บิ๊กโจ๊ก แถลงปิดคดี แอม ไซยาไนด์ พบพฤติกรรมเข้าข่ายฆาตกรต่อเนื่อง ฟันโทษ 75 ข้อหา พร้อมดำเนินคดีอดีตสามีตำรวจและทนายพัช
วันที่ 30 มิถุนายน 2566 เรื่องเด่นเย็นนี้ รายงานว่า พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงสรุปสำนวนคดี แอม ไซยาไนด์ พบพฤติกรรมเข้าข่ายฆาตกรต่อเนื่อง ส่วนชนวนเหตุ หากเหยื่อเป็นผู้หญิงจะเกี่ยวกับเงินและทรัพย์สิน ถ้าเหยื่อเป็นผู้ชายจะเป็นคดีเกี่ยวกับเพศ พร้อมดำเนินคดีอดีตสามีตำรวจและทนายพัช หรือ น.ส.ธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ ฐานให้ความช่วยเหลือ
โดยคดีแรกเกิดในปี 2558 ต่อเนื่องถึงปี 2566 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 14 ราย รอดชีวิตแค่ 1 ราย และผู้เสียชีวิตมีความเกี่ยวพันกับแอมในฐานะเจ้าหนี้เงินกู้, นายหน้าขายรถมือสอง และลูกวงแชร์ ซึ่งสาเหตุมาจากติดพนันออนไลน์ ทำให้มีหนี้สินเงินกู้ทั้งในและนอกระบบจำนวนมาก
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า แอมถูกดำเนินคดี 75 ข้อหา แยกเป็นต่างกรรมต่างวาระตามแต่พฤติกรรมในแต่ละคดี เช่น พยายามฆ่าผู้อื่น, ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ชิงทรัพย์โดยเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เป็นต้น ซึ่งข้อหาที่สั่งฟ้องมีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต และแอมไม่เข้าข่ายได้ลดโทษเพราะตั้งครรภ์ เนื่องจากแท้งเด็กในครรภ์ไปแล้ว โดยพนักงานสอบสวนจะทยอยส่งสำนวนให้อัยการตั้งแต่วันนี้ (30 มิถุนายน)
ภาพจาก เรื่องเด่นเย็นนี้ ช่อง 3
จากพฤติการณ์ก่อเหตุของ แอม สามารถสรุปได้ 3 รูปแบบ คือ
1. ขับรถไปรับผู้ตายจากบ้านเพื่อไปกินข้าวแล้วลอบวางไซยาไนด์ ก่อนจะพาส่งบ้าน แล้วยาออกฤทธิ์ ทำให้เสียชีวิต
2. รับผู้ตายจากบ้านและลอบวางไซยาไนด์เสียชีวิตกลางทาง
3. ส่งแคปซูลยาให้เหยื่อ โดยอ้างว่าเป็นยาลดความอ้วนไปให้ผู้ตายถึงที่บ้าน
ทุกครั้งหลังก่อเหตุจะโทรศัพท์หาเหยื่อหรือคนใกล้ตัวเหยื่อว่ามีอาการหรือไม่ หากมีอาการแล้วจะตัดการติดต่อทันที และทุกครั้งจะหาทางทำลายข้อมูลในมือถือเหยื่อ เพื่อไม่ให้เชื่อมมาถึงตัวเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเด่นเย็นนี้ ช่อง 3