อนุพงษ์ ไชยฤทธิ์ รอง ผอ.ไทยพีบีเอส โพสต์เฟซบุ๊ก สรุป 7 ประเด็นที่เรื่องสถานะไอทีวี ระบุปิดกิจการตั้งแต่ปี 2550 แต่ต้องรักษาสถานะเพื่อฟ้องร้องกับ สปน.
จากกรณีมีการยื่นคำร้องต่อ กกต. ให้ตรวจสอบ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้สมัคร ส.ส. และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล ว่าการมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) 42,000 หุ้นนั้น ถือเป็นลักษณะต้องห้ามในการลงสมัครรับเลือกตั้งหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ นายพิธา ก็ได้ออกมาชี้แจงว่า หุ้นดังกล่าวเป็นของกองมรดก ตนเองมีฐานะ ผจก. มรดก และเคยแจ้งต่อ ปปช. ไปแล้วนั้น
อ่านข่าว : พิธา มาแล้ว ! หลังถูกแฉถือหุ้น ITV ร่ายแจงยิบ ลั่นเรื่องนี้อาจมีเจตนาสกัดก้าวไกล
ล่าสุด วันที่ 10 พฤษภาคม 2566 นายอนุพงษ์ ไชยฤทธิ์ รองผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) หรือไทยพีบีเอส ด้านปฏิบัติการและเทคโนโลยี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Anupong Chaiyariti ชี้แจงเกี่ยวกับสถานะล่าสุดของ ไอทีวี โดยยก รายงานประจำปี 2565 ของบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ระบุว่า
1. หยุดประกอบกิจการสถานีโทรทัศน์ไอทีวีตั้งแต่ 24.00 น. วันที่ 7 มีนาคม 2550 สืบเนื่องจากการบอกเลิกสัญญาร่วมงานของสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
2. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย delist ถอดหุ้นไอทีวีจากการซื้อขายตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม 2557
3. ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการฟ้องร้องพิพาททางกฎหมายกับสำนักปลัด สำนักนายกรัฐมนตรี สืบเนื่องจากกรณีที่อนุญาโตตุลาการวินิจฉัยชี้ขาดว่า
การบอกเลิกสัญญาของ สปน. ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ให้ สปน. ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 2,890 ล้านบาท
3.1 ต่อมา สปน. ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองขอให้เพิกถอนคำวินิจฉัยชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ ซึ่งศาลปกครองมีคำสั่งยกคำร้องของ สปน.
3.2 มกราคม 2564 สปน. ยื่นอุทธรณ์คำสั่งของศาลปกครองกลาง ต่อศาลปกครองสูงสุด คดีอยู่ระหว่างการพิจารณา
4. ปีบัญชี 2565 ไอทีวี มีรายได้จากการลงทุนและดอกเบี้ยรับ 20.5 ล้านบาท (ผลตอบแทนจากตราสารหนี้และตราสารทุน) กำไรสุทธิ 8.5 ล้านบาท
5. ไอทีวี มีบริษัทย่อย 1 บริษัท คือ บ.อาร์ตแวร์มีเดีย ให้เช่าอุปกรณ์ผลิตรายการวิทยุโทรทัศน์ ผลิตรายการโทรทัศน์ ซื้อขายลิขสิทธิ์ภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ และกิจกรรมการตลาดอื่น ๆ สถานะปัจจุบันของบริษัท คือ หยุดประกอบกิจการ
6. กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ที่โดยพฤติการณ์มีอิทธิพลต่อการกำหนดนโยบายและการดำเนินงาน บ.ไอทีวี ในปัจจุบัน คือ บ.อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)
7. การรักษาสถานะความเป็นนิติบุคคลของ บ.ไอทีวี เพื่อดำเนินการฟ้องร้องกับ สปน. (ความเห็นผู้เขียน)
หมายเหตุ ข้อ 7 เป็นความเห็นส่วนตัว/ส่วนข้อ 1-6 เป็นข้อมูลจากรายงานประจำปี 2565 ของ ITV
ข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Anupong Chaiyariti
จากกรณีมีการยื่นคำร้องต่อ กกต. ให้ตรวจสอบ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้สมัคร ส.ส. และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล ว่าการมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) 42,000 หุ้นนั้น ถือเป็นลักษณะต้องห้ามในการลงสมัครรับเลือกตั้งหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ นายพิธา ก็ได้ออกมาชี้แจงว่า หุ้นดังกล่าวเป็นของกองมรดก ตนเองมีฐานะ ผจก. มรดก และเคยแจ้งต่อ ปปช. ไปแล้วนั้น
อ่านข่าว : พิธา มาแล้ว ! หลังถูกแฉถือหุ้น ITV ร่ายแจงยิบ ลั่นเรื่องนี้อาจมีเจตนาสกัดก้าวไกล
ล่าสุด วันที่ 10 พฤษภาคม 2566 นายอนุพงษ์ ไชยฤทธิ์ รองผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) หรือไทยพีบีเอส ด้านปฏิบัติการและเทคโนโลยี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Anupong Chaiyariti ชี้แจงเกี่ยวกับสถานะล่าสุดของ ไอทีวี โดยยก รายงานประจำปี 2565 ของบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ระบุว่า
1. หยุดประกอบกิจการสถานีโทรทัศน์ไอทีวีตั้งแต่ 24.00 น. วันที่ 7 มีนาคม 2550 สืบเนื่องจากการบอกเลิกสัญญาร่วมงานของสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
2. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย delist ถอดหุ้นไอทีวีจากการซื้อขายตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม 2557
3. ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการฟ้องร้องพิพาททางกฎหมายกับสำนักปลัด สำนักนายกรัฐมนตรี สืบเนื่องจากกรณีที่อนุญาโตตุลาการวินิจฉัยชี้ขาดว่า
การบอกเลิกสัญญาของ สปน. ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ให้ สปน. ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 2,890 ล้านบาท
3.1 ต่อมา สปน. ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองขอให้เพิกถอนคำวินิจฉัยชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ ซึ่งศาลปกครองมีคำสั่งยกคำร้องของ สปน.
3.2 มกราคม 2564 สปน. ยื่นอุทธรณ์คำสั่งของศาลปกครองกลาง ต่อศาลปกครองสูงสุด คดีอยู่ระหว่างการพิจารณา
4. ปีบัญชี 2565 ไอทีวี มีรายได้จากการลงทุนและดอกเบี้ยรับ 20.5 ล้านบาท (ผลตอบแทนจากตราสารหนี้และตราสารทุน) กำไรสุทธิ 8.5 ล้านบาท
5. ไอทีวี มีบริษัทย่อย 1 บริษัท คือ บ.อาร์ตแวร์มีเดีย ให้เช่าอุปกรณ์ผลิตรายการวิทยุโทรทัศน์ ผลิตรายการโทรทัศน์ ซื้อขายลิขสิทธิ์ภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ และกิจกรรมการตลาดอื่น ๆ สถานะปัจจุบันของบริษัท คือ หยุดประกอบกิจการ
6. กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ที่โดยพฤติการณ์มีอิทธิพลต่อการกำหนดนโยบายและการดำเนินงาน บ.ไอทีวี ในปัจจุบัน คือ บ.อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)
7. การรักษาสถานะความเป็นนิติบุคคลของ บ.ไอทีวี เพื่อดำเนินการฟ้องร้องกับ สปน. (ความเห็นผู้เขียน)
หมายเหตุ ข้อ 7 เป็นความเห็นส่วนตัว/ส่วนข้อ 1-6 เป็นข้อมูลจากรายงานประจำปี 2565 ของ ITV
ข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Anupong Chaiyariti
