หมอพรทิพย์ พูดเลือกหรือไม่เลือก พิธา ลั่นเราทำงานบนธรรมะ ทำ อ.ปริญญา-กรรชัย สบตากัน


           หมอพรทิพย์ พูดกรณี ส.ว. จะโหวตเลือก พิธา ก้าวไกล เป็นนายกหรือไม่ ชี้นโยบายก้าวไกล ไม่ได้ตรงใจทั้งหมด พร้อมเผย ส.ว. มาเพื่อปฏิรูปประเทศ แต่ยอมรับว่าปฏิรูปไม่ได้ ลั่น เราทำงานบนธรรมะ ทำเอากรรชัยและ อ.ปริญญา หันไปสบตากัน

โหนกระแส
ภาพจาก โหนกระแส

           วันที่ 16 พฤษภาคม 2566 ในรายการโหนกระแส ได้มีการเชิญ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ปริญญา เทวานฤมิตรกุล, รองศาสตราจารย์ ยุทธพร อิสรชัย และแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ มาเพื่อพูดคุยถึงการเลือกตั้ง หลังจากที่พรรคก้าวไกลประกาศเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล สามารถรวมเสียงได้ 310 เสียง ทว่ายังมีความเคลือบแคลงว่า ส.ว. จะร่วมโหวตให้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่

โหนกระแส
ภาพจาก โหนกระแส

อ.ปริญญา เผย รวมเสียงได้ถึง 310 แต่ตั้งรัฐบาลไม่ได้ ถ้าให้ ส.ส. ถึง 376 รัฐบาลขาดเสถียรภาพ


           ทั้งนี้ อ.ปริญญา เทวานฤมติกุล เผยว่า ในระบบรัฐสภา ประชาชนไม่ได้เลือกฝ่ายบริหารโดยตรง ประชาชนเลือกนายกรัฐมนตรีผ่านการเลือก ส.ส. และ ส.ส. ที่มารวมกันก็จะจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก และจะเลือกใครเป็นนายกรัฐมนตรี ระดับนี้ ถ้าใครรวมเสียงข้างมากก็สามารถเป็นรัฐบาลได้ แต่ในรัฐธรรมนูญปี 60 มีบทเฉพาะกาลที่ให้สิทธิ์ ส.ว. ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน สามารถเข้ามาโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีด้วย

           รัฐธรรมนูญจะมีบทสุดท้าย คือบทเฉพาะกาลคือใช้ชั่วคราว แต่ชั่วคราวนั้นคือ 5 ปี อย่างวาระของ ส.ว. จะมีวาระถึง 11 พฤษภาคม 2567 และการโหวตเลือกนายกจะต้องมีเสียงถึง 376 เสียงในสภา ซึ่งในการตั้งรัฐบาล ถ้ามีเสียงครึ่งเดียวจะทำให้รัฐบาลไม่มีเสถียรภาพ เวลาประชุมบางทีเสียงไม่พอ ต้องมีเสียงประมาณ 250-280 แต่นี่ตั้งได้ 310 กลับยังตั้งรัฐบาลไม่ได้ เพราะต้องมี 376 เสียง

           ด้าน ส.ว. มาบอกว่าขอปิดสวิตช์ตัวเอง แล้วให้ ส.ส. ไปรวมกันเอง แต่มันจะทำให้ระบบรัฐสภามีปัญหา ถ้าตั้งรัฐบาลผสม แต่นโยบายที่หาเสียงไว้มันแตกต่างกันก็จะตั้งรัฐบาลผสมไม่ได้ ซึ่งตอนนี้นโยบายคือไปกันได้ มากกว่านี้นโยบายไปกันไม่ได้ และข้อที่ตามมาคือ ฝ่ายค้านจะน้อยมากจนถ่วงดุลรัฐบาลไม่ได้

           ดังนั้น ตนอยากจะขอว่า ถ้าเขารวมเสียงข้างมากแล้ว ส.ว. จะอนุโลมทำตามเสียงข้างมากได้ไหม เพื่อให้เสนอร่างต่าง ๆ แล้วผ่านได้ ซึ่งบทบาทของ ส.ว. ถ้าตั้งสภาผู้แทนที่มีเสียงเกินครึ่งไม่ได้ ตรงนี้ ส.ว. ก็จะช่วยได้ ถ้ารวมเสียงได้ 310

โหนกระแส
ภาพจาก โหนกระแส

รศ. ดร.ยุทธพร เผย การเมืองนอกสภาก้าวหน้า ในสภาล้าหลัง ถ้าเสียงไม่ถึง 376 ระวังเกิดรัฐบาลไม่ได้


           ด้าน รศ. ดร.ยุทธพร อิสรชัย เผยว่า ด้วยผลจากรัฐธรรมนูญของปี 2560 ทำให้เกิดการแยกส่วนของการเลือกตั้งกับการจัดตั้งรัฐบาล เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้เกิดจากความขัดแย้งทางการเมือง การมี ส.ว. จึงมีเพื่อถ่วงดุลการเมือง และถ้านักการเมืองรวมเสียงได้เกิน 276 ก็ปิดสวิตช์ ส.ว. ได้ แต่หากสุดท้าย ส.ว. ปิดสวิตช์ตัวเองแล้วเสียงไม่ถึง 376 มันก็เกิดรัฐบาลไม่ได้ ถ้าเป็นการเมืองในภาวะปกติ ตรงนี้มันมีรัฐบาลเรียบร้อยแล้ว และทำให้กลไกระบบรัฐสภาบิดเบี้ยว ไม่ได้สะท้อนเจตจำนงประชาชน เราอยู่ในสภาวะที่เรียกว่า การเมืองนอกสภาก้าวหน้า ในสภาล้าหลัง หลังจากนี้ไปมีโอกาสที่จะออกหลายทาง เพราะมันไม่ได้ตรงไปตรงมา

โหนกระแส
ภาพจาก โหนกระแส

หมอพรทิพย์ ส.ว. พูดแล้ว จะยอมโหวตให้ไหม รับไม่ได้ทั้งหมดนโยบาย 10 ข้อ ลั่นเราทำงานบนธรรมะ


           เมื่อถามทางคุณหญิงพรทิพย์ โรจนะสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา บอกว่า ตนไม่ใช่นักกฎหมาย แต่เป็นนักวิทยาศาสตร์ และนักวิทยาศาสตร์จะมองแบบองค์รวม การมีบทเฉพาะกาลเพื่อปฏิรูปการปฏิรูปให้สำเร็จ ณ ตอนนั้นเราถูกเลือกให้เข้ามาเพื่อที่จะขับเคลื่อน (กรรชัยแทรก ยอมรับว่าไม่มีที่ไหนในโลกที่เขาทำ) การเสนอแก้ รธน. ครั้งแรก ตนเป็น 1 ใน 23 คนที่ให้ปิดสวิตช์ ส.ว. เพราะตนเห็นว่าหลักการไม่ควรมี และเอาเข้ามาไม่เห็นปฏิรูปได้

           จากนั้น อ.ปริญญา ถามว่า ที่บอกว่า มี ส.ว. เพื่อที่จะปฏิรูปประเทศ แล้ว 4 ปีที่ผ่านมา มันเป็นไปตามวัตถุประสงค์ไหม หมอพรทิพย์ กล่าวว่า มันเป็นการขับเคลื่อนโครงการปกติเสียเยอะ แต่สิ่งใหญ่ที่ตนอยากเห็นและประชาชนอยากเห็น คือ การปฏิรูปขบวนการยุติธรรม มันไม่เดิน ซึ่งเรามามองในภาพรวมก่อนการเลือกตั้งใหม่ ทุกคนก็ด่า ๆ  แต่เรามองในองค์รวมคือ ไม่ควรมี ส.ว. เลือกนายก และนักวิชาการก็เห็นด้วย

           และพอมาเลือกตั้งเป็นแบบนี้ ทุกคนกลับหมดว่า ให้ พรทิพย์โหวตคนเดียว มันไม่ถูก เพราะโดยระบบมันไม่ควรมี แล้วจู่ ๆ ทำไมเราจะเลือกคนที่เรายังไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรบ้าง พรรคมั่นคงหรือไม่ ประเทศชาติจะล่มสลายไหม แต่เรายังคงหลักการเดิม

           ส่วนคนอื่น ๆ ก็มีกังวลว่า ตนชอบนอกคอก คุยกับใครเขาก็ไม่พูดกับเรา เช่น ทำไม 2 ลุงต้องแยกกัน ก็ไม่มีใครคุยด้ย ณ วันนี้ ตนยังคงปิดสวิตช์ ส.ว. แต่ถ้าถึงวันนั้นก็ว่ากัน ถ้ามองในเชิงรวม ไม่ใช่เพราะกระแสกดดัน ยิ่งกดดัน ตนยิ่งไม่ทำ เพราะตนไม่ทำตามกระแส ตนมองว่า นายกฯ ที่จะมา พรรค นโยบาย ต้องทำให้ประเทศรอด ไม่ใช่กลับไปเหมือนเดิม

           เมื่อบอกว่าตอนนี้ พิธา คือคนที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน เป็นประชามติ จะให้คุณหญิงยกมือได้ไหม คุณหญิงบอกว่า ในเบื้องต้น การที่คุณพิธาหรือก้าวไกลได้ ตนเคารพและเป็นสัญญาณที่ดีของประเทศ ที่จะเป็นการเมืองแบบใหม่ที่ไม่มีนายทุนพรรค แต่จะไปถึงวันนั้นแล้วจะโหวตได้ไหม ตนตอบไม่ได้ เพราะนโยบาย 10 กว่าข้อ เราไม่ได้รับได้หมด ส.ว. บางท่านอาจจะเห็นด้วย เราทำงาน เราอยู่บนธรรมะ ไม่อย่างนั้นอยู่ไม่ได้ถึงวันนี้ และธรรมะกับความมั่นคงของแผ่นดิน คือ สถาบันพระมหากษัตริย์ มันชัด การที่เขาไม่ชัดตรงนี้ ก็ดูสิ่งที่เกิดขึ้นแต่ละคน เรามีหน้าที่ทำให้ประเทศอยู่รอด แต่ไม่หมายถึงเรื่องโหวตกับไม่โหวต


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
หมอพรทิพย์ พูดเลือกหรือไม่เลือก พิธา ลั่นเราทำงานบนธรรมะ ทำ อ.ปริญญา-กรรชัย สบตากัน อัปเดตล่าสุด 16 พฤษภาคม 2566 เวลา 17:20:47 143,796 อ่าน
TOP
x close