เจอตัวพระอาจารย์อาคมแล้ว ที่แท้ถูกจับยักยอกเงินวัด 180 ล้าน สารภาพเสพเมถุน คดีนี้ถูกเชือดไป 3 คน เอี่ยวถึงกันหมด
ภาพจาก เฟซบุ๊ก จุลเจิม ยุคล
จากกรณีที่มีกระแสข่าวพระวชิรญาณโกศล วิ. (คม อภิวโร) หรือ
พระอาจารย์คม พระหนุ่มชื่อดัง เจ้าอาวาสวัดป่าธรรมคีรี (จันดี อนุสรณ์)
ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ลาสิกขาอย่างเงียบ ๆ
รวมถึงมีหนังสือหลุดการแต่งตั้งเจ้าอาวาสคนใหม่แทนที่
ทำให้คนสงสัยเกิดอะไรขึ้นกันแน่
อ่านข่าว : สะพัด พระอาจารย์คม พระสายวิปัสสนาดัง ลาสิกขาเงียบ ว่อนหนังสือแต่งตั้งเจ้าอาวาสแทน
ล่าสุด วันที่ 6 พฤษภาคม 2566 เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมบุคคล 3 คนที่เป็นบุคคลมีชื่อเสียง ดังนี้
1. พระอาจารย์คม วัย 39 ปี ถูกจับข้อหา เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้น เป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต, เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
2. นายวุฒิมาฯ หรือพระหมอ วัย 38 ปี ถูกจับในข้อหา เป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต, เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
3. นางสาวจุฑาทิพย์ วัย 35 ปี ถูกจับในข้อหา เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต, เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และรับของโจร
เปิดที่มาคดีดังกล่าว
จุดเริ่มต้นคดีนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ขอให้ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย บก.ป. เข้ามาตรวจสอบพฤติกรรมพระอาจารย์คมว่า มีการทุจริตเงินวัดไปหรือไม่ ซึ่งตำรวจก็สืบสวนและเข้าไปตรวจสอบในวัด พบว่าผู้ต้องหาเป็นผู้ดูแลการใช้จ่ายเงินต่าง ๆ ของวัด รวมถึงเงินที่ญาติโยมร่วมกันทำบุญกับทางวัด
ส่วนพระหมอ มีพฤติการณ์นำเงินทำบุญบางส่วนของทางวัดไปใช้จ่ายส่วนตัว โดยสั่งให้เจ้าอาวาสนำเงินสดไปมอบให้นางสาวจุฑาทิพย์ น้องสาวของตัวเอง เพื่อฝากเข้าบัญชีธนาคาร
ค้นบ้านผู้ต้องหา พบเงินสด 51 ล้าน เงินในบัญชีอีก 130 ล้าน
เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การสารภาพว่า นำเงินของวัดออกมาจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสืบสวนเพิ่มเติม และค้นบ้านพักนางสาวจุฑาทิพย์ พบเงินสด 51 ล้านบาทเก็บไว้ในลังโฟมและกระเป๋าเดินทาง ยังมีเงินในบัญชีเบื้องต้น 130 ล้านบาท รวมยอดกว่า 180 ล้านบาท
ผู้ต้องหา ให้การสารภาพเพิ่มว่า ระหว่างที่ถือสมณเพศนั้น มีการเสพเมถุนในกุฏิของวัด ถือเป็นการอาบัติปาราชิก ตามข้อบัญญัติทางธรรมวินัย ดังนั้น ผู้ต้องหาจึงสมัครใจที่จะลาสิกขา
ภาพจาก เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว
ภาพจาก เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว
ภาพจาก เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว
