โซเชียลผุดแท็ก ธุรกิจ สว. แบนยันลูกหลาน ไม่เคารพเสียงประชาชน ไม่มีที่ยืน !

 
           โซเชียลระอุ ! ผุดแฮชแท็ก #ธุรกิจสว แบนธุรกิจ สว. และลูกหลาน หลังงดออกเสียง - ไม่เข้าร่วมประชุมเป็นจำนวนมาก ชี้ไม่เคารพเสียงประชาชน ก็ต้องไม่มีที่ยืน !
           เรียกว่ากำลังเป็นประเด็นร้อนระอุสำหรับการเมืองไทย หลังจากที่มีการประชุมรัฐสภาเพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งผลสรุปออกมาว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ยังไม่ได้เป็นนายกฯ คนที่ 30 ของไทย เนื่องจากผลโหวตจาก สว. และ สส. ได้คะแนนเห็นชอบไม่ถึงครึ่ง ทำให้ประชาชนที่ติดตามการประชุมรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากนั้น

           ล่าสุด (14 กรกฎาคม 2566) โลกออนไลน์มีการผุดแฮชแท็ก #ธุรกิจสว ซึ่งเป็นการขุดค้นข้อมูลธุรกิจต่าง ๆ ของ ส.ว. รวมไปถึงคนในครอบครัวของ ส.ว. ที่ลงคะแนนไม่เห็นชอบและงดออกเสียงมาโพสต์ลงโซเชียล ไม่ให้ประชาชนไปอุดหนุน

           เพื่อเป็นการทำให้เห็นว่า ในเมื่อ ส.ว. ไม่เคารพเสียงของประชาชนที่ลงคะแนนเป็นเอกฉันท์ตั้งแต่วันนับคะแนนเลือกตั้งเสร็จสิ้นแล้ว แต่ยังประวิงเวลาโหวตนายกฯ ออกไปอีก ทำให้ประเทศไทยไม่เดินหน้าต่ออย่างที่ควรจะเป็นเสียที ส.ว. ก็ต้องไปต่อไม่ได้เหมือนกัน

           นอกจากนี้ยังมีร้านค้าและสถานที่บริการต่าง ๆ ขึ้นประกาศตัวโต ๆ ว่า ไม่อนุญาตให้ ส.ว. และ กกต. รวมไปถึงลูกหลาน เข้ามาใช้บริการโดยเด็ดขาด เนื่องจากคนเหล่านี้ไม่เคารพเจตจำนงของประชาชนที่แสดงออกแล้วผ่านคูหาเลือกตั้ง

พรรคก้าวไกล ยื่นหนังสือปิดสวิตช์ สว.

           ขณะที่ ข่าวช่องวัน รายงานว่า พรรคก้าวไกล นำโดย นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์, นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย สส. ของพรรคก้าวไกล ยื่นหนังสือต่อ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา เกี่ยวกับประเด็นการแก้ไขกฎหมาย โดยยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยยกเลิกมาตรา 272 ในบทเฉพาะการที่ให้อำนาจวุฒิสมาชิกมีส่วนร่วมในการเลือกนายกรัฐมนตรีเป็นการชั่วคราว หรือเรียกว่าเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อคืนอำนาจในการเลือกนายกรัฐมนตรีให้กับประชาชน หรือ ปิดสวิตช์ สว.


           นายชัยธวัช กล่าวถึงการยื่นแก้กฎหมายในวันนี้ว่า เนื่องจากการประชุมรัฐสภาเมื่อ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา ปรากฏชัดว่ามี สว. จำนวนมากได้งดออกเสียง 159 คน และไม่มาประชุมอีก 43 คน ซึ่งหลายคนได้แสดงออกชัดเจนว่าตนเองไม่ประสงค์ที่จะใช้สิทธิ์ ใช้อำนาจทำหน้าที่เลือกนายกรัฐมนตรี และเป็นเรื่องของ สส.

           ดังนั้นเมื่อ สว. จำนวนมากประสงค์เช่นนั้น ไม่ใช้สิทธิ์ของตนเองโดยการงดออกเสียง ก็จะนำไปสู่ทางตันทางการเมือง พรรคก้าวไกลจึงเสนอทางออกให้กับสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งเชื่อว่าทางนี้จะเป็นทางออกที่ตอบโจทย์ของทั้งสมาชิกวุฒิสภาเองและตอบโจทย์ ในระบบรัฐสภาของไทย และเพื่อทำให้การเมืองไทยเดินหน้าไปได้ เพื่อที่จะมีรัฐบาลชุดใหม่โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

           ส่วนถ้า สว. จะเอาเรื่องการแก้ไข 112 มาเป็นเงื่อนไขในการไม่ร่วมแก้ไขมาตรา 272 นั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า "ไปไกล ไกลเกินกว่าที่จะโยง เพราะเรื่องนี้เป็นการหาทางออกให้ทุกฝ่ายสบายใจ ในเมื่อมีมโนธรรมสำนึกในใจว่าไม่สามารถโหวตนายกรัฐมนตรีได้ ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันไป ดังนั้นเพื่อไม่ให้ท่านกระทำการอะไรที่ไม่ขัดกับมโนธรรมสำนึกของท่าน ก็ยกเลิกมาตรานี้สะ และคืนอำนาจการเลือกนายกรัฐมนตรีเป็นของประชาชน เมื่อตัดสินประชาชนตัดสินใจไปแล้วจะถูกจะปิดก็ไม่เกี่ยวกับ สว." พร้อมย้ำว่านี่เป็นทางออกที่ดีที่สุด
           ด้าน นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ตอบคำถามเป็นภาษาอังกฤษ ถึงระยะเวลาในการเสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี ว่าประเด็นสำคัญคือพรรคก้าวไกลยังไม่ยอมแพ้ เราต้องการเพียงคืนความปกติให้ระบอบประชาธิปไตยของไทย เพื่อให้อำนาจอธิปไตยยังเป็นของประชาชน และหวังว่าจะได้รับแรงสนับสนุนจากประเทศที่เป็นประชาธิปไตยทั่วโลกในความพยายามครั้งนี้ และพรรคก้าวไกลได้ตกลงกับอีก 7 พรรคแล้วว่าจะพยายามเสนอชื่อนายพิธาต่อไปเรื่อย ๆ พร้อมกับหาวิธีแก้ปัญหาใหม่ ๆ รวมถึงการยกเลิกมาตรา 272 ในครั้งนี้

           ส่วนการประชุมร่วมกันของพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยในช่วงเย็นวันนี้ ซึ่งมีกระแสข่าวว่าหากการเสนอชื่อนายพิธาถึงทางตัน อาจมีการเสนอชื่อแคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทย รวมถึงชื่อ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ จากพรรคพลังประชารัฐเช่นกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่องวัน