้น แต่ผู้ดูแลคนเดียวกัน กลับพยายามขายบ้านพักหลังอื่นให้ในราคาที่สูงพอสมควร ซึ่งเป็นจุดที่ตนและครอบครัวรู้สึกคาใจ เมื่อลองคุยกับเจ้าของบ้านตัวจริง ก็รับรู้ว่าบ้านถูกนำรูปไปแอบอ้างนานมากแล้ว มีผู้เสียหายหลายราย แต่ก็ไม่สามารถแก้ไขหรือทำอะไรได้ ทำให้ตนและครอบครัวเกิดความข้องใจว่าทำไมจึงไม่จัดการเรื่องนี้ เพราะมีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก นอกจากกลุ่มตนแล้ว ในวันดังกล่าวก็มีเหยื่ออีก 4-5 กลุ่ม สูญเงินรายละ 6,000 - 10,000 บาท


          หลังเกิดเหตุตนและผู้เสียหายกลุ่มอื่น ๆ ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองพัทยา ทางพนักงานสอบสวนกลับแนะนำให้ไปแจ้งความยังพื้นที่ภูมิลำเนา หรือที่จังหวัดขอนแก่น โดยให้เหตุผลว่า เพื่อความสะดวกในการเรียกสอบปากคำ ก็รู้สึกคาใจเพราะเหตุเกิดในพื้นที่พัทยาทำไมจึงไม่รับเรื่อง สรุปก็ไม่ได้แจ้งความ ซึ่งจากการตรวจสอบในกลุ่มไลน์ของผู้เสียหาย หลายคนยอมรับว่า ไม่สามารถทำอะไรได้ แจ้งความไปแล้วไม่มีความคืบหน้า และไม่ได้รับความช่วยเหลือใด ๆ จึงต้องปล่อยวางเหตุการณ์นี้ไปเฉย ๆ

          สุดท้ายนี้ อยากฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ท่านบิ๊กโจ๊ก ผู้หลักผู้ใหญ่ในเมืองพัทยา ให้มาช่วยจัดการแก้ไขในเรื่องนี้ เนื่องจากส่งผลให้ภาพลักษณ์ และชื่อเสียงของเมืองพัทยาเสื่อมเสียเป็นอย่างมาก นักท่องเที่ยวเสียทั้งเงิน เสียทั้งความรู้สึก อยากให้แก้ไขหรือจับกุมแก๊งมิจฉาชีพนี้โดยเร็ว เพื่อให้เมืองพัทยา น่าอยู่ น่าเที่ยว และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น



ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่อง 3