สรุปแถลง 3 ข้อพรรคร่วมรัฐบาล ก่อนเซ็น MOU มั่นใจถึง 376 เสียง - ยังไม่คุยเรื่องแก้ ม.112

 
          พรรคร่วมรัฐบาล แถลง 3 ข้อสำคัญ หนุนพิธานั่งนายกฯ เซ็น MOU วันที่ 22 พ.ค. นี้ ไม่กังวลเรื่อง 376 เสียง แม้อาจจะไม่ผ่าน ส่วนเพื่อไทย ย้ำอีกรอบ หนุนก้าวไกลเป็นนายกฯ
          วันที่ 18 พฤษภาคม 2566 ไทยพีบีเอส รายงานว่า พรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 8 พรรค ได้แก่ พรรคก้าวไกล, พรรคเพื่อไทย, พรรคประชาชาติ, พรรคเสรีรวมไทย, พรรคไทยสร้างไทย, พรรคเป็นธรรม, พรรคพลังสังคมใหม่ และพรรคเพื่อไทรวมพลัง มีการจัดแถลงจัดตั้งรัฐบาล มีรายละเอียดดังนี้

          นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงสาระสำคัญของการแถลงในวันนี้ โดยจะมี 3 ข้อ ได้แก่

          1. ทุกพรรคเห็นชอบให้นายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ตามเสียงข้างมากของผลการเลือกตั้งจากประชาชน

          2. ทุกพรรคจะมีการทำ MOU ในการจัดตั้งรัฐบาล เพื่อแสดงแนวร่วมการทำงานร่วมกัน และวาระร่วมของทุกพรรคจะแถลงต่อสาธารณชนวันที่ 22 พฤษภาคม นี้ เพื่อแก้ไขวิกฤตการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม

          3. ทุกพรรคจะจัดตั้งคณะทำงานเพื่อเปลี่ยนผ่านรัฐบาล เพื่อเตรียมความพร้อมให้สามารถบริหารราชการแผ่นดินต่อจากรัฐบาลเดิมได้อย่างไร้รอยต่อ

ยังไม่คุยเรื่อง 112 - ไม่กังวลโหวตนายกฯ

          เรื่อง มาตรา 112 แต่ละพรรคยังไม่ได้หารือในรายละเอียดเรื่องนี้ ส่วนพรรคภูมิใจไทยจะแถลงจุดยืนอย่างไรก็เรื่องของเขา เพราะทางพรรครัฐบาลมีเอกภาพและจุดยืน

          สำหรับประเด็นเสียงโหวตนายกรัฐมนตรี ถ้าทำไม่ได้จะทำอย่างไร เรื่องนี้เรามีคณะทำงาน 2 คณะ มีการวางแผนและทำฉากทัศน์ (Scenario) เพื่อลดความเสี่ยงของความไม่แน่นอน และเรายังไม่กังวล เรื่องการหาเพิ่มให้ได้ 376 เสียง ก็ยังไม่ใช่ประเด็นสำคัญขณะนี้ ตอนนี้ได้แต่หากรอบเจรจาตัวเลขที่สมดุล เพื่อให้จัดตั้งรัฐบาลแบบไม่มีความเสี่ยง

          ทั้งนี้ หากรอบแรกโหวตไม่ผ่าน การโหวตรอบ 2 ก็ไม่กังวล เพราะมีโรดแม็ปและฉากทัศน์ที่วางไว้ชัดเจน จะทำให้การจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จลุล่วง

          การนำรัฐบาลของพรรคก้าวไกล จะนำวาระประชาชนและนโยบายพรรคเป็นตัวตั้ง เอาปัญหาของประชาชนมาก่อน เพื่อให้ทำงานเป็นองคาพยพ และยังไม่คุยเรื่องเก้าอี้รัฐมนตรี


 

เพื่อไทย ย้ำแล้ว ย้ำอีก ย้ำต่อ สนับสนุนพิธาเป็นนายกฯ ตอนนี้มีกระแสปั่นเยอะ

          ขณะที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยมี 141 เสียง จะสนับสนุนนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี และร่วมกันตั้งรัฐบาลตามฝันของประชาชน ตอนนี้มีกระแสปั่นตรงนี้มาก พร้อมยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้เป็นผู้เสนอเงื่อนไข แต่ยกหน้าที่ให้เป็นพรรคเสียงข้างมาก ผ่านกระบวนการ MOU ให้ทุกพรรค ในวันที่ 22 พฤษภาคม นี้ จะบอกว่าร่วมมือกันอย่างไร ทุกอย่างต้องจบที่ MOU ถ้าไม่จบก็ต้องมีทางออก เช่น ประเด็นอ่อนไหว มีความเห็นต่าง ยังไม่มีข้อตกลงร่วม จะแถลงว่ามีกลไกทำเรื่องนั้นอย่างไร เช่น มาตรา 112 ที่ยังมีความเห็นต่างกันมาก

เจ๊หน่อย เน้นทำนโยบายให้ประชาชน สำคัญกว่าแบ่งตำแหน่ง

          คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า พรรคเรายืนยันหลักการเป็นสัญญาประชาคมตั้งแต่หาเสียงว่าสนับสนุนให้ทุกฝ่ายต้องเดินตามครรลองประชาธิปไตย และเมื่อพรรคก้าวไกลได้เสียงเป็นอันดับ 1 ก็ต้องยกมือให้นายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี ถ้าไม่มีหลักก็จะไม่เกิดความวุ่นวาย ส่วนข้อตกลงเรื่องนโยบายยังไม่เริ่มนับหนึ่งที่จะพูดคุยกัน หลังจากวันนี้มีการตั้งคณะทำงานนับหนึ่งทำนโยบาย เพราะเรามองว่าการทำนโยบายที่ให้สัญญากับประชาชนสำคัญกว่าการแบ่งตำแหน่ง แบ่งกระทรวง และถ้าต้องร่วมรัฐบาลเพราะต้องแบ่งกระทรวงไปทำมาหากินคงไม่มาเป็นรัฐบาล


ขอบคุณข้อมูลจาก ไทยพีบีเอส