อดีตผู้นำฝ่ายฆราวาส วัดพระเขี้ยวแก้ว ศรีลังกา ขู่ฟ้องเรียกค่าเสียหายไทย หากนำช้างอีก 2 เชือกกลับประเทศ ยืนยันสุขภาพแข็งแรงดี
จากกรณีไทยทำภารกิจรับตัว ช้างพลายศักดิ์สุรินทร์
ที่ถูกส่งไปเป็นทูตสันถวไมตรีที่ศรีลังกาตั้งแต่ปี 2544
หลังพบว่าช้างบาดเจ็บมายาวนานและไม่ได้รับการดูแล
ซึ่งปัจจุบันช้างมาถึงไทยและได้รับการฟื้นฟูสุขภาพที่สถาบันคชบาลแห่งชาติลำปาง
ขณะเดียวกัน ก็เกิดเสียงเรียกร้องถึงความเป็นไปได้ที่ไทยจะนำช้างอีก 2
เชือกที่อยู่ศรีลังกา กลับมาประเทศไทยได้ด้วยหรือไม่นั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 4 กรกฎาคม 2566
เฟซบุ๊ก elephant
dynasty sri lanka รายงานว่า นาย เนรัญชรา ไวเยรัตเน ผู้นำฝ่ายค้านศรีลังกา ระบุว่า
ช้างไทยราชา ได้รับมอบเป็นของขวัญแก่
วัดพระเขี้ยวแก้วจากพระมหากษัตริย์ไทยเมื่อ 37 ปีที่แล้ว มีสุขภาพแข็งแรงดี
แต่ NGO องค์กรเกี่ยวกับสัตว์
บางรายในศรีลังกากำลังส่งข้อมูลที่ไม่ถูกต้องไปยังรัฐบาลไทยเกี่ยวกับช้าง
มีความพยายามของ NGO กำลังทำงานเพื่อส่งช้าง 2 เชือกกลับประเทศไทย
พร้อมยกคำพูดของ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ของไทย ซึ่งกล่าวว่า
พร้อมที่จะนำช้างที่เหลืออีก 2 เชือกกลับไทยหากคนไทยเรียกร้องนั้น
หากมีการพยายามนำช้างที่ได้รับพระราชทานจากพระมหากษัตริย์ไทยกลับไปยังประเทศไทย
จะมีการฟ้องร้องเรียกค่าชดเชยสำหรับค่าใช้จ่ายในการบำรุง ดูแล
รักษาช้างตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ยืนยันว่า
ช้างได้รับการดูแลอย่างดีจากคณะสัตวแพทย์ศาสตร์ และผู้เชี่ยวชาญอีกหลายคน
ตั้งแต่รับช้างมาเมื่อ 37 ปีก่อน ใช้เงินจำนวนมหาศาลในการดูแล
นอกจากนี้มองว่า การขอของขวัญที่มอบให้คืนนั้นผิดจรรยาบรรณ
โดยช้างเหล่านี้เป็นช้างที่เข้าร่วมพิธีการแห่พระบรมสารีริกธาตุศักดิ์สิทธิ์
เปรียบเสมือนการถวายของแก่พระพุทธเจ้า
มีคุณค่าทางวัฒนธรรมที่ไม่อาจละเลยได้
นายเนรัญชราย้อนความว่า
ตนเองนั้นเป็นผู้ทูลขอต่อพระเจ้าภูมิพลมหาราชาแห่งประเทศไทย
ขอให้ถวายลูกช้างแก่ วังดาลดา (วัดพระเขี้ยวแก้ว)
คำขอนั้นได้รับมอบช้างในปี 2529
ขอบคุณข้อมูลจาก
elephant
dynasty sri lanka,
Swarnavahini,
เฟซบุ๊ก
World Forum ข่าวสารต่างประเทศ,
เรื่องเล่าเช้านี้