เคสช็อก ! หนุ่มวัย 33 ถูกหมัดกัดติดเชื้อหนัก ต้องตัดมือสองข้างและเท้าเพื่อรักษาชีวิต

          ชายวัย 33 กลับบ้านไปเยี่ยมแม่ จู่ ๆ ป่วยเข้าห้องฉุกเฉิน ต้องตัดมือและเท้าเพื่อรักษาชีวิต พบสาเหตุจากถูกหมัดกัด ก่อนติดเชื้อแบคทีเรียลุกลาม

          วันที่ 21 กรกฎาคม 2566 เว็บไซต์ Fox26houston รายงานเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่เกิดอาการป่วยอย่างรุนแรงหลังถูกหมัดกัด ส่งผลให้แพทย์ต้องตัดมือและเท้าบางส่วนไปเพื่อรักษาชีวิตเอาไว้

            เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับ ไมเคิล โคห์ลฮอฟ ชายวัย 33 ปี จากเมืองฮูสตัน รัฐเทกซัส สหรัฐฯ โดยเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เขาเดินทางไปเยี่ยมคุณแม่ที่เมืองซานอันโตนิโอ ก่อนจะเริ่มรู้สึกไม่สบาย มีอาการคล้ายไข้หวัด มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร ก่อนจะเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน

            โคห์ลฮอฟ ถูกนำตัวเข้าห้องฉุกเฉิน ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และอวัยวะของเขาล้มเหลว แพทย์วินิจฉัยว่าเขาเป็นโรคไทฟัส (ไข้รากสาดใหญ่) ชนิดรุนแรง ซึ่งเป็นการติดเชื้อแบคทีเรียที่แพร่กระจายมาจากหมัด หลังจากถูกหมัดกัด

            ภายในไม่กี่ชั่วโมงโคห์ลฮอฟ ติดเชื้อในกระแสเลือด วันต่อมาต้องเข้ารับการรักษาในห้องไอซียู มีอาการช็อกจากการติดเชื้อ ต้องใส่ท่อและใช้เครื่องช่วยหายใจ CRT ต้องฟอกไตตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งในวันดังกล่าวแพทย์ได้แจ้งให้ครอบครัวเข้ามาร่ำลาเขา เพราะการรักษานั้นทำแทบทุกอย่างแล้ว ไม่ว่าจะใช้ยาปฏิชีวนะ สเตียรอยด์ และยาขยายหลอดเลือด หลังผ่าน 11 วัน พบว่าเขามีเนื้อตายที่มือและเท้า อาจจะลามจนทำให้สมองตายเฉียบพลัน ทางเดียวที่จะรักษาชีวิตคือต้องตัดมือและเท้าบางส่วนของเขาออก

            จากนั้นเป็นต้นมา โคห์ลฮอฟ จำเป็นต้องถูกตัดมือทั้งสองข้างจนถึงท่อนแขน รวมทั้งยังต้องผ่าตัดหลายครั้งสำหรับเท้าของเขา ปัจจุบัน โคห์ลฮอฟ ยังคงพักฟื้นอยู่ในโรงพยาบาล คาดว่ายังเขาต้องใช้เวลาในการพักฟื้นอีกสักระยะเพื่อทำให้สภาพร่างกายกลับมาปกติอีกครั้ง

            ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า โคห์ลฮอฟ ถูกหมัดกัดจากต้นตออะไร เบื้องต้นผู้เชี่ยวชาญให้ความรู้ว่า ไข้ไทฟัส แพร่กระจายโดยหมัดที่ติดเชื้อแบคทีเรีย โดยหมัดสามารถพบได้ในหนู แมว พอสซัม และสัตว์อื่น ๆ อาการของโรคจะคล้ายกับโรคอื่น ๆ เช่น ไข้หวัด เช่น มีไข้ ปวดกล้ามเนื้อ เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง และมีผื่นขึ้น รักษาอาการได้ด้วยยาปฏิชีวนะ และอาจถึงแก่ชีวิตได้หากไม่ได้รับการรักษา

            สำหรับวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันโรคไทฟัส คือการหลีกเลี่ยงการถูกหมัดกัด เบื้องต้นคือการควบคุมหมัดของสัตว์เลี้ยง ไม่ทิ้งอาหารสัตว์เลี้ยงไว้นอกบ้าน และตรวจสอบให้แน่ใจว่าถุงขยะหรือสิ่งปฏิกูลถูกปิดไว้อย่างแน่นหนามิดชิดเพียงพอ

            หลังเกิดเรื่องราวนี้ ครอบครัวของ โคห์ลฮอฟ ได้เปิดบริจาคผ่าน GoFundMe เพื่อหาเงินให้เพียงพอสำหรับค่ารักษาพยาบาล การบำบัดและฟื้นฟูให้เขากลับมาใช้ชีวิตได้อีกครั้ง เป็นจำนวน 300,000 เหรียญ (ราว 10 ล้านบาท) ส่งผลให้มีผู้เห็นใจช่วยเหลือเป็นจำนวนมาก จนถึงขณะนี้มียอดบริจาคสูงถึงราว 68,000 เหรียญ (ราว 2.3 ล้านบาท) แล้ว



ขอบคุณข้อมูลจาก Fox26houston, Mirror