x close

ตัวแทน บ.ยาผิวขาว โร่แจงดราม่า ปมเด็กสอบติดเภสัช ตรวจร่างกายเจอสารเสพติด

        ตัวแทนบริษัทยาผิวขาว ยันไม่ได้ผสมสารเมทแอมเฟตามีน เชื่อกินของเลียนแบบ แม่ชี้พิรุธ บริษัทเคยยืนยันแล้วว่าของจริง ด้าน อ.อ๊อด แนะให้ตรวจซ้ำ ชี้เรื่องนี้ต้องมีคนโกหก
ยาผิวขาว
ภาพจาก  ข่าวช่อง 3

         วันที่ 28 พฤษภาคม 2566 ข่าวช่อง 3 รายงานว่า น.ส.นันท์นภัส (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี ชาวบุรีรัมย์ แม่ของหญิงสาววัย 19 ปี ได้ร้องเรียนสื่อพร้อมโชว์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารยี่ห้อหนึ่ง พร้อมกับผลการตรวจร่างกายของลูกสาว จากแพทย์โรงพยาบาลนางรอง อ.นางรอง ว่าในปัสสาวะพบสารเมทแอมเฟตามีน  

         โดยเผยว่า ลูกสาวสอบติดคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ซึ่งเตรียมมอบตัวในวันที่ 30 พฤษภาคม และตามระเบียบต้องมีใบยืนยันผลการตรวจร่างกายแนบด้วย ในวันที่ 26 พฤษภาคม ตนจึงพาลูกสาวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลนางรอง ปรากฎว่าแพทย์ระบุพบสารเมทแอมเฟตามีน เป็นสารชนิดเดียวกันกับยาบ้า อยู่ในปัสสาวะ ทำให้แพทย์ไม่สามารถออกใบรับรองการตรวจให้ได้

         ทั้งนี้ ตนมั่นใจว่าสาเหตุที่พบสารดังกล่าวในร่างกายลูก น่าจะเกิดจากการที่ลูกสาวกินอาหารเสริมผิวขาว ที่ซื้อจาก TikTok  เพราะไม่เคยกินผลิตภัณฑ์อื่นมาก่อน อีกทั้งตนเลี้ยงลูกมาตั้งแต่เล็ก ๆ ลูกเป็นเด็กเรียน ไม่เกเร มั่นใจว่าลูกไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับสารเสพติด

         แม่ยอมรับว่าขณะนี้เครียด เพราะจะต้องนำผลการตรวจร่างกายไปประกอบกับการมอบตัวเข้าเรียนของลูกสาว

ยาผิวขาว

         สิ่งที่เกิดขึ้นตนจึงอยากให้เป็นสื่อกลางตรวจสอบผลิตภัณฑ์ผิวขาวนี้ ส่วนตัวแปลกใจมากเพราะผลิตภัณฑ์นี้ระบุเลขจดทะเบียน อย. ชัดเจน มีแหล่งที่มา แล้วเหตุใดจึงมีสารอันตรายผสมอยู่ หากลูกไม่ไปตรวจร่างกายก็คงไม่พบสารนี้ แล้วคนอื่น ๆ ที่ซื้อไปอีกกว่า 1 ล้านกระปุกตามที่คนขายโฆษณา คงไม่มีใครรู้ว่ามีสารดังกล่าวในอาหารเสริม

         ด้านลูกสาววัย 19 ปี เผยว่า ตนซื้อผลิตภัณฑ์นี้จาก TikTok ที่เพื่อนแนะนำ หลังเกิดเรื่องได้นำอาหารเสริมไปให้คนขายดู แม่ทีมยืนยันว่าที่ตนมีอยู่เป็นผลิตภัณฑ์ของจริง ไม่ใช่ของเลียนแบบ ทำให้ตอนนี้ตนเครียดมาก ๆ เพราะจะต้องไปมอบตัวในวันที่ 30 พฤษภาคมนี้

บริษัทผลิตภัณฑ์เชื่อ กินของเลียนแบบ ยันไม่ได้ใส่สารเสพติด


           ขณะที่ล่าสุด (28 พฤษภาคม) ข่าวช่อง 3  รายงานว่า ตัวแทนบริษัทอาหารเสริม ได้โทรศัพท์ติดต่อหา น.ส.นันท์นภัส เพื่ออธิบายที่มาที่ไปของผลิตภัณฑ์ ว่าผลิตจำนวนมานานกว่า 1 ปี และเท่าที่ทราบ สารแอมเฟตามีน มีราคาสูงกิโลกรัมละเป็นล้านบาท บริษัทไม่นำมาผสมในผลิตภัณฑ์อย่างแน่นอน

           ตัวแทนฯ ย้ำว่าหากมีการพบสารในผลิตภัณฑ์จริง น่าจะเป็นของปลอมที่ทำเลียนแบบขึ้น โดยบางรายกินอาหารเสริมยี่ห้ออื่นที่เป็นของปลอม ก็ถึงกับชีวิตมาแล้ว ทั้งนี้ทางบริษัทพร้อมให้คำแนะนำ หารือแนวทางช่วยเหลือเด็กที่จะไปมอบตัวเรียนต่อ
 
           อย่างไรก็ตาม น.ส.นันท์นภัส ยืนยันว่าเท่าที่ติดต่อกับผู้ขาย มีการโทรศัพท์คุยกันหลายขั้นตอน รวมถึงทางบริษัทผู้ผลิตก็ได้ยืนยันก่อนหน้านี้ ว่าเป็น "ของจริง" ส่วนลูกสาวก็ไม่ได้กินยาชนิดอื่นมาก่อน กินแค่อาหารเสริมนี้เพียง 1 เม็ดตอนกลางคืน ก่อนจะไปตรวจร่างกายเช้าวันรุ่งขึ้น

           นอกจากนี้ยังตั้งข้อสังเกตว่า คำอ้างจากตัวแทนฯ ว่าแอมเฟตามีนมีราคาสูง กิโลกรัมละเป็นล้านบาท เหตุใดคนผลิตของปลอมจะกล้านำมาผสม แล้วขายถูกกว่า

           น.ส.นันท์นภัส ยอมรับว่าตนยังกังวลกับเหตุการณ์นี้ จึงเข้าไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.ประโคนชัย อ.ประโคนชัย เอาไว้แล้ว จะขอทำทุกอย่างเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของลูกสาว ว่าไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และก่อนหน้านี้เคยไปตรวจร่างกายเพื่อส่งเอกสารไปยังมหาวิทยาลัยมา 3 ครั้ง ก็ไม่เคยเจอสารนี้ จนกระทั่งมากินยาดังกล่าว

           ทางด้าน รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์และนักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เผยว่า กลูตาไธโอนที่ใส่ในอาหารเสริม เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่เซลล์ในร่างกายมนุษย์สามารถสังเคราะห์ได้เอง ทำให้ร่างกายไม่ผลิตเม็ดสี มีสูตรโมเลกุลเป็นคนละตัวกันกับยาบ้า จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการตรวจวิเคราะห์ผิดพลาด

           ดังนั้นการที่ตรวจเจอเมทแอมเฟตามีน เป็นไปได้ 2 อย่าง คือ ผู้ประกอบการแอบใส่ยาบ้า หรือผู้เสียหายโกหก ขอแนะนำให้ส่งมาตรวจอีกครั้ง หรือให้ทางคณะเภสัชตรวจปัสสาวะน้องอีกครั้ง

บริษัทยาผิวขาว


ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่อง 3



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ตัวแทน บ.ยาผิวขาว โร่แจงดราม่า ปมเด็กสอบติดเภสัช ตรวจร่างกายเจอสารเสพติด อัปเดตล่าสุด 28 พฤษภาคม 2566 เวลา 15:55:31 33,370 อ่าน
TOP