พอล ภัทรพล อดีตพระเอกดัง ฟันธง พิธา รอดคดีหุ้น ITV แน่ แต่ มี 1 คนที่ไม่ควรรอด !

          พอล ภัทรพล อดีตพระเอกดัง ทำคลิปกางข้อกฎหมาย ชี้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ รอดคดีหุ้น ITV แน่นอน แต่ มี 1 คนที่ไม่ควรรอด ผิดเต็ม ๆ คือ คสช. เพราะการทำปฏิวัติรัฐประหาร


          วันที่ 6 มิถุนายน 2566 พอล ภัทรพล อดีตพระเอกชื่อดัง ได้ทำคลิปวิดีโอระบุว่า ว่าที่นายกรัฐมนตรี ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล รอดคดีหุ้น ITV แน่นอน แต่มี 1 คนที่ไม่ควรรอด คือใคร ? ก่อนอื่นต้องขอออกตัวว่าที่ทำคลิปนี้ไม่ใช่เพราะตนเชียร์คุณพิธานะครับ ผมเชียร์ความถูกต้อง ความยุติธรรม ผมเชียร์ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข หมายความว่าถ้าคนอื่นที่ไม่ใช่คุณพิธา จะเป็นใครก็ตามเจอแบบนี้ ผมก็จะทำคลิปนี้อยู่ดี สองผมเคยผลิตรายการให้กับไอทีวี และที่บ้านของผมเคยมีประสบการณ์ตรงเรื่องกับผู้จัดการมรดก และทั้งคลิปนี้ยึดตามหลักกฎหมายโดยตรง สามารถเช็กได้

          เรามาเริ่มจากกฎหมายก่อนว่า ทำไมเขาไม่อยากให้นักการเมืองถือหุ้นสื่อ เพราะกลัวว่านักการเมืองจะมีอิทธิพลต่อสื่อ เช่น เขียนข่าวเชียร์ ซึ่งจะทำให้ได้เปรียบกว่าผู้อื่น ในระยะหลังมีคดีที่คล้าย ๆ กันที่ศาลตัดสินไปแล้วเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2566 เป็นคดีของ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ถือหุ้น AIS 200 หุ้น ซึ่ง AIS มีบริษัทลูกที่ทำสื่อ แต่ศาลตัดสินว่าไม่ผิด ด้วยเหตุผลว่า ถือหุ้นสื่อน้อยไป น้อยจนไม่มีอำนาจไปสั่งการใด ๆ ซึ่งเหมือนคุณพิธา ที่ถือหุ้น ITV ไว้ 42,000 หุ้น ซึ่งคิดเป็น 0.0035% เท่านั้นเอง


          จริง ๆ แค่นี้ควรจะจบแล้ว แต่ยังมีมากกว่านี้พีคกว่านี้ มีเคส ส.ส. พลังประชารัฐ ที่ถือหุ้นสื่อ และบริษัทนี้จดด้วยว่าเป็นสื่อ ศาลพบว่าไม่ได้มีรายได้จากสื่อ แต่มีรายได้จากการฝึกอบรม ศาลจึงตัดสินว่าไม่ผิดและยังมีเคสพรรคภูมิใจไทย ที่ถือหุ้นสื่อ และตัวแทนบริษัทจดวัตถุประสงค์ด้วยว่าตัวเองเป็นสื่อ แต่พอดูงบรายได้จากบริษัทนี้ ไม่ได้มาจากสื่อ แต่รายได้มาจากการจัดแข่งขันกีฬา ศาลก็เลยวินิจฉัยว่าไม่ผิด ซึ่งไม่ต่างจากเคสของคุณพิธาเลย ทุกวันนี้รายได้ของ ITV มาจากการลงทุนเท่านั้น ไม่ได้มาจากสื่อ นี่ยังไม่รวมว่ารายได้ 20 ล้านบาท แต่เป็นหนี้ถึง 1,600 ล้าน ซึ่งเรื่องแค่นี้ก็จบลงได้แล้ว

          แต่เรื่องที่พีคคือผู้จัดการมรดก เนื่องจากที่บ้านผมมีประสบการณ์ตรงเรื่องนี้เช่นกัน ซึ่งตนมองว่าเรื่องนี้ไร้สาระมาก มันไม่ควรเป็นเรื่องเลยด้วยซ้ำ เพราะว่าผู้จัดการมรดกนั้น ไม่ใช่เจ้าของมรดกครับ ไม่เชื่อไปดูนิยมกัน นี่คือเว็บไซต์กระทรวงยุติธรรมระบุว่า ผู้จัดการมรดก มีหน้าที่รวบรวม ทำบัญชี และแบ่งปันทรัพย์สิน ซึ่งเป็นมรดกของผู้ตายให้กับทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกของผู้ตาย และที่สำคัญ ผู้จัดการมรดก ต้องเป็นบุคคลซึ่งศาลมีคำสั่งตั้งให้เป็นผู้จัดการมรดก ซึ่งไม่มีประโยคไหนเลยที่บอกว่า ผู้จัดการมรดกเป็นเจ้าของมรดก


          แต่มีคนหนึ่งที่ผิดเต็ม ๆ คือ คสช. เพราะการทำปฏิวัติรัฐประหารนั้น ผิดกฎหมายอาญามาตรา 113 อยู่ภายใต้หมวดสองว่าด้วยความมั่นคงของรัฐ ทุกคนสามารถค้นหาข้อมูลได้ ซึ่งกฎหมายนี้มีมานานหลายทศวรรษแล้ว ซึ่งเขียนไว้ชัดเจนว่า

          1. ล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานเป็นกบฏ ต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต

          2. ล้มล้างอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร หรืออำนาจตุลาการแห่งรัฐธรรมนูญ หรือให้ใช้อำนาจดังกล่าวแล้วไม่ได้ หรือ

          3. แบ่งแยกราชอาณาจักรหรือยึดอำนาจปกครองในส่วนหนึ่งส่วนใดแห่งราชอาณาจักร


ขอขอบคุณข้อมูลจาก Paul Pattarapon พอล ภัทรพล