พิธา ประกาศ เป็นฝ่ายค้านไม่ตาย - กกต. รับเรื่อง ไม่ได้หมายความว่าต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่


           พิธา ยัน เป็นฝ่ายค้านไม่ตาย เพราะการเป็นนักการเมืองต้องเล่นได้ทุกบทบาท ยันอายุ 42 ไม่ใช่เด็ก เป็นวัยกลางเชื่อมกันระหว่างคนรุ่นใหญ่กับคนรุ่นใหม่ ยันได้ฉันทามติจากประชาชนมาแล้ว ไม่เลือกนายกรัฐมนตรีในสภาพสุญญากาศแบบนี้ ไม่ส่งผลดีกับใคร

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์

           จากกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่งเรื่องหุ้นไอทีวีของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายการเป็น ส.ส. หรือไม่ ซึ่งทางพรรคก้าวไกลก็ออกมาแถลงการณ์ทันทีว่า การที่ กกต. ทำแบบนี้คือการข้ามบางขั้นตอนไป และมีโอกาสผิด ม.157

           อ่านข่าว : กกต. ชงเรื่องศาลรัฐธรรมนูญ ปมพิธาถือหุ้นไอทีวี ผิดไหม - ก้าวไกลโต้กลับ กกต. ผิด ม.157 !

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์

           ล่าสุด วันที่ 12 กรกฎาคม 2566 รายการ กรรมกรข่าว คุยนอกจอ ตอนหนึ่ง นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกร ถามนายพิธาตรง ๆ ว่า "ก้าวไกลเป็นฝ่ายค้านได้ไหม ?" นายพิธา ตอบว่า "ไม่ตายครับ ตามที่เลขาฯ ตอบเมื่อ 4-5 วันที่แล้ว คือ การจะเป็นนักการเมืองจะต้องเล่นได้ทุกบทบาท และทุกบทบาทเนี่ย สามารถเปลี่ยนแปลงพี่น้องประชาชน ดังเช่นพรรคก้าวไกลหรืออดีตพรรคอนาคตใหม่เคยพิสูจน์ เช่น เป็นฝ่ายค้านก็ต่อต้านคอร์รัปชันได้

           เพียงแต่ว่า ความชอบธรรมในอำนาจ เสถียรภาพ คุณค่าของประเทศที่เราส่งไปยังทั่วโลก ให้เขาจับตาอยู่มันคืออะไร ถ้าเรามีหลักการ เวลานักลงทุนจะมาลงทุนในต่างประเทศก็จะเชื่อมั่นว่า ประเทศเรามีหลักการ มีระบบ มีระเบียบ ผมมั่นใจ แต่ไม่ประมาทในการเลือกนายกฯ วันพรุ่งนี้ ผมคิดว่าส่วนสำคัญคือ การให้กำลังใจของพี่น้องประชาชน ให้กำลังใจทั้ง ส.ส. ทั้ง ส.ว. ทั้งผม ให้เราสามารถอยู่กับความหวัง ไม่ใช่ความกลัวตามที่เขาขีดเอาไว้"



           นายพิธา ยังตอบปมเรื่องคำวิจารณ์ว่า การเมืองเป็นสนามเด็กเล่น เพราะมีแต่คนหนุ่มด้วยว่า ตอนนี้ผมอายุ 42 เป็นฉันทามติระหว่างคนรุ่นใหม่กับคนรุ่นใหญ่ได้พอดี เป็นสะพานเชื่อมกันได้ ถ้า ส.ส. อายุน้อยสุด 25 ปี ผม 42 เด็กเรียนมหาวิทยาลัยอายุ 18 ก็เรียกผมลุงกันทั้งนั้น ผมก็ไม่ได้เด็ก

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์

           ในช่วงหนึ่ง นายพิธากล่าวเทียบถึงการเลือกตั้งประธานสภาของสหรัฐอเมริกา ที่มีการโหวตถึง 15 ครั้ง จนกว่าจะเกิดฉันทามติ แม้ระบบรัฐสภาจะแตกต่างกัน แต่สิ่งที่พอจะมาอนุมานเปรียบเทียบกันได้คือ เมื่อได้ฉันทานุมัติว่าใครจะเป็นประธานสภา และตามเจตจำนงของประชาชนที่ให้มา ก็ต้องหาข้อตกลง มีการประนีประนอม เพื่อได้ผู้นั้นเป็นฝ่ายนิติบัญญัติให้ได้

           เฉกเช่นเดียวกัน ที่พรรคก้าวไกลได้ฉันทานุมัติจากประชาชน 14 ล้านเสียง และตนได้จัดตั้งรัฐบาล 8 พรรค ได้มา 312 เสียงจาก 500 เสียงในสภา รวมประชาชนโหวตให้ 8 พรรคคือ 25 ล้านเสียง คิดเป็น 70% ของผู้ที่มีสิทธิ์เลือกตั้ง ดังนั้น ต้องยึดตรงนี้ให้ตรงกับสิ่งที่ประชาชนส่งเสียงมาให้ได้มากที่สุด

           นอกจากนี้ นายพิธายังยืนยันว่า แม้ศาลรัฐธรรมนูญจะรับเรื่องจาก กกต. กรณีถือหุ้นไอทีวี ก็ไม่ได้หมายความว่า ตนจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่โดยอัตโนมัติ เช่นเรื่องของ พล.อ. ประยุทธ์ ที่เคยหยุดปฏิบัติหน้าที่ 1 เดือน ซึ่งเมื่อรับคำร้องแล้ว ต้องให้ศาลวินิจฉัย อาจจะรับเรื่องไว้แต่ไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่


เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
พิธา ประกาศ เป็นฝ่ายค้านไม่ตาย - กกต. รับเรื่อง ไม่ได้หมายความว่าต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ อัปเดตล่าสุด 12 กรกฎาคม 2566 เวลา 15:21:53 37,549 อ่าน
TOP
x close