ทนายแอม ลั่นไม่มีของกลาง ถูกยัดยา ชี้อยู่ในเหตุการณ์คนตายหลายคนแค่โชคร้าย หนุ่ม กรรชัย บอกโดนแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองแล้ว เจอทนายหัวเราะกลางรายการ
กรณี น.ส.ศิริพร ขันวงษ์ หรือ ก้อย เดินทางไปปล่อยปลาที่ท่าน้ำ บ้านโป่ง
จ.ราชบุรี ก่อนที่ก้อยเป็นลมวูบแล้วเสียชีวิต แต่จากกล้องวงจรเปิดพบ
น.ส.แอม เพื่อนของก้อย อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย โดยมีการลงไปสลับมือถือ
ซ้ำไม่ได้ช่วยเหลือและออกจากพื้นที่ไปพร้อมทรัพย์สินของก้อย
ทำให้ญาติรู้สึกคาใจว่าก้อยอาจจะเสียชีวิตแบบผิดปกติ
ต่อมาญาติผู้ตายอีกหลายรายต่างทยอยให้ข้อมูลว่าเริ่มสงสัยสาเหตุการตายที่เกิดก่อนหน้านี้เพราะทุกเหตุการณ์
มักมีชื่อ แอม ปรากฏอยู่ด้วย
รายการโหนกระแส ออกอากาศวันที่ 25
เมษายน 2566 ได้เปิดใจสัมภาษณ์ ส้ม พี่สาวก้อย มาพร้อมคุณแม่, รพี
ชำนาญเรือ ผู้เข้ามาช่วยเหลือเรื่องคดี, รศ. นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวช มศว
ไม่น่าเชื่อว่าน้องก้อยจะเสียชีวิตอย่างปริศนา ขอถามพี่สาว เหตุการณ์วันนั้นเกิดอะไรขึ้น ?
ส้ม : เราติดต่อน้องไม่ได้ แล้วน้องที่ยืมรถเพื่อนไปบอกว่าจะไปหาคุณแอม เราติดต่อไม่ได้ ก็โทร. หาคุณแอม ถามว่าน้องเราอยู่กับเขาไหม เขาบอกว่าไม่ได้อยู่ เขาอยู่อยุธยา หนูก็วางหูไป เราก็พยายามติดต่อน้อง แต่ติดต่อไม่ได้
ตอนแรกเขาบอกว่าไม่ได้ไปด้วย ?
ส้ม : ใช่ค่ะ เขาบอกเขาไม่ได้ไป พอประมาณ 2 โมงเย็น หนูก็โพสต์เฟซบุ๊กเราหาน้อง แล้วมีเพื่อนในเฟซบุ๊กเรา ส่งรูปมาให้ดู ที่เขาโพสต์หาญาติว่าใช่น้องไหม มีคนโพสต์ตามหาญาติ เราเห็นรูปก็ตกใจ เราก็ยังส่งรูปให้คุณแอมว่าน้องเราเสียชีวิตแล้ว คุณแอมพิมพ์มาว่า เฮ้ย จริงเหรอ จริงหรือเปล่า
ตอนได้เห็นรูปที่เขาส่งมาให้ ตอนนั้นเสียชีวิตแล้ว ?
ส้ม : ค่ะ เป็นภาพที่โรงพยาบาล เราก็ส่งรูปให้แอมดูว่าน้องเราเสียแล้ว เขาพิมพ์ตอบมาว่าจริงเหรอ จริงเปล่า ที่ไหนเหรอ เราก็บอกว่าราชบุรี (เสียงสั่นเครือ) ตอนนั้นก็ช็อกมากค่ะ ช่วงระหว่างนั้นก็ติดต่อทางที่เขาส่งมาให้ดู ถามว่าน้องอยู่ไหน เขาบอกว่าน่าจะอยู่ สภ.บ้านโป่ง หนูก็ไปหาร้อยเวร การตายของน้องเราก็สอบถามว่าเป็นยังไง แล้วเราก็ขอไปดูกล้องที่เกิดเหตุ ก็ได้เห็นผู้หญิงตามภาพค่ะ
เปิดคลิปก้อยเดินไปปล่อยปลาที่ท่าน้ำ หลังปล่อยปลา ก้อยเดินกลับขึ้นมาแล้วฟุบที่กลางบันได หลังฟุบ ในเวลาใกล้เคียง ปรากฏภาพผู้หญิงคนหนึ่ง มองลงไป แล้วเดินผ่านไปเลย ผู้หญิงคนนี้รู้จักไหม ?
ส้ม : ตอนแรกเราดูกล้องแล้วแต่จำไม่ได้จริง ๆ เพราะในกล้องขยายแตก เหมือนรูปคนแก่ เราไม่ได้ปักใจเชื่อว่าเป็นเขา เพราะเราเพิ่งโทร. หาเขา เขาบอกว่าเขาไม่รู้ว่าก้อยเสียชีวิตแล้ว
ส้ม : มาสรุปตอนเย็นวันที่ 16 ทางคุณรพีโทร. แจ้งมาว่าคนในรูปคือคุณแอมนะ
รพี : สาเหตุที่เรารู้ว่าเป็นแอม เพราะเย็นวันที่ 16 เราได้เจอรถยาริส ที่น้องก้อยขับออกมาจากบ้านและสับเปลี่ยนรถกับ น.ส.แอม มารับออกไป พอรู้ว่าจอดอยู่ตรงนั้นเป็นหน้าบ้านข้าราชการตำรวจที่อยู่ในจังหวัดกาญจนบุรี มีคนให้ข้อมูลว่าตรงนี้รู้จักกับคุณแอม เราก็เลยโฟกัสมาขอเบอร์โทรศัพท์ว่าให้แอมโทร. หาหน่อยว่าได้รับไปไหม ซึ่งเขาก็ปฏิเสธเบื้องต้นว่าไม่ได้เกี่ยวข้อง ไม่ได้รู้เรื่อง ไม่ได้เป็นคนมารับ พอตอนหลังมาก็ยอมรับ เราเลยได้รู้ว่าเป็นแอม ทางตำรวจก็เรียกคนชื่อแอมไปสอบสวนที่ สภ.บ้านโป่ง และยึดรถโตโยโต้สีบรอน ซึ่งเป็นรถของแอมที่มารับก้อยไปไว้
คุณรพีมีการตามหารถคุณก้อย เพราะตอนก้อยเสียชีวิตที่ท่าน้ำแม่กลอง รถคุณก้อยไม่ได้ขับไป ก็เลยนับหนึ่งว่ารถอยู่ไหน จากนั้นพบว่ารถก้อยไม่ได้จอดอยู่ในที่เกิดเหตุ แต่ไปจอดอยู่บ้านนายตำรวจคนหนึ่ง ซึ่งไปไล่เรียงกัน พบว่าก้อยลงจากรถตัวเองคันนี้และไปขึ้นรถแอม ซึ่งเป็นเพื่อนและขับออกไปด้วยกัน จากนั้นก็มีการแวะที่ปั๊มแห่งหนึ่ง มีการลงไปซื้อเครื่องดื่มบางอย่าง ตรงนี้ไม่ทราบใครเป็นคนลงไป ยังสืบไม่ได้ แต่คิดว่าเร็ว ๆ นี้คงทราบ จากนั้นรถคันนี้ก็มาจอดบริเวณนั้น ทางฝั่งก้อยเดินมาคนเดียว ถือถุงปลามา ตอนนั้นแอมไม่ได้เดินมา จนสุดท้ายก้อยไปปล่อยปลา และเสียชีวิตตรงกลางบันได ผู้หญิงคนหนึ่งเดินมา ยืนยันว่าเป็นแอม แอมเป็นเพื่อนสนิทก้อยด้วย ?
ส้ม : ค่ะ สนิทกับส้มด้วย พอรู้ว่าเป็นเขาก็ช็อกไปเลย ช่วงวันที่ 14, 15, 16 เขาโทร. ถามหนูตลอด หนูก็โทร. บอกเขาตลอด เขาถามว่าน้องเป็นอะไรตาย ใครเกี่ยวข้องหรือเปล่า วันที่ 15 หนูไปรับน้องที่โรงพยาบาลราชบุรี ชันสูตรพลิกศพ เขาก็ยังถามอยู่ว่าผลเป็นยังไง เขาถามข้อมูลจากส้ม เราก็ไม่คิดว่าเป็นเขา
เราสงสัยไหม จากที่เขาบอกว่าเขาไม่ได้ไป ไม่ได้เจอฝั่งก้อย ไม่เกี่ยวกับเขาเลย แล้วพอเจอภาพนี้ขึ้นมา ได้ถามไหม ?
ส้ม : เราไม่ได้คุยเลยค่ะ พอรู้ว่าเป็นเขา เขาพยายามติดต่อเข้ามา แต่หนูไม่พูดค่ะ
รพี : ตอนแรกแอมติดต่อผมมา เพราะเขาทราบว่าผมตามหารถอยู่ เขาปฏิเสธเบื้องต้นทั้งหมด ตอนหลังมาเขาก็ยอมรับว่าคนมารับเป็นเขา ผมก็เลยบอกว่าให้เอาของที่เป็นทรัพย์สินก้อย ที่เป็นกระเป๋าแบรนด์เนม เงิน ที่ญาติเขาบอกว่ามีอยู่ 4-5 หมื่น และโทรศัพท์ 2 เครื่องเอามาคืนซะ ว่าอยู่ที่ไหนอะไรยังไง แอมเขาก็ยังปฏิเสธอยู่ว่าตอนขาไป หิ้วขึ้นรถไปจริง แต่ไปแวะข้างทางที่เป็นบ้านเพื่อนก้อย เอาไปฝากไว้ และเดินขึ้นรถมา เขาก็บอกว่าทรัพย์สินตรงนั้นไม่มี
ได้ถามไหม ทำไมตอนแรกแอมถึงบอกว่าแอมไม่ได้เจอก้อย ?
รพี : เขาแจ้งผมมา พอทุกอย่างยอมรับหมด เขาบอกว่าทรัพย์สินเขาเอาไป แต่เขาเอาไปทิ้ง สาเหตุที่เขาไม่อยู่ช่วยเหลือ เพราะเขาไม่อยากยุ่ง เพราะคนตายได้กำชับไว้ว่าไม่ให้บอกใครว่ามากับใคร มาทำอะไร สองรถที่เขาขับไป โตโยต้าวีออส เขาบอกว่าเป็นรถไม่ค่อยถูกต้องเท่าไหร่เขาเลยไม่อยากพัวพันตรงนี้
เลยเดินผ่านเพื่อนไปเลย ที่เขาหันไปมอง ตอนนั้นคุณก้อยล้มอยู่กลางบันได ?
รพี : พอล้มปุ๊บ ทางแอมได้เดินลงไปหยิบโทรศัพท์ก้อยมา แล้วหยิบโทรศัพท์ที่เขาอ้างว่าเป็นของเขาและไม่มีซิม ทิ้งไว้ที่ก้อย และเขาก็ขึ้นมา โทรศัพท์ของก้อยหายไป ก็เป็นที่น่าสังเกตของญาติว่าทำไมต้องเอาโทรศัพท์ที่ไม่มีซิมซึ่งเป็นของคุณแอมไว้ที่ศพ
นั่นคือสาเหตุเบื้องต้น ที่มีการตั้งข้อสงสัย ข้อสังเกตต่าง ๆ นานา ผลชันสูตรเบื้องต้นเป็นยังไง ?
รพี : ผลชันสูตรเบื้องต้น วันที่ 14 ที่โรงพยาบาลราชบุรี ผลออกมาว่าหัวใจวายเฉียบพลัน ทางโรงพยาบาลราชบุรีได้เก็บชิ้นเนื้อ เลือด ของเหลวในกระเพาะ ส่งศิริราช และโรงพยาบาลตำรวจ ทางญาติไม่ได้รับข้อมูลเรื่องสารแปลกปลอมตรงนี้
ล่าสุดมีการบอกว่าพบสารแปลกปลอม ?
รพี : ได้ยินแล้ว แต่ว่ายังไม่ได้เห็นสารครับ
สภาพน้องก้อยที่เสียชีวิตแล้ว เป็นยังไง ?
ส้ม : วันที่ไปรับที่ราชบุรี ปากจะเขียวคล้ำ ช่วงเล็บ ข้อ ดำหมดค่ะ แต่เราคิดว่าน้องเราโดนวางยาแน่ ๆ ค่ะ (ร้องไห้) ปักใจเชื่อเลยค่ะ
ความน่าจะเป็น ?
นพ.วีระศักดิ์ : ก็ชัดเจน ถ้าตามข่าวโดนพิษไซยาไนด์ ผิวสีจะเป็นสีชมพู แต่บริเวณส่วนกลาง เช่น ปาก ใบหน้า หรือเล็บจะเขียวคล้ำ ถ้าใครไปอยู่ใกล้ ๆ จะได้กลิ่นเป็นถั่วไหม้ มีกลิ่นไซยาไนด์ที่ออกมา แต่ไม่ใช่ทุกรายที่ได้กลิ่น เขียวช้ำก็ไม่ใช่ทุกราย บางรายที่ผิวคล้ำมาก ๆ ก็จะดูยาก แต่อย่างนี้ดูแล้วก็รู้เลยว่าโดนสารพิษครับ เล็บดำก็เป็นส่วนหนึ่งที่ได้รับสารพิษ เขียวช้ำตั้งแต่ปากยันเล็บ
คนกล้ามเนื้อหัวใจวาย จะมีลักษณะใกล้เคียงกันไหม ?
นพ.วีระศักดิ์ : ไม่มีลักษณะที่ใกล้เคียงกันครับ ลักษณะนี้ชัดเจนว่าน่าจะได้รับสารพิษ
เบื้องต้นเวลาออกใบมรณบัตร เขาจะออกรวม ๆ แบบนี้ไว้ก่อน เพื่อให้เอาศพออกจากรโรงพยาบาลไปที่วัดได้ เอาไปทำพิธีทางศาสนาได้ ตรงนี้ยังไม่ได้พิสูจน์แบบเจาะลึก ลงแบบคร่าว ๆ ให้ดูว่าเสียชีวิตเพราะหัวใจล้มเหลว เขาจะลงแบบนี้ไว้ก่อน แต่หลังจากนั้นแหละ เมื่อเป็นคดีความเกิดขึ้น ทางญาติจะส่งศพไปนิติเวชแล้วจะชันสูตรละเอียดอีกครั้ง ?
นพ.วีระศักดิ์ : ถูกครับ แล้วเวลาที่ตรวจ เขาจะมีการเก็บเลือด ปัสสาวะ อาหารในกระเพาะอาหาร ชิ้นเนื้อ ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจ หลังจากเกิดเหตุ เขาดำเนินการถึงวันนี้ ใช้เวลาสัปดาห์กว่า ซึ่งผลก็ออกมาตามที่เป็นข่าว
เป็นสิ่งหนึ่งที่เป็นชนวนเหตุ ทำให้มีญาติผู้เสียชีวิตอีกหลายราย ตั้งข้อสังเกตว่าญาติเขาที่เสียชีวิตอีกหลายคน เกิดขึ้นจากคนคนเดียวกันนี่หรือเปล่า
- วันที่ 13 ธันวาคม 2563 คุณฟ้าเสียชีวิตที่บ้านพักนครปฐม
- วันที่ 16 มกราคม 2564 คุณสุรัตน์ ทรพับ เสียชีวิตที่บ้านพักที่ท่ามะกา
- วันที่ 10 สิงหาคม 2565 ร.ต.ท. หญิงกานดา โตไร่ เสียชีวิตที่หน้าห้างโกลบอล จ.นครปฐม
- วันที่ 12 กันยายน 2565 คุณเอ๊ะ กะณิกา ตุลาเดชารักษ์ เสียชีวิตที่ปั๊มน้ำมันปตท. บริเวณวงเวียนโพธาราม ที่ราชบุรี
- วันที่ 12 มีนาคม 2566 คุณสุทธิศักดิ์ พูนขวัญ เสียชีวิตที่บ้านพัก ที่อุดรธานี
- วันที่ 1 เมษายน 2566 คุณปู พ.ต.ต.หญิง นิภา แสนจันทร์ เสียชีวิตที่องค์พระปฐมเจดีย์
ซี : ก่อนเกิดเหตุ คุณแม่อยู่ที่บ้าน แล้วเหมือนเขานัดแนะจะไปทำบุญด้วยกันกับทางคุณแอม คุณแม่ก็ออกไปแต่เช้ามืดเลยค่ะ ประมาณตี 5 หนูมาทราบเรื่องอีกที ทางบ้านแม่เขารู้ข่าวก่อนว่าแม่หนูเป็นลมอยู่ที่ปั๊ม ซึ่งตอนนั้นหนูยังไม่รู้ เขาก็โทร. ติดต่อหนูมา หนูยังไม่ได้รับสาย มารู้อีกทีเป็นช่วง 11 โมงครึ่ง เพราะหนูโทร. เข้าเบอร์คุณแม่ แล้วแอมเป็นคนรับสาย หนูก็ถามเขาว่าแม่น้องโทร. มาทำไม เขาก็บอกว่าน้าแอมไม่ใช่แม่ ตอนนี้แม่หนูเป็นลมหมดสติ อาการหนักมาก ตอนนี้อยู่โรงพยาบาลค่ะ ตอนนั้นหมดสติตรงปั๊ม ปตท. เลยค่ะ เขาบอกให้หนูทำใจดี ๆ ตอนนั้นหนูจะรีบไปหาแม่แล้ว
สักพักไม่ถึง 10
นาที ทางโรงพยาบาลโทร. มาบอกว่าญาติคุณกะณิกาใช่ไหม เขาบอกว่ารู้เรื่องราวอะไรมาบ้าง
หนูบอกว่ารู้จากเพื่อนแม่ที่ไปด้วยกันว่าแม่เป็นลมหมดสติไป อาการหนักมาก
พยาบาลถามว่ารู้แค่นี้เหรอ มีอะไรอีกไหม เขาบอกว่าคุณแม่มาถึงโรงพยาบาลเหมือนม่านตาไม่ตอบสนองแล้ว
หยุดหายใจไปแล้วด้วย แต่คุณแอมไม่ได้เล่าเรื่องตรงนี้ให้ฟังเลยค่ะ
ตอนนั้นเขาลงในใบมรณบัตรว่าเป็นเส้นเลือดในสมองค่ะ
ลักษณะคุณแม่ ตามนิ้วมือ ตามปาก มีลักษณะยังไง ?
ซี : ซีด ๆ ค่ะ แต่ตอนนั้นหนูไม่ได้เอะใจอะไร
แม่สนิทกับคุณแอมยังไง ?
ซี : หนูก็ไม่ทราบนะคะ แต่ว่าเพิ่งมาเห็นหลัง ๆ ช่วง 3-4 เดือน เพราะหนูไม่ค่อยได้ยินชื่อนี้ด้วย มาได้ยินหลัง ๆ ที่คุยบ่อยมาก คุยทุกวันค่ะ ตอนไปเที่ยวด้วยกันเคยได้ยินคุณแม่บอกว่าเหมือนปรึกษาปัญหาชีวิต เล่าโน่นเล่านี่ค่ะ
ซีสงสัยอะไรอีก ?
ซี : หนูแค่รู้สึกว่าทำไมการตายของทุกคนมันคล้าย ๆ กันค่ะ หนูก็เลยสงสัยว่าทำไมแม่หนูถึงวูบดับเหมือนกัน ตอนนั้นเขาอยู่กับคุณแม่ด้วยค่ะ คนคนเดียวกัน ทุกคนตายในสถานการณ์เหมือนกันทั้งนั้นเลยค่ะ
บิ๊ก : ที่ไปพบศพ คือ 6 โมงกว่า ๆ เขาจะไปทำงาน แล้วเพื่อนที่ไปทำงาน บ้านอยู่ตรงข้ามกัน ก็สงสัยว่าทำไมบ้านมืด ไม่เปิดไฟ เขาเลยให้หลานเข้าไปดู หลายเข้าไปก็ไปพบพี่บีนอนเสียชีวิตที่ชักโครก
ตอนเกิดเหตุคุณบีไปพบใครมา ?
บิ๊ก : ตอนเช้า น้องข้างบ้าน ที่ติดกัน เขาเห็นว่ามีรถกระบะฟอร์จูนเนอร์สีขาวเข้ามา แล้วพี่บีก็พูดว่าเดี๋ยวไปข้างนอกกับเพื่อนนะ เขาก็ไปข้างนอกกัน ไปไหนก็ไม่รู้ กลับมาอีกทีก็เที่ยงกว่า ยันบ่าย เขาก็เข้าบ้านไป แล้วไม่มีใครเห็นเลย เพราะเขาเป็นคนอยู่คนเดียว
เขาไปกับใคร ?
บิ๊ก : ตอนแรกไม่รู้ว่าไปกับใคร แต่ไปเปิดโทรศัพท์เจอรูปคู่กับคนชื่อแอม เป็นรูปสุดท้ายที่ถ่าย
บิ๊ก : ใช่ครับ เขาเป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยเรียน
วันที่ 6 มกราคม 2564 คุณบี ผู้เสียชีวิต เดินทางออกจากบ้านไปกับรถกระบะคันหนึ่ง จากนั้นกลับมาที่บ้านเข้าห้องน้ำ และเสียชีวิตที่ชักโครก ตอนแรกครอบครัวบอกว่าเขาปวดท้องเข้ามา ?
บิ๊ก : ตอนที่เสียคือถอดกางเกงเข้าห้องน้ำอยู่ และเสียชีวิตเลย
บิ๊กบอกว่าฝั่งบี ออกจากบ้านไปมีรถกระบะมารับ ตอนแรกไม่รู้หรอกว่าไปกับใคร จนเปิดโทรศัพท์คุณบี ถึงพบว่าคุณบีถ่ายรูปสุดท้ายในวันนั้นคู่คุณแอม สงสัยอะไรเรื่องนี้ ?
บิ๊ก : ตอนแรกพี่ชายเขาโทร.
ติดต่อกลับไปตอนเสียแล้ว เพื่อจะบอกว่าเสีย แต่เขาไม่รับ ติดต่อก็ไม่ได้
ไปเปิดเจอคือการโอนเงินให้ตอนสิ้นปีกับต้นปีที่ผ่านมาไม่กี่วัน
ติดต่อไม่ได้ แล้วถึงเวลาไล่ลบเฟซบุ๊กกับแชต
ฝั่งโน้นยกเลิกการส่งข้อความ ?
บิ๊ก : หลังบีเสียชีวิตไปแล้ว
สาเหตุการเสียชีวิตคุณบี บอกว่าเหมือนหัวใจตีบ ?
บิ๊ก : ตอนแรกทางญาติติดใจมากว่าเหมือนโดนวางยา เคยจะให้เอาแก้วกาแฟที่เขากินร้านสุดท้ายให้ตำรวจตรวจ แต่ไม่รู้ตำรวจได้ตรวจหรือเปล่า แต่ก็ให้ตำรวจไป
นพ.วีระศักดิ์ : จริง ๆ เป็นภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมาได้ ผมไม่แน่ใจว่าคดีนี้มีการผ่าชันสูตรหรือเปล่า
ซี : ไม่ได้ผ่าค่ะ
นพ.วีระศักดิ์ : เป็นการประมาณ เป็นการประเมินจากการชันสูตรพลิกศพที่เกิดเหตุ ไม่ได้เชิงลึกในการผ่า
ซี : ตอนนั้นก็ฌาปนกิจเลยค่ะ
คุณบีก็ฌาปนกิจแล้ว แต่ก็ติดใจเรื่องการวางยา คิดตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว ?
บิ๊ก : มีคนแถวบ้านเขาเห็นศพ แล้วมือมันดำ ใต้เล็บมือเล็บเท้าเริ่มดำ เขาก็พูดกันว่าน่าจะโดนยา ตอนแรก
นพ.วีระศักดิ์ : จริง ๆ มีลักษณะเป็นกรณีคล้าย ๆ กันแบบนี้ เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ที่ญี่ปุ่น ฆาตกรรมต่อเนื่องหลอกให้รัก แล้ววางยาด้วยไซยาไนด์ เสียชีวิตเป็นสิบ ๆ ราย ก็ถูกจับประหารชีวิตไปแล้ว
ถ้าบ้านเราไม่รู้จะมีหรือเปล่า ?
นพ.วีระศักดิ์ : ก็ต้องดูว่าในบ้านเรามีความเป็นไปได้หรือไม่ กรณีที่จะเอาหลักฐานทั้งหมดในแต่ละรายมาประกอบคดี
ถ้าใส่ไซยาไนด์ให้คนหนึ่งต้องใส่เยอะแค่ไหน ?
นพ.วีระศักดิ์ : ไซยาไนด์เป็นผงสีขาว ปริมาณที่ทำให้เสียชีวิตได้คือ 1 มิลลิกรัมต่อ 1 กิโล ถ้าหนัก 50 กิโล ก็ใช้ 50 มิลลิกรัม จริง ๆ 1 กรัม เท่ากับ 1 พันกรัม ปริมาณน้อยมาก ๆ เท่าปลายเล็บใส่ลงไปในน้ำหรือเครื่องดื่มก็ทำให้เสียชีวิตได้
ล่าสุดแหล่งข่าวแจ้งว่า หลังจับตัวแอมได้ มีการขยายผลไป แอมเอาขวดไซยาไนด์ไปฝากที่คนสนิทคนหนึ่ง ตอนนี้ตำรวจรู้ตัวแล้วด้วย ที่แน่ ๆ แอมกำลังถูกสอบอยู่ โดย รอง ผบ.ตร. คุณรพี กรณีคุณแด้ สุทธิศักดิ์ เท่าที่พี่ไปตามหาข้อมูลมา เขามีเหตุอะไรทำให้สงสัยว่าแอมวางยา ?
รพี : เนื่องจากพอได้รับข้อมูลจากญาติ ๆ ที่มีเสียชีวิตในลักษณะแบบนี้ กรณีของแด้ก็น่าสนใจ เพราะผมได้รับข้อมูลจากเพื่อนเขาว่าทางแด้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับคนชื่อแอม และจากคำบอกเล่า อาจไม่ใช่ก็ได้ ถ้า ณ ตอนนี้ที่แอมท้องอยู่ ก็อาจเป็นลูกคนชื่อแด้
แต่เขามีสามีแล้วนะ เป็นอดีตรองผู้กำกับ ?
รพี : เป็นคำบอกเล่า อาจไม่ใช่ก็ได้
ยังไม่ยืนยันข้อเท็จจริง พี่มีหลักฐานบางอย่างบ่งชี้ได้ว่า 2 ท่าน มีความสัมพันธ์กัน ?
ถ้าเป็นจริง แรงจูงใจมองว่า ?
รพี : ผมมองว่าน่าจะปิดปากในเรื่องของเด็กที่อยู่ในท้อง
ไม่ได้ยืนยันข้อเท็จจริง แต่มีคนแจ้งพี่มา ทุกคนที่เอ่ยชื่อมาทั้งหมด เกี่ยวข้องกับคุณแอมทั้งนั้น เรื่องนี้คุณแอมก็ต้องออกมาชี้แจง ธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ ทนายความแอม อยู่ในสาย ล่าสุดคุณแอมถูกควบคุมตัวแล้ว ?
ธันย์นิชา : ใช่ค่ะ แต่เราประสานอยู่แล้ว ขอเรียนว่าเห็นมีรายงานว่าพบของกลางด้วย จริง ๆ ไม่ได้มีนะคะ ยืนยันค่ะ ไม่มีของกลางค่ะ ช่วยแก้ข่าวตรงนี้ด่วนเลยค่ะ ถ้ามีจะเป็นกรณียัดยาหรือเปล่า เดี๋ยวว่ากันอีกที ตอนนี้ไม่พบ และเจ้าหน้าที่ก็ยืนยันว่าไม่มีจริง ๆ ค่ะ จะบอกว่าพบของกลางไม่ได้นะคะ
เขาบอกของกลางอยู่กับพยานท่านหนึ่ง ข้อเท็จจริงเป็นยังไง ?
ธันย์นิชา : โดยหลักแล้วถ้าจับต้องจับพร้อมของกลางค่ะ อย่างน้อยต้องมีรอยนิ้วแฝง ถ้าใครยัดของกลาง อย่าลืมนะว่ามีการตรวจสอบ เราก็ตรวจสอบด้วย ถ้ากรณีจับพร้อมของกลางเลยนะคะ ปกติจำเลยหรือผู้ต้องหามักจำนนต่อหลักฐานแต่กรณีไม่มีของกลาง หรือจับพร้อมของกลาง พนักงานสอบสวนต้องมีการถ่ายภาพประกอบ ในชั้นศาล จะยกประโยชน์ให้จำเลย ปล่อยจำเลยไป ก็ทำได้อยู่แล้ว ฉะนั้นขออย่างเดียว ให้มีของกลางเถอะค่ะ นี่กำลังเดินทางเข้าไปอยู่นะคะ แต่เจ้าหน้าที่ด้านข้างยืนยันว่าไม่มีของกลางจริง ๆ ทำไมถึงมีข่าวหลุดรอดออกไป แก้ข่าวด่วน ดูให้ดีค่ะ
สังคมตั้งข้อสังเกตว่าข้อพิรุธเกิดขึ้น ทนายมองยังไง ?
ธันย์นิชา : มองว่าต่างคนต่างคิดนะ มองได้หลายอย่าง มองเป็นคนกลาง ก็สามารถคิดและสงสัยได้ แต่อย่างไรก็ดี เอาพยานหลักฐานมายืนยันนะ เพราะการมองว่ามอมหรือวางยาใครก็ตาม ไม่ได้เป็นเรื่องเล่น ๆ นะ ต้องมีพยานหลักฐาน ที่สำคัญคือหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ อีกอย่างการนำสิ่งเหล่านี้เข้าสู่ร่างกาย คุณต้องพกภาชนะนะคะ หรือสิ่งที่นำไปสู่ ถ้าไม่พบ คุณสร้างความเชื่อมโยงไม่ได้ ใครที่กล่าวหามีผลกระทบเยอะ
ธันย์นิชา : ใช่ค่ะ และต้องมีสิ่งที่เชื่อมโยงกันได้ด้วยค่ะ ว่าอะไรที่เชื่อมโยง ซึ่งผู้เชี่ยวชาญ เป็นพยานผู้เชี่ยวชาญ แต่เรื่องการชันสูตรพลิกศพเหล่านี้ ในการแยกธาตุ นอกจากแยกธาตุเจอ แต่ก็ไม่ใช่เขาหรือเปล่าที่เป็นผู้กระทำ อาจเป็นความโชคร้ายที่เขาทำอะไรอยู่ใกล้ ๆ เขา ประชาชนส่วนใหญ่ก็ต้องระวังเหมือนกันนะ
นพ.วีระศักดิ์ : เห็นด้วยเรื่องพยานหลักฐาน แต่กรณีนี้การตรวจแยกธาตุ ต้องรอผลอย่างเป็นทางการ
ธันย์นิชา : ตอนนี้ยังไม่ได้ผลเป็นทางการเหรอคะ
ยังครับ ?
ธันย์นิชา : นั่น
นพ.วีระศักดิ์ : เดี๋ยวจะมีรายละเอียดออกมาในสำนวนตำรวจวันนี้ก็คิดว่าเป็นการให้ข้อมูลทางการแพทย์ว่าลักษณะของอาการเป็นอย่างไร และคนที่นั่งอยู่ที่นี่ที่พูดคุยรู้สึกได้ว่าเป็นข้อที่สงสัยในการตั้งประเด็นสงสัย เป็นผู้สูญเสีย เขาสงสัยในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งหมดก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย
ธันย์นิชา : โอเคค่ะ แหม ตกใจหมดเลย ขอพูดบ้าง แสดงว่าวันนี้ที่มาพบ มานั่งคุยหารือกันเฉย ๆ ผลแยกธาตุยังไม่ออกใช่ไหม
ธันย์นิชา : ขอพูดบ้าง วันนี้เข้าใจว่าแยกธาตุเสร็จแล้ว คณะทำงานของเรา ผู้ที่คาดว่าเป็นผู้เสียหาย เราก็มีคณะทำงาน เก็บข้อมูลล่วงหน้ามาก่อนหน้านี้เราทำงานเหมือนตำรวจนะ เพราะน้องเขากังวลมาก เขาก็พูดหลาย ๆ อย่าง เราออกภาคสนามเก็บข้อมูลหมดแล้ว ตอนนี้แอมโทร. อีกแล้ว โทร. มาตลอด (หัวเราะ) ตอนแรกเข้าใจว่ามีการตรวจชันสูตรพลิกศพแยกธาตุเรียบร้อยแล้ว เพราะคณะทำงานของเราส่วนหนึ่ง มีความรู้เรื่องชันสูตรพลิกศพ การที่ให้ข่าวออกไปไม่ว่าอะไร แต่ต้องบอกว่าเป็นการตรวจสอบกรณีตายผิดธรรมชาติ ต้องมีการชันสูตรพลิกศพ ถ้าตายโดยธรรมชาติ จะมีหัวข้อลึก ๆ ลงไป
ผลการตรวจแม้ออกมา สมมติว่ามี ก็ไม่ได้เป็นข้อยุติว่าน้องเป็นคนทำ สิ่งที่จะประกอบกันได้ คือลายนิ้วมือแฝง สองประจักษ์พยาน พยานวัตถุต่าง ๆ กล้องวงจรปิด เราไปเก็บข้อมูลมาแล้ว ซึ่งที่สื่อได้เห็น เราเชื่อว่าสู้คดีได้แน่นอน และเราจะสามารถนำคนที่ยัดยา ได้ปรากฏแน่ เพราะเรามีกล้องวงจรปิด มีรายงานการใช้โทรศัพท์ มีหลักฐานการเดินบัญชีทุกอย่าง
มีหลักฐานแก้ต่างได้ ?
ธันย์นิชา : ตอนนี้ใช้อำนาจศาลขอเรียกมาอยู่ค่ะ
กรณีนี้ลูกความทนาย คือคุณแอม ด้วยเหตุผลอะไร ทำไมถึงปฏิเสธตั้งแต่แรก ว่าไม่ได้อยู่จุดท่าน้ำตรงก้อยเสียชีวิต ?
ธันย์นิชา : มันอยู่ในสำนวนสอบสวนและเป็นข้อต่อสู้ในชั้นศาล ขออนุญาตพี่หนุ่มขอเป็นการต่อสู้กันในชั้นศาล แต่เราได้แจ้งกับพนักงานสอบสวนไปแล้ว
ญาติ ๆ ผู้ตายตั้งข้อสังเกตอีก 5-7 คน ว่าเป็นฆาตกรต่อเนื่อง หนักใจไหม?
ธันย์นิชา : ไม่หนักใจ พยานวัตถุ ภาชนะต้องมีการเชื่อมโยงได้ และรู้ด้วยว่าบุคคลที่เกี่ยวข้อง มีเจตนาหรืออคติต้องการทำร้ายเขาหรือเปล่า ทำลายเขาหรือเปล่า ผู้เสียหายเขาไปทำอะไรมาก่อนหน้านี้ มีศัตรูมาก่อนหรือไม่ ความขัดแย้งต้องศึกษาด้วยว่าเป็นอย่างไร มีความขัดแย้งกับใครไหม เรื่องอะไร ประกอบกับใบมรณภาพที่เขียนไว้เป็นข้อยุติ ลองถามดูว่ามีสาเหตุบอกว่าเป็นการตายโดยถูกทำให้ตายบ้างไหม ให้ความยุติธรรมกับแอมด้วยเนอะ
มีไหม ?
ส้ม : ยังไม่ได้ผลชันสูตร
ญาติผู้ตายคนอื่น ๆ เขาเผาไปแล้ว เขาแค่สงสัย มีแค่ใบมรณบัตรเหมือนกัน ?
ธันย์นิชา : มันเป็นกรณีค่ะ การตายมีการตายโดยธรรมชาติ โดยมีข้อสงสัย ฉะนั้นถ้าตายโดยธรรมชาติ รู้ว่าตายเพราะอะไร ก็จะไม่มีข้อชันสูตร ข้อชันสูตรดูการแยกธาตุต่าง ๆ ถ้ามีต้องเจอ แต่ถ้าเจอก็ไม่ได้หมายความว่าคนอยู่ด้วยกันสุดท้ายจะเป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ฆ่าเขา มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ศาลก็ไม่ได้เชื่ออะไรง่าย ๆ ศาลก็ยกผลประโยชน์ให้จำเลย ปล่อยจำเลยไปอยู่แล้ว
คิดว่าคุณแอมเป็นบุคคลมหาซวยไหม ไปเกี่ยวข้องกับคนตายหลาย ๆ คน คิดว่าเขาซวยขนาดนั้นไหม ทุกคนลักษณะตายเหมือนกันหมด แสดงว่าคุณแอมเขาซวยมาก มองอย่างนั้นไหม ?
ธันย์นิชา : เรียกว่าโชคร้ายดีกว่าไหม ที่ไปรู้จักคนเยอะแยะมากมาย
ผมว่าโคตรซวยนะ ถ้าไปอยู่ท่ามกลางคนตายหลาย ๆ คน ?
ธันย์นิชา : งั้นโควิดก็ลำบากเหมือนกันนะ ตายร่วงเป็นใบไม้ ถูกไหม มันมีเหตุบังเอิญได้ ต้องดูว่าตายเพราะอะไร ถ้าหากสงสัยในทางกฎหมาย เพียงแค่สงสัย แต่คุณไม่กล้ายืนยัน ออกมาทำรายการมันก็มีผลกระทบต่อเขา เขาก็เอาเรื่องเอาความได้อยู่แล้ว อีกส่วนเราเองใช้สิทธิ์ทางศาลแล้วนะ เนื่องจากว่าน้องเขาตั้งท้อง น้องเขาช่วยแล้ว รับรองสืบพยานหักล้างได้ น้องตั้งครรภ์ค่ะ น้องไม่สามารถเดินได้ตัวปลิวเหมือนหญิงทั่วไป เข้าใจใช่ไหม ก็เลยเห็นสภาพแบบนั้น
มีภาพหนึ่งที่สังคมรับรู้ คุณแอมเดินลงไปหยิบโทรศัพท์ผู้ตายแล้วเดินขึ้นมา จะตอบยังไง ?
ธันย์นิชา : อันนั้นตอบได้ รู้แล้ว โทรศัพท์น้องเขาเสีย เขาที่มากันเพื่อเอาโทรศัพท์ไปซ่อมในตลาด แอมเขาท้อง กรุณาคิดเลยว่าอั้นฉี่ ถ่ายหนัก มันอั้นไม่ได้ เขาเลยให้ผู้ตายถือเอาไว้ เขาบอกขอตัวไปห้องน้ำ ทางเราก็ไปดูสถานที่มาแล้ว ห้องน้ำไกลมาก แต่ไม่มีใครไปหาดูเลยว่าห้องน้ำอยู่ไหน ที่ลุกลี้ลุกลน เกิดจากเขาหาห้องน้ำไม่เจอ เขาเลยวกวนแล้วเดินกลับ
คุณแม่น้องก้อยนั่งอยู่ตรงนี้ แกน้ำตาจะไหลเลย ลูกแกจะตายอยู่ตรงนั้น แต่เพื่อนสนิทจะไปเข้าห้องน้ำ ไม่ช่วยเขาเลย ?
ธันย์นิชา : ไม่ใช่ค่ะ ตอนแรกเขาปลีกตัวไปเข้าห้องน้ำ ที่ทุกคนสงสัย รายละเอียดค่อยคุยกันก็ได้ ตามอยู่ เขาไปหาน้องน้ำไม่เจอ เขาก็วกกลับมา ตอนนั้นน้องเขายังปล่อยปลาอยู่เลย มุมกล้องที่หายไป ก็หายไปเลย
มุมทนายคุณแอม มั่นใจกี่เปอร์เซ็นต์ ในการพลิกชนะคดีได้ ?
ธันย์นิชา : มั่นใจค่ะ แต่ต้องดูว่าฝ่ายโจทก์ มีพยานหลักฐานอะไร ที่เป็นประจักษ์พยาน เป็นพยานหลักฐานที่ศาลรับฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัย เนื่องจากกรณีนี้เป็นความผิด โทษประหารชีวิตได้ด้วย ไม่รู้ข้อหาอะไรนะ มันต้องพิสูจน์ให้ศาลเชื่อจนกว่าจะแน่ใจ
เราเปิดคลิปอยู่ เขาก็เดินตัวปลิวเหมือนกันนะ ?
ธันย์นิชา : กล้องหายไปบางช่วง น่าสงสัย ทำไมให้หาย ต้องการพรีเซ็นต์อะไร
คุณรพี อยากถามอะไรทนาย ?
รพี : อย่างพี่ทนายแจ้งมาว่าแอมท้องอยู่ ถ้าเป็นคนท้อง สามารถโทร. พูดคุย ประสานงาน ตำรวจ กู้ภัย ญาติผู้เสียหายได้ ถ้าไปกับเพื่อน แล้วเป็นแบบนี้ ควรน่าอยู่รอจนกว่าประสานกับญาติได้ ผมสงสัยตรงนี้ น่าจะทำได้ไหม
ธันย์นิชา : ในส่วนตรงนี้ เห็นแล้ว ว่าเขาไปขอความช่วยเหลือ เคยเห็นไฟไหม้ไหม ทำไมบางคนยกของไหว ทำไมบางคนวิ่งเข้ากองไฟ บางคนวิ่งหนีออกมา บางคนแก้ผ้าออกมาเลย บางคนหยิบแค่กางเกงในแล้ววิ่งออกมา ความตระหนกชั่วระยะเท่านั้นที่จะเป็น น้องเขาบอกแล้วนะคะว่าตกใจ ทำอะไรไม่ถูก แต่สิ่งที่เขาทำแล้วคือเรียกคนมาช่วย พนักงานสอบสวนต้องหาพยานบุคคล คนนั้นด้วยนะที่เขาเรียกให้มาช่วย ไม่ได้มีแค่ในคลิปที่พรีเซ็นต์
รพี : ทำไมไม่รอประสานงานต่อ โดยเฉพาะโทรศัพท์น้องก้อย คนโทร. มาทำไมต้องปิดโทรศัพท์ เขายอมรับว่าเขาปิดโทรศัพท์ เขาปิดทำไมครับ
ธันย์นิชา : ใครเป็นคนปิดคะ
รพี : น้องแอม ปิดโทรศัพท์น้องก้อย
ธันย์นิชา : มีใครเห็นไหม
รพี : ไม่มีใครเห็นครับ
ธันย์นิชา : ซิมการ์ดอยู่กับใครล่ะคะ พบไหม ของกลางอยู่ไหนคะ ปิดแล้วถอด
เห็นตอนปิดไหม ในที่เกิดเหตุที่เขาถือไปถือมาเป็นโทรศัพท์ใคร
ตอนนี้รู้ความเป็นไปหมดแล้ว ถ้าผิดทนายไม่ปกป้องนะ เป็นคนตรงมาก ผิดตามผิด
ถูกว่ากันตามถูก
เรื่องนี้ถ้าพิสูจน์แล้วไม่เป็นไปตามที่ทนายคิด จะทำยังไง ?
ธันย์นิชา : จำเลยก็ต้องถูกพิพากษาและเราก็ต้องใช้สิทธิ์ต่อไป อุทธรณ์ ฎีกา แค่นั้นเองค่ะ ทนายความทุกท่านก็ต้องทราบอยู่แล้ว คดีไม่ได้ยุติ จำเลยมีสิทธิ์อะไรบ้าง ก็ต้องยอมรับในคำพิพากษา แต่คดีต้องถึงที่สุด
ล่าสุดคุณแอมถูกตั้งข้อกล่าวหา ?
ธันย์นิชา : ตอนนี้กำลังเดินทางอยู่ ยังไม่เห็นข้อกล่าวหาค่ะ ข้อกล่าวหากรองหรือยัง
กำลังเดินทางมาหาคุณแอม ?
ธันย์นิชา : ใช่ค่ะ ต้องมีทนายด้วย
ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ?
ธันย์นิชา : ข้อหาเดียวเหรอ (หัวเราะ) มีอะไรอีกบ้างคะ
ฟังแล้วเป็นยังไง ?
รพี : เก่งดีครับทนาย แต่ฝากไว้อย่าง บางอย่างกฎหมายเอื้อมไม่ถึง แต่กฎแห่งกรรมถึงแน่นอน ไม่มีใครหนีพ้น
ตำรวจที่เสียชีวิตอีกนายนั่งเก้าอี้อยู่แล้วเสียชีวิตไปเลย คุณปูเสียชีวิตที่นครปฐม ท่านนี้มีส่วนเกี่ยวข้องคือไปรู้จักฝั่งคุณแอมเหมือนกัน เป็นคนที่ 6 จากข้อมูล เห็นบอกว่ามีอีกหนึ่งท่าน ล่าสุดยังไม่เคยเปิดเผยที่ไหนและกำลังสงสัย พี่สาวมองยังไงหลังทนายพูดแล้ว แปลก ๆ ไหม เป็นเพื่อนสนิทกันแต่ไม่ช่วยเหลือ ?
ส้ม : แปลกมากค่ะ พูดไม่ถูกค่ะ แปลกผิดมนุษย์ค่ะ ผิดมนุษย์ที่เขาทำกัน ไม่ใช่เพื่อนเขายังช่วยเหลือเลย แต่นี่คือเพื่อนกันค่ะ
ตอนเขาเดินลงไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เราสงสัยไหม ?
ส้ม : เมื่อกี้ทนายบอกว่าหยิบโทรศัพท์ไปซ่อม แล้วทำไมมายอมรับสารภาพทีหลังว่าทั้งโทรศัพท์ กระเป๋า และเงินในกระเป๋า เอาไปทิ้งขยะ มันฟังแล้วไม่ขึ้นค่ะ แต่คุณบอกว่าจะเอาโทรศัพท์ผู้ตายไปซ่อม มันฟังไม่ขึ้นค่ะ
อาจารย์มองยังไง ?
นพ.วีระศักดิ์ : จริง ๆ ผมว่ามันเป็นเหตุที่สงสัยได้ ที่มาพูดคุยกันก็มีที่มาที่ไปของความสงสัย ซึ่งคุณทนายบอกว่าต้องรอพยานหลักฐาน ซึ่งก็ต้องรอการพิจารณาบนชั้นศาล ก็ให้กำลังใจญาติผู้สูญเสีย กรณีนี้ต้องรอกระบวนการยุติธรรมเช่นกัน และเชื่อว่าตำรวจน่าจะทำงานเต็มที่ในคดีนี้ มีผู้ใหญ่ลงมาดูเยอะ น่าจะได้รับความเป็นธรรม
แม่ : ไม่รู้จะพูดยังไง ก็ขอความยุติธรรมแค่นั้น
นพ.วีระศักดิ์ : ก็ขอเป็นกำลังใจ อย่างไรก็ตามคดีมาถึงจุดนี้แล้ว ก็อย่าหวั่นไหวกับสิ่งที่ได้ยินรอบข้าง เชื่อมั่นใจการทำงานของตำรวจ
สามีจันทร์รัตน์ : ใช่ครับผม
เหตุการณ์เกิดอะไรขึ้น ?
สามีจันทร์รัตน์ : ภรรยาผม เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ได้เดินทางไปพบคุณแอม นัดคุยกัน ออกจากบ้าน 9 โมง นัดเจอกันที่ปั๊มปตท. ภรรยากลับถึงบ้านเกือบ 11 โมง ผมกลับมาบ้านกินข้าวเที่ยง พบภรรยาผมนอนเสียชีวิตแล้ว ตอนแรกผมคิดว่าเกิดจากภรรยาผมมีปัญหาสุขภาพ เขาบ่นปวดหัว นอนคว่ำหน้า น้ำลายไหลออกจากปาก แต่พอมาเจอเคสคุณก้อย และหลายคนที่ออกไปเจอคุณแอมแล้วเสียชีวิต ผมก็เลยมั่นใจว่าภรรยาผมเสียชีวิตเพราะผู้หญิงคนชื่อแอมนี่แหละครับ
รู้ว่าแอมปล่อยเงินกู้ ?
สามีจันทร์รัตน์
: เราได้นำเงินก้อนหนึ่งให้แอมไปปล่อย ภรรยาแจ้งว่า 7 หมื่นครับ
และมีแอมมายืมภรรยาผม เพื่อลงทุนขายของ ภรรยาโอนไปให้ 2 หมื่นกว่า
เขานัดคืนกัน 16 สิงหาคม แต่ภรรยาผมเสียชีวิต 15 สิงหาคม
คุณพร้อมเข้ามาที่สโมสรตำรวจไหม ?
สามีจันทร์รัตน์ : ผมคุยกับคุณรพีแล้ว ว่าผมจะเอาข้อมูลที่ผมมีให้คุณรพีเป็นหลักฐาน ทวงความเป็นธรรมให้ภรรยาผม ไม่อยากให้เรื่องเลว ๆ เกิดขึ้นในสังคมเราครับ
ทั้งหมด 8 ราย ไม่รู้จะมีคนที่ 9 ที่ 10 หรือเปล่า ตามกันยาว ๆ คุณรพีเดินเรื่องนี้ต่อ ?
รพี : ครับ ไม่กลัวครับ
ทั้งนี้ สามารถติดตามชมรายการโหนกระแส
ดำเนินรายการโดย หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน
จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33