ทายาทเศรษฐีวัย 18 เพิ่งรับมรดก 560 ล้าน ช็อกเจอศพ หลังจดทะเบียนสมรส 2 ชม.

           รายงานเผยว่า ล่าย (นามสมมติ) นักเรียนชายวัย 18 ปี เป็นลูกชายของมหาเศรษฐี แต่เนื่องจากสุขภาพที่ย่ำแย่ ผู้เป็นพ่อจึงเริ่มโอนย้ายอสังหาริมทรัพย์ 30 แห่งในเมืองไถจง ให้แก่ลูกชายในช่วงหลายปีที่ผ่าน และเพิ่งโอนย้ายเสร็จทั้งหมดในเวลาเพียง 1 เดือน ก่อนเด็กหนุ่มเสียชีวิต

           แม่ของล่าย เผยว่า สามีของเธอเสียชีวิตเมื่อวันที่ 27 เมษายน ที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านั้น เซี่ย (นามสมมติ) ชายวัย 26 ปี กับพ่อของเขา ทำงานเป็นนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ที่ช่วยดูแลจัดการด้านอสังหาริมทรัพย์ให้แก่สามีของเธอ

           อย่างไรก็ตาม เธอมองว่าเป็นเรื่องผิดปกติอย่างยิ่ง ที่นายเซี่ยคนนี้มาจดทะเบียนสมรสกับลูกชายของเธอ เพราะทั้งคู่เพิ่งเจอกันได้เพียง 2 ครั้งเท่านั้นก่อนเขาเสียชีวิต และเธอก็เชื่อว่าลูกชายไม่ได้มีรสนิยมรักร่วมเพศ เนื่องจากเขายังแสดงความสนใจในตัวเพื่อนนักเรียนหญิงที่โรงเรียนมัธยมปลาย ด้วยเหตุนี้เธอจึงเชื่อว่าถูกชายถูกฆ่าเพราะเงิน โดยมีการจัดฉากให้ดูเหมือนการฆ่าตัวตาย
 
           อนึ่ง ภายใต้กฎหมายของไต้หวัน คู่สมรสเพศเดียวกันนับว่ามีสิทธิทางกฎหมายเท่าเทียมกับการสมรสทั่วไป รวมถึงสิทธิในการได้รับมรดกของคู่สมรส

เกิดอะไรขึ้นในวันที่เด็กหนุ่มเสียชีวิต

           แม่ของล่าย เผยว่า ในวันที่ 4 พฤษภาคม เวลาประมาณ 07.00 น. เซี่ยมาหาลูกชายเธอที่บ้านโดยอ้างว่าจะสอนวิธีจัดการอสังหาริมทรัพย์ให้ และน่าจะขอให้ลูกชายเธอนำเอกสารส่วนตัวมาด้วย จากนั้นเซี่ยก็พาลูกของเธอไปที่อพาร์ตเมนต์ของเขา และเดินทางต่อไปยังสำนักงานเพื่อจดทะเบียนสมรส
 
           จากการสอบสวนเพิ่มเติม พบว่าในการจดทะเบียนสมรสนั้นต้องได้รับความยินยอมจากคนนอกของทั้ง 2 ฝ่าย เซี่ยจึงพาเด็กหนุ่มไปหาพยานมาเซ็นรับรองเพิ่มอีก 2 คน โดยพยานดังกล่าวคือชายหนุ่มอายุ 20 กว่าปี ที่เจอในซูเปอร์มาร์เกตใกล้ ๆ

           เป็นที่ทราบว่า เซี่ยได้รับลายเซ็นของพยานทั้ง 2 คนมา หลังถามว่าพวกเขาสนับสนุนการสมรสระหว่างเพศเดียวกันไหม ก่อนจะนำแบบฟอร์มมาให้เซ็น  

           เมื่อจดทะเบียนสมรสแล้ว เซี่ยและล่ายก็กลับมายังอพาร์ตเมนต์ของเซี่ย ในเวลาประมาณ 09.00 น. อย่างไรก็ตาม ต่อมามีคนพบศพของเด็กหนุ่มอยู่ที่พื้นด้านล่างอพาร์ตเมนต์ ตอนเวลา 11.00 น. ซึ่งในช่วงแรกสื่อไต้หวันรายงานว่า เด็กหนุ่มเสียชีวิตจากการตกลงมาจากชั้นที่ 10

แพทย์นิติเวชของครอบครัว มองเหยื่อไม่น่าตายเพราะตกตึก

           หลังเกิดเหตุ ศพของล่ายถูกสำนักงานอัยการเขตไถจงส่งไปชันสูตร ก่อนจะคืนศพแก่ครอบครัว ทางครอบครัวของเด็กหนุ่มจึงติดต่อให้แพทย์นิติเวชอีกราย คือ ดร.เกา ต้าเฉิง เข้ามาตรวจสอบศพและตำแหน่งที่พบศพ ซึ่งต่อมา ดร.เกา มองว่า ไม่น่าเป็นไปได้ที่ล่ายจะเสียชีวิตจากการตกลงมาจากอาคารชั้น 10
 
           ที่เป็นเช่นนั้นเพราะอาการบาดเจ็บของล่ายนั้นเบาเกินไป เมื่อเทียบกับการตกจากที่สูง โดยพบว่าศพมีกระดูกแตกที่ศอกขวา ไม่มีเลือดออกในศีรษะกับช่องท้อง ในทางกลับกัน ดร.เกา คาดว่าล่ายน่าจะเสียชีวิตจากการได้รับพิษมากกว่า โดยมีการอาเจียนออกมาในเวลาไม่นานก่อนเสียชีวิต

           อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานอัยการเขตไถจง ชี้ว่ารายงานการชันสูตรยังอยู่ระหว่างรอดำเนินการ แต่พวกเขาก็เคารพในการกระทำของครอบครัวและบุคคลนอกกระบวนการกฎหมาย ทั้งนี้ ทางสำนักงานฯ ย้ำว่าหลักฐานที่เชื่อมโยงถึงอาชญากรรมต้องกระทำผ่านกระบวนการกฎหมาย พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหยุดอนุมานเรื่องอาชญากรรมเอาเองจากการคาดเดา

           ทั้งนี้ มีรายงานว่าเซี่ยกับพ่อถูกควบคุมตัวไปสอบสวนนาน 5 ชั่วโมง ในวันที่ 22 พฤษภาคม ก่อนที่เซี่ยจะได้รับการประกันตัวออกไปด้วยวงเงิน 300,000 ดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 360,000 บาท) ในขณะที่ครอบครัวของล่ายยังพยายามเรียกร้องให้มีการฟ้องคดี เพื่อให้เซี่ยถูกควบคุมตัว ไม่ให้หลบหนีไปไหน
 
           ขณะเดียวกัน หวง เจียนเหา หนึ่งในสมาชิกสภาเมืองไถจง ยังออกมาเรียกร้องให้เซี่ยพิสูจน์ตัวเองว่าไม่มีแรงจูงใจในการสังหาร ด้วยการทำเรื่องสละสิทธิ์ในการรับมรดกจากล่าย


ขอบคุณข้อมูลจาก มาเธอร์ชิป