อุทาหรณ์รีโนเวทบ้าน คันทรมานจนต้องแอดมิต หา 3 หมอกว่าจะรู้สาเหตุจากอะไร อันตรายสุด

           คุณหมอรีบนำตัวไปตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ ตรวจผลค่าต่าง ๆ ของอวัยวะอย่างละเอียด ซึ่งผลตรวจออกมาไม่พบความผิดปกติใด ๆ จึงขอให้แอดมิตนอนโรงพยาบาลเพื่อขอดูอาการต่อ เนื่องจากยังมีไข้ขึ้นสูง และผื่นแดงที่ขึ้นตามร่างกาย ไม่มีทีท่าลดลง

           ส่วนสาเหตุการป่วย แพทย์สันนิษฐานว่ามาจากการแพ้สภาพแวดล้อมอย่างรุนแรง เช่น ไรฝุ่น และแบคทีเรียที่อยู่ในน้ำ เพราะก่อนหน้านี้นายชนะชัย มีประวัติว่ายน้ำในสระว่ายน้ำแห่งหนึ่ง ซึ่งวันนั้นน้ำในสระเริ่มเขียว มีเศษใบไม้ กิ่งไม้ ไม่ใช่แพ้ยา, อาหาร, แอลกอฮอล์ หรืออาการภูมิแพ้แบบทั่วไป

คาดผู้ป่วยแพ้ฝุ่นจากการลอกวอลเปเปอร์

           ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่ ต.สุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา พบกับ น.ส.วัชราภรณ์ อายุ 28 ปี แฟนสาวของนายชนะชัย อายุ 29 ปี ผู้ป่วยที่มีผื่นขึ้นตามตัว

           น.ส.วัชราภรณ์ เปิดเผยว่า แฟนของตนเริ่มมีอาการผื่นแพ้ขึ้นตามตัวตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม 2566 ไม่แน่ใจว่าเกิดจากสาเหตุใด แต่ปกตินายชนะชัยจะชอบตัดหญ้า ตัดต้นไม้ และจัดเก็บข้าวของทำความสะอาดบ้าน ซึ่งในวันที่เริ่มเกิดผื่นแพ้ ตนได้ขอให้นายชนะชัยลอกวอลล์เปเปอร์เพื่อรีโนเวทร้านใหม่ จึงคิดว่าน่าจะแพ้ฝุ่นจากการลอกวอลล์เปเปอร์
           โดยนายชนะชัยเริ่มมีผื่นขึ้นตามลำตัวด้านข้างใกล้กับราวนมซ้าย ช่วงแรกก็ไม่ได้คิดอะไร กินแค่ยาแก้แพ้และหายามาทาผื่น หลังจากผ่านไป 4 วัน ผื่นได้ลุกลามมากขึ้นไปรอบลำตัว และมีอาการไม่สบายตัวเหมือนจะมีไข้ จึงตัดสินใจไปหาหมอที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง
           เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ก็ให้ไปนอนรอตรวจที่ห้องฉุกเฉิน และตรวจหาเชื้อโควิด 19 ซึ่งผลการตรวจไม่พบเชื้อ แพทย์จึงวินิจฉัยเบื้องต้นว่าป่วยเป็นอีสุกอีใส ให้ยาลดไข้มา นายชนะชัยจึงขอใบรับรองแพทย์เพื่อมาใช้ลาหยุดงาน 5 วัน หลังจากนั้นนายชนะชัยก็กินยาที่ให้มา แต่อาการไม่ดีขึ้น จึงคิดว่าไม่น่าจะใช่โรคอีสุกอีใส น่าจะเป็นโรคอย่างอื่นมากกว่า
           หลังจากไปหาหมอที่โรงพยาบาลแรกอาการไม่ดีขึ้น วันต่อมาจึงไปหาหมอที่คลินิกแห่งหนึ่งในตัวเมืองโคราช ซึ่งหมอที่คลินิกก็ฉีดยาและให้ยาทาเกี่ยวกับโรคผิวหนังมา ทำให้อาการผื่นคันดีขึ้น แต่ยังมีอาการไข้ขึ้นสูง วันต่อมาจึงตัดสินใจไปหาหมออีกโรงพยาบาลหนึ่ง ซึ่งได้รับการตรวจเอกซเรย์ทุกอย่าง ตรวจปัสสาวะ ตรวจเลือด แต่ผลการตรวจเลือดก็ไม่มีอะไรผิดปกติ หมอจึงวินิจฉัยเบื้องต้นว่าอาจจะเกิดจากภูมิแพ้สภาพแวดล้อม และอนุญาตให้กลับบ้าน โดยนัดมาตรวจอีก 2 สัปดาห์

           ผลจากการไปหาหมอครั้งล่าสุด อาการเริ่มดีขึ้นมาตามลำดับ จึงเชื่อว่าน่าจะเกิดจากภูมิแพ้สภาพแวดล้อมจริง ๆ โดยอาการตอนนี้ ตุ่มผื่นคันหายหมดแล้ว เหลือเพียงร่องรอยเป็นสีน้ำตาล ซึ่งหมอบอกว่าให้ทายาบำรุงผิวหนังไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวรอยดังกล่าวก็จะเริ่มจางหายไปเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Watcharaphon Waenthongkham