หนุ่มลั่นไกฆ่าตัวตายในวงเหล้า
เพื่อนเชื่อเครียดปมเพิ่งจดทะเบียนหย่ากับเมีย
เศร้าเพิ่งผ่านวันเกิดวันเดียว ก่อนถึงคราวแยกทางกับคนรัก
วันที่ 1 มิถุนายน 2566 ข่าวช่อง 3 รายงานว่า
เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 31 พฤษภาคม 2566 ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี
รับแจ้งมีเหตุคนยิงตัวตายเสียชีวิตที่บ้านเช่าแห่งหนึ่งในซอยต้นคูณ
ทางเข้าสนามม้าเขต ต.หนองขอนกว้าง อ.เมือง จ.อุดรธานี
ในบ้านหน้าประตูทางเข้าพบศพนายพัฒนพงค์ หรือ เสี่ยออ อายุ 34 ปี ข้าง ๆ ศพ
พบอาวุธปืนขนาด 11 มม. และปลอกกระสุนอีก 1 ปลอกตกในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พยายามปั๊มหัวใจแต่ไม่เป็นผล
ขณะที่ น.ส.นารี ซึ่งเป็นภรรยา รวมทั้งกลุ่มเพื่อน ๆ ต่างร้องไห้เสียใจกับการจากไปของเสี่ยออ โดยบอกว่าผู้ตายเป็นหัวหน้าธุรกิจปล่อยเงินกู้ ซึ่งเดินทางมาที่ จ.อุดรธานี ก่อนเกิดเหตุผู้ตายและภรรยามีเรื่องทะเลาะกัน และได้พากันไปจดทะเบียนหย่า ที่ว่าการอำเภอเมือง จ.อุดรธานี เพราะที่ผ่านมาทั้ง 2 คนมีเรื่องทะเลาะกันมาบ่อยครั้ง หลังจากหย่ากันแล้ว ผู้ตายนั่งกินเหล้ากับเพื่อน ๆ ภายในบ้าน ส่วนภรรยาออกไปข้างนอก สักพักเพื่อนได้ยินเสียงปืน ก่อนพบว่าผู้ตายใช้ปืนจ่อขมับยิงตัวตาย คาดว่าเกิดจากความเครียดที่ต้องเลิกจากภรรยาซึ่งอยู่ด้วยกันมาหลายปี
ขณะที่ น.ส.นารี ซึ่งเป็นภรรยา รวมทั้งกลุ่มเพื่อน ๆ ต่างร้องไห้เสียใจกับการจากไปของเสี่ยออ โดยบอกว่าผู้ตายเป็นหัวหน้าธุรกิจปล่อยเงินกู้ ซึ่งเดินทางมาที่ จ.อุดรธานี ก่อนเกิดเหตุผู้ตายและภรรยามีเรื่องทะเลาะกัน และได้พากันไปจดทะเบียนหย่า ที่ว่าการอำเภอเมือง จ.อุดรธานี เพราะที่ผ่านมาทั้ง 2 คนมีเรื่องทะเลาะกันมาบ่อยครั้ง หลังจากหย่ากันแล้ว ผู้ตายนั่งกินเหล้ากับเพื่อน ๆ ภายในบ้าน ส่วนภรรยาออกไปข้างนอก สักพักเพื่อนได้ยินเสียงปืน ก่อนพบว่าผู้ตายใช้ปืนจ่อขมับยิงตัวตาย คาดว่าเกิดจากความเครียดที่ต้องเลิกจากภรรยาซึ่งอยู่ด้วยกันมาหลายปี
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้่อหา
เพื่อนผู้ตายคนหนึ่ง บอกว่า ผู้ตายเพิ่งครบรอบวันเกิด 34 ปี เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2566 เพียงแค่ 1 วัน และมาวันนี้ต้องมีเรื่องจดทะเบียนหย่ากับภรรยาอีก คาดว่าสาเหตุฆ่าตัวตายครั้งนี้อาจจะเกิดความเครียดจัดปัญหาเรื่องส่วนตัวและต้องหย่ากับภรรยา โดยเพื่อน ๆ ทุกคนต่างเสียใจ ไม่คิดว่าวันหย่าของ 2 สามีภรรยาในวันนี้จะเป็นวันตายของเพื่อน
หลังเกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุและสอบถามพยานเพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่อง 3
