หนุ่มโรงงานสุดช้ำ รักจริงโอนสินสอดให้สาวนับแสน ช็อกจู่ ๆ ถูกเท ซ้ำไปตั้งท้องกับคนอื่น

 
            หนุ่มโรงงานสุดช้ำ คบสาวกว่า 1 ปี ยอมไม่เปิดตัวและไม่เคยล่วงเกิน รักจริงหวังแต่ง ทยอยโอนเงิน-ทอง เป็นสินสอด จู่ ๆ มาบอกเลิก บอกดีเกินไป ช็อกท้องกับใคร 3 เดือน

            วันที่ 8 มิถุนายน 2566 รายการ เที่ยงวันทันเหตุการณ์ รายงานว่า จากกรณีหนุ่มรายหนึ่งร้องเรียนว่าถูกสาวที่ทำงานอยู่โรงงานเดียวกัน หลอกว่าจะแต่งงานด้วยให้ช่วยกันเก็บเงิน จึงโอนเงินไปฝากไว้ที่ฝ่ายหญิง เดือนละ 5,000 - 6,000 บาท เป็นเวลา 1 ปี รวมเป็นเงินกว่า 100,000 บาท พร้อมทองอีก 1 บาท สุดท้ายเพิ่งมารู้ว่าฝ่ายหญิงแอบคบซ้อนและกำลังตั้งท้องกับผู้ชายอีกคน ส่วนเงินทองที่โอนไปฝ่ายหญิงก็ไม่ยอมคืน แถมยังด่าทอสารพัด อ้างให้เองด้วยเสน่หา ท้าให้แจ้งความดำเนินคดี

            นายนุ ชายหนุ่มผู้เสียหาย เล่าว่า หญิงคนดังกล่าวชื่อว่า สา ทำงานอยู่ที่เดียวกัน รู้จักกันมาเกือบ 10 ปี ก่อนจะคบหากันเมื่อราว 1 ปีก่อน ซึ่งตลอดเวลานั้นฝ่ายหญิงขอว่าอย่าเพิ่งเปิดตัว ระหว่างคบกันก็พูดคุยกันถึงเรื่องแต่งงาน สาบอกว่า ถ้ารักกันจริงต้องให้พ่อแม่มาสู่ขอ แต่งงานเป็นเรื่องเป็นราว ทางบ้านฝ่ายหญิงเรียกสินสอด เงิน 100,000 บาท ทอง 4 บาท โดยมีข้อความในแชตที่เคยพูดคุยกันเรื่องนี้เป็นหลักฐาน ฝ่ายหญิงถามว่าตนไว้ใจเธอหรือไม่ ถ้าไว้ใจให้โอนเงินมาเก็บเป็นค่าสินสอดเดือนละ 5,000 บาท
            หลังจากพูดคุยกันเรื่องสินสอด ตนก็โอนเงินให้ไปตลอดทุกเดือน บางเดือนได้โอที หรือได้โบนัสก็โอนให้ จนผ่านไป 1 ปี รวมเป็นเงิน 110,500 บาท และทองอีก 1 บาท จนเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา ฝ่ายหญิงมาบอกเลิก อ้างว่าตนเองนั้นดีเกินไป แต่ความจริงคือ เธอไปแอบคบซ้อนกับชายอื่นและกำลังตั้งท้องได้ 3 เดือน ตนก็เสียใจ กินไม่ได้นอนไม่หลับ น้ำหนักลดไป 10 กว่ากิโลกรัม

            หลังจากตั้งสติได้จึงพยายามขอเงินคืน แต่ฝ่ายหญิงบอกไม่มีให้ อ้างว่ามีปัญหาเรื่องการเงิน ภาระทางบ้านเยอะ พร้อมกับแชตด่าตน สารพัดด้วยถ้อยคำหยาบคาย ประชดว่าถ้าอยากได้คืนมาก เดี๋ยวผ่อนคืนให้และจะคืนให้เท่าที่จะให้ได้

            นายนุ เผยว่า ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่คบกัน ตนทำตามที่ฝ่ายหญิงขอและให้เกียรติทุกอย่าง บอกให้รอเปิดตัว ตนก็รอ และไม่เคยทำอะไรเกินเลยฝ่ายหญิง หลังเกิดเรื่องเวลาเจอกันที่ทำงาน ตนพยายามเข้าไปพูดคุยด้วยดี ๆ เพื่อเคลียร์ปัญหา แต่ฝ่ายหญิงก็ปฏิเสธและเดินหนีตลอด ถึงขั้นขอย้ายกะหนี พร้อมทั้งบล็อก การติดต่อทุกช่องทาง และท้าให้ไปแจ้งความดำเนินคดี

คู่กรณี เคยคบกันจริง แต่ไม่ได้หลอก

            ด้าน สา สาวคู่กรณี เปิดเผยว่า เคยคบกับนุจริง แต่ไม่มีเจตนาหลอกลวง ซึ่ง นุ โอนเงินมาให้ตามที่พูดคุยกัน ภายหลังที่คบกัน เธอมีปัญหาเรื่องการเงิน เขาก็บอกว่าให้สามารถนำเงินตรงนี้ไปใช้ได้ เธอมองว่า เงินที่ได้เป็นการให้ด้วยความรักให้ด้วยเสน่หา แต่พอเกิดเรื่องจะมาขอคืน เธอไม่มีให้ เพราะมีภาระค่าใช้จ่ายเยอะ

            ส่วนที่กำลังตั้งท้อง 3 เดือนกับชายคนอื่น ยอมรับว่า เกิดจากความผิดพลาด เนื่องจากไปดื่มเหล้าสังสรรค์กับเพื่อนแล้วพลาดมีอะไรกันจนตั้งท้อง เธอจึงบอกเลิก นุ ด้วยเหตุผลว่าดีเกินไป แต่พอเลิกกันจะมาขอเงินคืน เธอจึงมองว่า นายนุไม่เป็นสุภาพบุรุษ ควรหาผ้าถุงมาใส่

            เมื่อถามว่าตลอดเวลาที่คบกัน นายนุ ยืนยันว่าไม่เคยทำอะไรเกินเลยและให้เกียรติตลอด เพราะเหตุใดจึงมองว่าฝ่ายชายนั้นไม่เป็นสุภาพบุรุษ สา ตอบว่า เพราะเลิกกันแล้วแต่กลับมาทวงเงินคืน ตอนมาทวงก็ใช้น้ำเสียงตะคอก ทำให้เธอรู้สึกว่า ถูกข่มขู่ ถึงขั้นจะทำร้ายร่างกาย จะฆ่า จะแกงกัน จึงมองว่าที่นายนุทำนั้นไม่เป็นสุภาพบุรุษ

            จากการตรวจสอบสตอรี่ TikTok ของฝ่ายหญิง มีการโพสต์ภาพคู่กับหนุ่มปริศนา ซึ่งฝ่ายของ นุ รู้ทีหลังว่า เป็นพนักงานส่งของที่จะคอยมารับของที่โรงงาน ทั้งคู่มีการผูกข้อไม้ข้อมือหมั้นหมายกับฝ่ายหญิงแล้วด้วย โดยมีแผนจะแต่งงาน ประมาณสิ้นเดือนนี้
ขอบคุณข้อมูลจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์