2 คู่กรณี พิมรี่พาย ออกโหนกระแส แฉสัญญาทาส ให้ผลิตน้ำปลาร้าล้านขวด ดีใจนึกว่าได้ดีลใหญ่ถึงขั้นไปกู้หนี้นอกระบบมา สุดท้ายโดนเท เพราะหาว่าน้ำปลาร้าเค็ม พบวิธีการคิวซีของพิมรี่พาย คือใช้ปากชิม !
ภาพจาก โหนกระแส
กำลังเป็นกรณีดัง กับเรื่องราวของโรงงานน้ำปลาร้า ที่ออกมาบอกว่าพิมรี่พาย เทออร์เดอร์ที่สั่งไว้ จนโรงงานน้ำปลาร้าติดหนี้ 14 ล้าน วันนี้ 6 กรกฎาคม 2566 ในรายการโหนกระแส คุณต่ายและคุณกบ 2 โรงงานน้ำปลาร้าที่ได้รับผลกระทบ ได้ออกมาเผยถึงเรื่องนี้แล้ว
คุณต่าย คู่ค้าพิมรี่พาย ลงทุน 20 ล้าน สร้างโรงงานผลิตน้ำปลาร้า นึกว่าได้ดีลใหญ่ เจอเทตั้งแต่สั่งของล็อต 2
คุณกบและคุณต่ายรู้จักกัน จากการที่คุณกบเคยสอนสูตรปลาร้าคุณต่ายจนคุณต่ายตั้งตัวได้ และทำโรงงานน้ำปลาร้า วันหนึ่งมีคนโทร. หาคุณต่าย แต่ไม่บอกว่าเป็นใคร บอกว่าอยากผลิตปลาร้าวันละ 500,000-600,000 ขวด แต่โรงงานคุณต่ายผลิตได้จริงแค่วันละหลักหมื่นขวด จึงมีการสอบถามว่าคุณต่ายมีโรงงานอื่นไหม ทำให้คุณต่ายแนะนำงานไปที่คุณกบ (โรงงานปลาร้าแม่ประกาศ) อันเป็นโรงงานปลาร้าระดับประเทศ จากนั้นจึงบอกว่าคนที่ติดต่อมาคือผู้จัดการของพิมรี่พาย คุณกบก็ไปดีลกับพิมรี่พาย พิมรี่พายบอกว่า คุณพร้อมที่จะเดินไปกับเราไหม โน้มน้าว คุณกบ คุณต่าย ให้สร้างโรงงานทุกอย่าง
ภาพจาก โหนกระแส
คุณต่ายพอรู้ดังนั้น ก็ดีใจใหญ่ เพราะตนเป็นเอฟซีพิมรี่พายอยู่แล้ว ตนพร้อมจะลงทุน คิดว่าได้ดีลใหญ่มหาศาล คุณต่ายมีโรงงานอยู่แล้วแต่ไม่พอ คุณต่ายเลยเอาเงินเก็บลงทุน 20 ล้าน เปิดโรงงานใหม่เพื่อผลิตของให้พิมรี่พาย พิมรี่พายต้องการกำลังการผลิตให้ได้ 1 แสนขวดต่อวัน
จากนั้น คุณต่ายก็เลยไปกู้นอกระบบมา 2 ล้าน ขึ้นโรงงานด้วย ลงทุนทั้งหมด 20 ล้าน ก็เข้าไปสู่ขั้นตอนการผลิต พิมรี่พายชิมสูตรโรงงานของคุณต่ายแล้วโอเค พิมรี่พายบอกส่งสินค้าล็อตแรก 1 เมษายน 2564 และสามารถส่งล็อตแรกได้ทันเวลา และส่งล็อตแรก 60,000 ขวด จ่ายเงินครบไม่มีหนี้ค้างกัน จากนั้นมาที่ล็อต 2 จ้างผลิต 60,000 ขวดอีก พิมรี่พายกลับไม่เอา แม้จะผลิตแล้ว ทั้งที่รถจะขึ้นของแล้วแต่โดนแคนเซิล เพราะบอกว่าทำแล้วมันเค็ม ตนเลยชี้แจงว่า แต่ก่อนทำส้มตำ 2 ทัพพี แต่พิมเทจริง 4 ทัพพี มันก็ต้องเค็ม เราทำโรงงานมีมาตรฐานวัด แต่พิมรี่พายใช้ปากชิม
เมื่อเป็นแบบนั้น คุณต่ายที่ลงทุนไป 20 ล้าน ต้องไปหาพิมรี่พาย ลงจากร้อยเอ็ดมาที่ กทม. มาไหว้ขอ ขอให้ชิมเองต่อหน้าว่าพิมรี่พายอยากได้แบบไหน เราก็ไปกลับมาทำมาใหม่ จนวันสุดท้ายที่มา พิมรี่พายบอกว่า เอาสูตรนี้แหละ เอาไปเลยคนละ 10 ล้านขวดเลยไหม โดยการยึด PO เก่า และให้ดีลกับจัดซื้อของพิมรี่พายเอง
ภาพจาก พิมรี่พาย ขายทุกอย่าง
พิมรี่พาย อยากได้ผลิตน้ำปลาร้า 10 ล้านขวด ลงทุนสร้างโรงงานใหม่ พอจะผลิตเข้าไป เจอสัญญาทาสจนไม่กล้าเซ็น
ส่วนของคุณกบ นั้น เมื่อพิมรี่พายอยากได้ของล็อตใหญ่มาตรฐาน คุณกบเลยลงมาเจอพิมรี่พายที่ กทม. และไปเจอกันที่ร้านกาแฟ สุดท้ายพิมรี่พายไปเจอกันที่โรงงานที่ขอนแก่น เมื่อเข้าโรงงานของเจ๊กบ พิมรี่พายบอกว่าจะมีการทำโปรโมชั่นเปิดฝาน้ำปลาร้า ต้องการให้มีการผลิตน้ำปลาร้า 10 ล้านขวดขอกำลังการผลิต 5 แสนขวดต่อวัน คุณกบเลยบอกว่า ไม่มีโรงงานไหนทำได้ โรงงานตนมีมาตรฐานสูงที่สุดในประเทศ พิมรี่พายขอซื้อโรงงานนี้ แต่คุณกบขายไม่ได้เพราะเป็นของตระกูล และคุณกบต้องแคร์แบรนด์เล็กที่ผลิตกับคุณกบด้วย โรงงานตนเกิดได้เพราะแบรนด์เล็ก คุณกบเลยบอกพิมรี่พายว่า จะเอาที่มาสร้างโรงงานใหม่ ผลิตน้ำปลาร้าให้พิมรี่พายโดยเฉพาะ
ในระหว่างที่สร้างโรงงาน ขึ้นเสาเอก เสาโท คุณกบก็รายงานความคืบหน้าให้ตลอด จากเดิมเสนอขอทั้งหมด 10 ล้านขวด ก่อนลดมาคนละ 3 ล้านแบ่งระหว่างคุณกบและคุณต่าย เมื่อทำไม่ได้จึงขอลดออร์เดอร์ คุณกบผลิตได้แค่ 1 ล้านขวด คุณต่ายผลิตได้ 7 แสนขวด เราขอส่งวันละ 5 หมื่นขวด แต่พอจะเริ่มผลิตมีการส่งสัญญามาให้เซ็น 16 ฉบับ กลับพบว่า มันเป็นสัญญาทาส ทำโน่นทำนี่ไม่ได้คือปรับ เช่น ถ้าส่งของไม่ทันปรับ 75% จนรู้สึกว่า ถ้าจะเขียนขนาดนี้ ยึดโรงงานตนไปเลย ทำให้ทางคุณกบและคุณต่ายไม่กล้าเซ็น
ภาพจาก Pimrypie - พิมรี่พาย
โรงงานน้ำปลาร้า แฉ พิมรี่พาย เอาฉลากที่ระบุโรงงานหนึ่ง ไปแปะอีกโรงงาน โดนเทครั้งใหญ่มหาศาล มารับผิดชอบด้วย
ราคาที่เสนอซื้อคือ ต้นทุนขวดละ 12.80 สตางค์ (โรงงานคุณต่าย) และ 13 บาท (โรงงานคุณกบ) ผลคือคุณกบจะได้ 13 ล้านบาท คุณต่ายจะได้ 9 ล้านบาทกว่า เมื่อคุณต่ายทักหา กลับพยายามบอกว่าเคลียร์โกดัง ทักนาน ๆ ไปไม่ตอบ
เมื่อถามคุณกบและคุณต่ายว่า อยากได้อะไร คุณกบบอกว่า ตนไม่เคยคิดที่จะฟ้อง แต่บอกว่าสินค้าคุณกบไม่มีมาตรฐาน มันไม่ใช่ ตนอยากเรียกร้องความเป็นธรรม และให้พิมรี่พายชดใช้ ทั้งค่าสินค้า 1 ล้านขวด 13 ล้านบาท ค่าก่อสร้างโรงงาน ค่าอุปกรณ์ ค่ารถที่ออกมาเพื่อวิ่งน้ำปลาร้าให้พิมรี่พายโดนเฉพาะ โดยค่าโรงงาน+รถ 7 ล้าน รวมทั้งหมด 20 ล้านบาท
คุณต่ายต้องการค่าสินค้า และมีฉลากของบริษัทไปสวมให้โรงงานอื่น เพราะถ้าจะส่งออกต่างประเทศต้องใช้เอกสาร เมื่อเช็กแล้วไม่ใช่ ทำให้รู้ว่า พิมรี่พายจ้างผลิตน้ำปลาร้า 4 เจ้า โรงงานของคุณต่ายและคุณกบมี อย. ส่วนอีก 2 เจ้า ยังไม่มี อย. และพบว่าฉลากที่พิมรี่พายเป็นคนออก ระบุว่าสินค้าผลิตที่โรงงานคุณกบและคุณต่าย ได้เอาไปสวมให้โรงงานอื่น โรงงานอื่นโพสต์ข้อความส่งสินค้าได้มากมาย แต่คุณกบและคุณต่ายได้แต่นั่งมองโรงงานอื่นผลิต แล้วเอาฉลากที่ระบุว่าผลิตที่โรงงานของตัวเองไปสวม
ภาพจาก โหนกระแส
ลำไย อดีตพนักงานพิมรี่พาย ชี้ เรื่องนี้เป็นเรื่องของในบริษัท โรงงานน้ำปลาร้าไม่ผิด จนคุณกบร้องไห้
ด้าน คุณลำไย อดีตพนักงานของพิมรี่พาย กล่าวว่า ตนทราบว่ามีการเปิด PO แต่ไม่สามารถรับสินค้าได้ ทั้งเรื่องการส่งสินค้า การกระจายสินค้า ปัญหาเกิดจากการที่คนหนึ่งดีล คนหนึ่งสั่งงาน เมื่อยกเลิกสั่งงาน ต้องยกเลิกหมด เรื่องนี้ซัพพลายเออร์ไม่ผิด (คุณกบร้องไห้)
ส่วนเรื่องที่พิมรี่พายอ้างว่า มีปัญหาคุณภาพนั้น ไม่ใช่ความจริง ซัพพลายเออร์มี อย. ถูกต้อง ส่วนเอาฉลากไปสวมนั้นไม่ขอตอบ แต่มีการผลิตและนำส่งเพื่อกระจายสินค้าอีกโลเคชั่นหนึ่ง ส่วน 4 โรงงานที่ดีลนั้น 1 โรงงานมีแน่นอน ส่วนอีก 3 นั้นตนไม่ทราบ
ภาพจาก โหนกระแส
โต้ประเด็น แชตพิมรี่พาย เอาแชตเก่ามาลงจนเข้าใจผิด ทั้งที่ปรับความเข้าใจจนออกใบ PO แต่มาบอกว่า ไม่มีมาตรฐาน
ทั้งนี้ ในรายการได้มีการเปิดไลฟ์ของพิมรี่พาย ที่พิมรี่พายเอาแชตมาเปิด และบอกว่าโรงงานของคุณต่ายและคุณกบ ผลิตสินค้าไม่มีมาตรฐาน พิมรี่พายรับไว้ไม่ได้ ทั้งที่แชตนั้นลงวันที่ 2 พฤษภาคม 2564 ซึ่งเหตุการณ์หลังจากแชตนี้ คือคุณต่ายและคุณกบลงไปคุยกับพิมรี่พายที่ กทม. เพื่อขอให้พิมรี่พายช่วยคุยและปรับปรุงว่าจะเอาแบบไหน จนกระทั่งตกลงกันได้ พิมรี่พายเปิด PO. วันที่ 19 พฤษภาคม นั่นแสดงว่า แชตทืี่เอามาโชว์นั้นเป็นแชตเก่าแล้ว
ทนายยืนยัน อาจเอาผิดพิมรี่พายยาก โรงงานไม่มีสัญญา สินค้าอาจหมดอายุความ
อย่างไรก็ตาม ทางฝั่งทนายแก้วได้มาให้ความเห็นว่า เรื่องนี้ต้องแบ่งเป็นหลายส่วน คือ เรื่องสินค้า ต้องไปดูที่เงื่อนไขการสั่งจ้างว่าอย่างไร เช่น ก่อนผลิตต้องมีการคิวซีโดนการชิม หากชิมและอนุมัติการผลิตต้องเป็นไปตามนั้น หากเป็นไปตามที่กล่าวอ้างว่า ชิมแล้ว พอใจแล้ว ผู้ว่าจ้างต้องยอมรับสินค้าที่ได้ผลิตไป จะมางอแงตรงนี้ไม่ได้ เพราะมอบหมายให้ตัวแทนไปทำคิวซีแล้ว แต่ถ้าผลิตแล้วมาบอกว่าไม่ได้คุณภาพ ก็ต้องมาพิสูจน์กันและเรื่องค่าสินค้าสามารถเรียกร้องได้
เรื่องนี้ก็มีเงื่อนไขอีก เพราะการฟ้องร้องมีอายุความ 2 ปี แต่เวลาผ่านมาแล้วเกือบ 2 ปี ทั้งสองคนเพิ่งออกมา โดยที่คุณกบและคุณต่ายให้เหตุผลว่า ในปี 2564 แม้เราจะมีหลักฐานทุกอย่างครบ พร้อมยื่นฟ้อง แต่กระแสของพิมรี่พายแรงมาก ในตอนนั้นมีเรื่องคลินิกของพิมรี่พายมาก่อน และยังมีคนที่เข้าข้างพิมรี่พายเยอะ ทางคุณต่ายและคุณกบไม่มีเงินเลย ยังไม่มีเงินไปจ้างทนาย และช่วงนั้นคิดแต่จะหาเงินเพื่อที่จะเอามาหมุนโรงงานอย่างเดียว ทำให้ตอนนี้เพิ่งออกมา
ส่วนปลาร้าที่ผลิตออกมาแล้วพิมรี่พายไม่เอานั้น ไม่สามารถนำไปขายได้ เพราะขวดปั๊มว่า แม่พิม และต้องทำลายปลาร้าทิ้ง
ส่วนในกรณีนี้จะเรียกค่าเสียหายเรื่องให้สร้างโรงงานเพื่อมารองรับกำลังการผลิตน้ำปลาร้าแม่อิพิมนั้น ถือว่ายากมาก เพราะไม่มีสัญญากัน ที่ดินก็เป็นของคุณกบ สร้างเสร็จโรงงานก็เป็นของคุณกบ แม้พิมรี่พายบอกในตอนแรกว่า อยากได้กำลังการผลิตถึง 10 ล้านขวด ทำให้คุณต่ายและคุณกบไปสร้างโรงงานเพื่อให้รองรับกับความต้องการได้ แต่ใบ PO นั้นออกมาแค่ 1 ล้านขวด แบบนั้นอาจจะทำให้เคสนี้ยาก เพราะหลักฐานมีแค่คำสั่งซื้อ 1 ล้านขวด ไม่ใช่ 10 ล้านขวด
ส่วนเรื่องฉลากนั้น ต้องให้ทางผู้เสียหายไปแจ้งความ หากมีหลักฐานว่าพิมรี่พายเอาฉลากที่เป็นชื่อของโรงงานคุณกับและคุณต่าย ซึ่งมี อย. ไปสวมให้กับโรงงานที่ไม่มี อย. แบบนี้อาจจะเข้าข่ายปลอมแปลงเอกสาร ถือเป็นอีกคดีหนึ่ง
คุณต่าย คุณกบ ทิ้งท้าย ชีวิตเหมือนดิ่งเหว ที่ต้องพูด เพราะผลิตน้ำปลาร้าให้หลายที่
สุดท้าย คุณต่ายบอกว่า เราอยากคุย อยากไกล่เกลี่ย มากกว่าการขึ้นโรงขึ้นศาล ที่ตนมาออกเพราะอยากปกป้องโรงงาน โรงงานตนผลิตให้หลายแบรนด์ และตนต้องขอโทษคุณกบมาก (ต่างคนต่างร้องไห้) ที่นำพาเขามาให้ มาทำให้คุณกบเสียหายขนาดนี้ เหมือนพาคน ๆ หนึ่งมาทำให้พัง จากโรงงานปลาร้าอันดับ 1 วันนี้ไม่เหลืออะไรเลย ตนเชื่อมั่นในความดี ที่ต้องออกมาเพราะสงสารคุณกบ
เราจมดิ่งลงสู่เหว คนงานตกงาน คุณต่ายยืนร้องไห้มองโรงงานตัวเอง เราสร้างโรงงานนี้มาเพื่อเขา แต่คุณกบได้แนะนำปลาร้าของอีกเจ้ามาให้ และดึงเราขึ้นจากเหว
ภาพจาก โหนกระแส