หญิงนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น
เล่าปมเกือบถูกพนักงานร้านนวดฉาวย่านถนนข้าวสารข่มขืน สุดเอือมตำรวจล่าช้า
ซ้ำคดีไม่คืบหน้า หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม
กลายเป็นเหตุการณ์ชวนตกใจซึ่งเกิดกับนักท่องเที่ยว กรณีวันที่
12 มิถุนายน 2566 ทวิตเตอร์ @Reiriesz ได้บอกเล่าเรื่องจากผู้ใช้ทวิตเตอร์ชาวญี่ปุ่น ซึ่งออกมาเผยเหตุการณ์ที่เธอมาเที่ยวเมืองไทยกับแฟนหนุ่มชาวจีน ก่อนจะเข้าร้านนวดแห่งหนึ่งบนถนนข้าวสาร แต่เธอกับแฟนถูกแยกกัน
จากนั้นปรากฏว่าเธอถูกพนักงานผู้ชายพยายามจะข่มขืน เธอจึงร้องโวยวายขึ้น
บอกจะเรียกตำรวจ แต่อยู่ ๆ ผู้ก่อเหตุก็แกล้งทำเป็นพูดภาษาอังกฤษไม่ได้
หลังเกิดเหตุ ผู้เสียหายพยายามโทร. แจ้งตำรวจ ก็ได้แต่ตอบมาว่าอีก 10 นาทีจะมาถึง แต่ผ่านไป 2 ชั่วโมงก็ยังไม่มา เธอจึงต้องลากคนก่อเหตุไปโรงพักเอง จากนั้นเห็นตำรวจพาคู่กรณีไปคุยกันด้านหลัง เมื่อกลับออกมาก็มีท่าทีเปลี่ยนไป
หลังเกิดเหตุ ผู้เสียหายพยายามโทร. แจ้งตำรวจ ก็ได้แต่ตอบมาว่าอีก 10 นาทีจะมาถึง แต่ผ่านไป 2 ชั่วโมงก็ยังไม่มา เธอจึงต้องลากคนก่อเหตุไปโรงพักเอง จากนั้นเห็นตำรวจพาคู่กรณีไปคุยกันด้านหลัง เมื่อกลับออกมาก็มีท่าทีเปลี่ยนไป
หลังเจอแบบนี้ เธอรู้สึกโกรธมาก จึงโทร. ไปร้องเรียนกับสถานทูตญี่ปุ่นในไทย และเมื่อเธอจะไปสถานีตำรวจกลับพบว่าสถานีตำรวจปิดทำการในวันนั้น มันทำให้เธอรู้ว่า ความคิดว่าเมื่อเกิดเหตุร้ายให้โทร. หาตำรวจนั้น ใช้ได้เฉพาะในญี่ปุ่น แต่ให้คุณถูกข่มขืนหรือฆ่าที่นี่ ก็ต้องรับผิดชอบตัวเอง ไม่สามารถพึ่งพาตำรวจได้เลย
ต่อมาผู้เสียหายได้เผยภาพบันทึกประจำวัน ซึ่งเป็นการลงบันทึกที่ สน.ชนะสงคราม เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 ระบุว่าเหตุเกิดช่วงกลางดึกวันที่ 5 กุมภาพันธ์ โดยทางร้านให้พนักงานนวดชายวัย 50 ปี มานวดให้ผู้เสียหายเป็นเวลา 1 ชั่วโมง แต่กลับถูกลวนลาม ซึ่งพนักงานนวดปฏิเสธการกระทำดังกล่าว
ทั้งนี้ หลังเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ไป ได้กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกโซเชียล โดยชาวไทยต่างเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาช่วยเหลือและให้ความเป็นธรรมกับนักท่องเที่ยวรายนี้ เพราะถือเป็นเรื่องที่สร้างภาพลักษณ์ไม่ดีให้กับประเทศ

ภาพจาก ทวิตเตอร์ @de_Bilitis