สรุปดราม่า #ตั๋วปารีส เมื่อรังสิมันต์ โรม ถูกกล่าวหารับเงินต่างชาติมาแก้ ม.112 พบมีคนโป๊ะแตก !

Headache Stencil แฉรังสิมันต์ โรม รับเงินต่างชาติเพื่อแก้ ม.112 มีอีเมลเป็นหลักฐาน ให้เข้าร่วมสัมมนา

          ในจดหมายดังกล่าว ทางมหาวิทยาลัยบอนน์ได้ระบุว่า ทางผู้จัดงานพร้อมที่จะอำนวยความสะดวกทั้งจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ, ค่าที่พัก รวมถึงค่าเบี้ยเลี้ยงวันละ 24 ยูโรต่อวัน (ประมาณ 900 บาท) ซึ่งงานจะจัดเป็นเวลาทั้งหมด 5 วัน รวมทั้งหมดจะได้เงินประมาณ 4,500 บาท


          ทาง Headache Stencil อ้างว่า มีการใช้เอกสารปลอมในการจัดงาน จนเมื่อ Headache Stencil ไปขอวีซ่าที่สถานทูตฝรั่งเศส กลายเป็นว่าทางสถานทูตได้ปฏิเสธการให้วีซ่า อ้างว่าที่อยู่ไม่น่าเชื่อถือ  และเป็นเหตุให้ทาง Headache Stencil ต้องไปขอวีซ่าที่สถานทูตเยอรมนีแทน แต่เมื่อบินเข้า ได้บินเข้าทางปารีส ไปสัมมนาที่ปารีส และอ้างว่าเงินเบี้ยเลี้ยงวันละ 24 ยูโรนั้นไม่มีจริง มีแต่เงินสดใส่ซองให้มอเตอร์ไซค์วิ่งมาส่งให้ที่บ้าน

          นอกจากนี้ ทาง Headache Stencil ยังได้ลงภาพสถานที่จัดงาน ซึ่งเผยให้เห็นว่างานวันนั้นไม่ได้จัดที่เจนีวา แต่จัดที่ฝรั่งเศส


          เรื่องนี้ได้ถูกนำไปขยายต่อและนำไปพูดต่อกันอย่างมากมาย พร้อมกับมีคนที่ออกมาแฉ Headache Stencil เช่นกันว่า อย่าพูดเรื่องคนอื่นรับเงินมา เพราะตัว Headache Stencil เองก็มีการยืมเงินคนอื่นและเบี้ยวเงินเหมือนกัน ทำให้ทาง Headache Stencil ยืนยันว่าตนยอมรับว่าตนยังไม่ได้ใช้หนี้คนอื่นจริง แต่ทุกวันนี้ก็ทำงานหาเงินใช้หนี้อยู่

อ.ปวิน โต้แหลก ที่เชิญไปคือเวิร์กช็อปวิชาการ พูดเรื่องประชาธิปไตยในภูมิภาค ไม่ได้พูดเรื่องพระมหากษัตริย์

          ในขณะเดียวกัน อ.ปวิน ได้ออกมาเผยว่า งานดังกล่าวเรียกว่างานสัมมนาวิชาการ จัดขึ้นโดย Dr.Muang Zarni นักวิชาการชาวเมียนมา จากกลุ่ม Free Future Foundation ที่ได้เชิญนักกิจกรรมทางการเมืองของอาเซียน นักวิชาการ ศิลปินต่าง ๆ ทั่วอาเซียน (เหตุผลที่เห็นมีชื่อของคนจากทั่วอาเซียนปรากฏในอีเมล) มาเวิร์กช็อปกันในเรื่องการส่งเสริมประชาธิปไตยในภูมิภาค โดยหนึ่งในผู้จัดมี อ.ปวิน รวมอยู่ด้วย และหัวข้อที่พูดนั้นคือเรื่องประชาธิปไตยทั่วไป ไม่ได้พูดแค่เรื่องการเมืองไทยและไม่ได้พูดเรื่องสถาบันกษัตริย์เลย

          อย่างไรก็ตาม แม้คนออกจดหมายจะเป็นกลุ่ม Free Future Foundation และมหาวิทยาลัยบอนน์ สวิตเซอร์แลนด์ แต่สถานที่จัดงานไม่ได้อยู่ที่เจนีวา แต่อยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงปารีส มีนักวิชาการ นักกิจกรรมทางการเมืองของไทยและชาติในอาเซียนมาร่วมงาน ผลของการจัดงานในครั้งนี้ไปสู่การตั้งองค์กร Forsea ซึ่งเป็นองค์กรด้านส่งเสริมประชาธิปไตยในภูมิภาค และเมื่อเปิดตัวองค์กรก็ได้นายมหาเธร์ มูฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีของมาเลเซียมาร่วมเปิดงานอีกด้วย

          ในส่วนของตารางการจัดงานนั้น พบว่า เป็นการจัดงานในเชิงวิชาการ มีผู้ดำเนินการคือ อ.ปวิน, นาย Zarni, Dr.Kywa Thu มีช่วงเว้นให้ปฏิบัติกิจทางศาสนา พาเดินรอบย่านมงมาร์ต ว่ายน้ำ รับประทานอาหารค่ำพร้อมกับมีนักดนตรี รวมถึงการพาชมสถานที่ต่าง ๆ และทำกิจกรรมเหมือนการสัมมนาทั่วไป

รังสิมันต์ โรม ชี้ เป็นนักกิจกรรมทางการเมืองมานาน ถ้ารับเงินต่างชาติมา ตอนนี้คงไม่ต้องผ่อนบ้านผ่อนรถ

          ในขณะที่รังสิมันต์ โรม ยืนยันว่า ตั้งแต่ก่อนที่ตนจะมาเป็น สส. ตนก็เป็นนักกิจกรรมทางการเมืองมาก่อน และได้ไปสัมมนาหลาย ๆ ประเทศ กิจกรรมนั้นเป็นการสัมมนาสั้น ๆ และตอนนั้นเขายังไม่ได้เป็น สส. พรรคอนาคตใหม่ด้วยซ้ำ เงินเบี้ยเลี้ยงที่ให้ 24 ยูโรต่อวัน และที่พักรับรองนั้น เป็นเพียงการอำนวยความสะดวกให้ผู้เข้าร่วมสัมมนา และที่กล่าวหาว่าตนรับเงินนายทุนมาแก้มาตรา 112 และต้องรีบชดใช้ ต้องถามว่าในปี 2561 มีใครจินตนาการออกบ้างว่า ม.112 จะแก้ได้จริงหรือไม่ หรือจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ดังนั้น นายทุนคนไหนจะมาลงทุนกับตน ทุกวันนี้ตนก็ยังต้องผ่อนบ้านผ่อนรถ ถ้าได้เงินนายทุนมาก็คงไม่เป็นภาระไปแล้ว

          ในขณะเดียวกัน มีคนที่ไม่เชื่อ Headache Stencil เรื่องที่ทางคณะจัดงานใช้เอกสารปลอม และทำให้ทาง Headache Stencil เผยอีเมลที่บอกว่า ทางสถานทูตฝรั่งเศสเรียกให้เขาไปพบและกรอกข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่จัดงาน ซึ่งอีเมลแรกไม่มีคนตอบ ทำให้ทาง Headache Stencil ส่งอีเมลที่ 2 ไปและบอกว่า ขอที่อยู่สถานที่จัดงานในกรุงปารีสด้วย และมีคนตอบโดยให้ที่อยู่โรงแรมในกรุงปารีสไป จึงเป็นเหตุให้ Headache Stencil ถูกปฏิเสธวีซ่าฝรั่งเศส อ้างว่าที่อยู่ไม่น่าเชื่อถือ

          เรื่องนี้คาดว่าเป็นความเข้าใจผิดของ Headache Stencil โดยในใบสมัครวีซ่านั้น จะระบุให้กรอกที่อยู่หน่วยงานที่เชิญ (ในที่นี้คือมหาวิทยาลัยบอนน์ และกลุ่ม Free Future Foundation) แต่ทาง Headache Stencil กลับเข้าใจว่าต้องกรอกที่อยู่ที่ใช้จัดงาน (โรงแรมในปารีส) อันเป็นเหตุให้ทาง Headache Stencil ถูกปฏิเสธวีซ่า และทำให้เขาคิดไปเองว่าเอกสารนั้นเป็นเอกสารปลอม

          เมื่อทางคณะผู้จัดงานเห็นดังนั้น จึงให้ทาง Headache Stencil ไปสมัครวีซ่ากับสถานทูตเยอรมันแทน และเมื่อได้วีซ่ามาแล้ว ก็ออกตั๋วให้ไปสัมมนาที่ปารีส ซึ่งเป็นปกติอยู่แล้วที่วีซ่าเชงเก้น หากขอที่สถานทูตหนึ่ง สามารถเดินเข้าประเทศหนึ่งได้ ตราบใดที่ประเทศนั้นเป็นเขตเชงเก้น