ได้เหรอ ? แม่ผัวร่ายกฎกลางงานแต่ง ขอคุมยันเรื่องเงิน สะใภ้สุดทน ขอล่มงานเอง

           และในที่สุดระหว่างการดูตัวครั้งล่าสุด เธอก็ได้พบกับ สวีเฟิง ชายหนุ่มที่เรียนจบจากมหาวิทยาลัยเดียวกัน และเขาก็ยอมรับในตัวเธอ

           สวีเฟิงเข้าใจในตัวหญิงสาว และชื่นชมที่เธอเป็นคนจิตใจดี กตัญญูต่อบุพการี อย่างไรก็ตาม แม่ของสวีเฟิงค่อนข้างเป็นคนหัวโบราณและเข้มงวดกับว่าที่สะใภ้มาก อีกทั้งยังยื่นคำขาดว่าถ้าฝ่ายหญิงไม่ยอมจ่ายค่าตกแต่งงาน ก็อย่าหวังจะได้ค่าสินสอด

           ที่ผ่านมาหวังเฉียนก็ยอมประนีประนอมมาโดยตลอด จนกระทั่งถึงวันแต่งงาน โดยไม่คิดว่าพฤติกรรมของว่าที่แม่สามีจะยิ่งหนักข้อ ทำให้เธอทนไม่ไหวและลงมือตอบโต้ในที่สุด
           รายงานเผยว่า ในช่วงที่แม่เจ้าบ่าวต้องขึ้นพูดต่อหน้าแขก แม่ของสวีเฟิงได้หยิบโพยที่เตรียมมาล่วงหน้า และอ่านออกมาเสียงดัง บอกว่า "ฉันมีความสุขมากที่ลูกชายได้แต่งงานในวันนี้ และเพื่อจะทำให้ชีวิตแต่งงานของลูกชายมีความสุขขึ้นและดียิ่งขึ้นไปในอนาคต นี่คือไม่กี่เรื่องที่ฉันอยากขอจากเจ้าสาว และยังเป็นกฎตระกูลของเราด้วย"

           โดยกฎที่แม่เจ้าบ่าวเรียกร้อง คือ

           1. ทำงานบ้านทั้งหมด

           2. ดูแลพ่อแม่สามีให้ดี และเชื่อฟังพ่อแม่สามี

           3. ทุกอย่างในบ้าน สามีต้องเป็นผู้นำ และไม่ควรมาจุ้นจ้านเรื่องของสามี

           4. เงินเดือนทั้งหมดต้องส่งให้แม่สามี ซึ่งจะเป็นเก็บไว้ให้พวกลูก และคอยจ่ายค่าครองชีพให้พวกลูกทุกเดือน

           เมื่อแม่สามีกล่าวจบ ก็เริ่มเกิดเสียงซุบซิบในหมู่แขก หวังเฉียนถึงกับอึ้งเมื่อได้ฟังคำพูดเหล่านั้น และหันไปมองเจ้าบ่าวด้วยท่าทางที่เหลือเชื่อ เธอไม่คิดว่าท่าทีการแสดงออกของเขาคือสิ่งที่ควรจะเป็น ทำให้หญิงสาวผิดหวังมาก และไม่ปล่อยผ่านอีกต่อไป

           หวังเฉียนถอดแหวนแต่งงานออกเงียบ ๆ ก่อนจะคว้าไมค์ กล่าวว่า "ฉันอยากแต่งงานจริง ๆ ค่ะ แต่ฉันไม่ใช่คนอ่อนน้อม กฎตระกูลเหล่านี้ทำให้ฉันสูญเสียอิสระในชีวิตและการเงิน ฉันไม่เข้าใจความหมายของการแต่งงานแบบนี้ เพราะฉะนั้น งานแต่งงานนี้ก็ไม่คู่ควรจะพูดถึงอีก"

           เมื่อเธอพูดจบ หวังเฉียนก็เข้าไปจูงแม่ของเธอ เดินออกจากงานไปพร้อมกัน หญิงสาวไม่เสียใจกับการตัดสินใจนี้สักนิด เพราะหากแต่งไปจริง ๆ เธอเชื่อว่าแม่สามีจะปฏิบัติกับเธอไม่ดีอย่างแน่นอน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงแม่ที่อยู่กับเธอ แถมว่าที่สามีก็ไม่ออกหน้าปกป้องใด ๆ มิเช่นนั้นก็คงไม่ปล่อยให้แม่ตัวเองมายืนอ่านกฎตระกูลกลางงานแต่งแบบนี้

           อย่างไรก็ตาม แม้งานแต่งงานจะล่มกลางคัน แต่บรรดาแขกต่างก็เข้าใจและเห็นด้วยกับเจ้าสาว ว่าในยุคนี้แม่สามีไม่ควรเข้มงวดกับว่าที่สะใภ้ขนาดนั้นแล้ว


ขอบคุณข้อมูลจาก CTWANT, 163.com