แม่เล่าประสบการณ์สุดเจ็บปวด พอยกบ้านให้ลูก กลับโดนลูกไล่ให้นอนในยุ้งข้าว ญาติเห็นใจต้องแบ่งสวนเป็นที่ทำกิน ศาลตัดสินให้แพ้คดีเพราะลูกไม่ได้เนรคุณ ตอนนี้แม้แต่เข้าบ้านยังข้ามรั้วไม่ได้
คนที่เป็นพ่อเป็นแม่ เมื่อมีทรัพย์สมบัติในตัวคงต้องวางแผนที่จะยกให้ลูกหลานที่เลี้ยงดูมา ซึ่งคงไม่มีใครนึกถึงว่าคนที่เรายกทรัพย์สินให้จะกลับมาทำร้ายเราได้ลงคอ จนบางคนพ่อแม่ถึงขั้นไม่มีที่จะอยู่ เช่นกรณีล่าสุดที่คนเป็นแม่ออกมาเล่าความในใจ เมื่อยกบ้านให้ลูก แต่กลับโดนลูกไล่ออกจากบ้าน
วันที่ 28 กรกฎาคม 2566 TikTok @user4591403908764 มีการโพสต์เล่าประสบการณ์อันน่าเจ็บปวด เมื่อเธออยู่ในฐานะคุณแม่ ได้ยกบ้านหลังหนึ่งให้กับลูก โดยที่เธอก็ยังคงอยู่ในบ้านหลังนั้น ส่วนลูกไปอยู่ที่อื่น กระทั่งวันหนึ่งลูกบอกว่าจะกลับมาอาศัยในบ้านหลังที่ยกให้ แต่กลับไล่แม่ออกจากบ้าน ให้แม่มาอาศัยอยู่ที่ยุ้งข้าวข้างบ้านแทน
โดยในคลิปจะเห็นว่าจุดที่แม่อาศัยอยู่ในปัจจุบันเป็นยุ้งข้าวที่เก่าโทรม และยุ้งข้าวนี้อยู่ในพื้นที่ของญาติ มีสวนให้ทำกินเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนบ้านหลังที่เคยอยู่ ปัจจุบันเป็นของลูก มีการตั้งรั้วเหล็ก ล็อกประตูไว้อย่างแน่นหนา คนนอกเข้าไปไม่ได้
อย่างไรก็ตาม เธอได้ฟ้องศาลเพื่อเอาบ้านคืน แต่ศาลกลับตัดสินยกฟ้อง มองว่าลูกไม่ได้เนรคุณ ทำให้เธอต้องตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากแบบนี้
ด้านชาวเน็ตต่างอยากเห็นหน้าลูก ซึ่งเจ้าของคลิปก็ตอบว่า ลูกเธออายุ 22 ปีเท่านั้น ส่วนอีกคนหนึ่งก็เข้ามาเห็นแย้งว่า แม่สามารถเอาที่ดินคืนได้ ซึ่งประเด็นนี้ก็มีคนเข้ามาตอบโต้ว่า คืนได้ยาก เพราะสถานะแม่ตอนนี้เป็นแค่ผู้อยู่อาศัย ไม่ใช่เจ้าของที่ดิน ถ้าจะเอาคืนได้ ลูกต้องเนรคุณ เรื่องนี้ศาลตัดสินไปแล้วว่าไม่เนรคุณ
อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตบางคนก็สงสัยว่า สิ่งที่แม่เล่ามานั้นเล่ามาหมดหรือไม่ เรื่องแบบนี้หลายครั้งหลายหนก็มีคดีพลิกมานักต่อนักแล้ว ควรรอฟังความจากอีกฝ่ายจะดีกว่า
แม่เล่าเพิ่มเติมถึงที่มาที่ไปของที่ดิน
นอกจากนี้ แม่ยังเล่าเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดความเคลียร์ถึงที่มาที่ไปของเรื่องนี้ว่า เดิมนั้นที่ดินเป็นมรดกของลุงทางฝั่งเธอ จากนั้นเธอก็แต่งงาน จดทะเบียนสมรสเมื่อปี 2549 ซึ่งระหว่างที่ใช้ชีวิตด้วยกันนั้น เธอเป็นคนความรู้น้อย สามีก็ให้เซ็นหนังสือเพื่อเอาที่ไปจำนอง โดยที่เธอไม่รู้ว่าสามีเอาไปจำนองกับใคร และเงินตรงนี้เธอก็ไม่ได้รับ รู้แค่ว่าเอาเงินไปลงทุนประกอบธุรกิจร้านอาหาร กระทั่งผ่านไป 5 ปี ถึงหย่ากัน
ช่วงที่หย่า มีข้อความหนึ่งที่ระบุว่า บุตรที่เกิดขึ้นอยู่ในความดูแลของฝ่ายชาย เพราะอดีตสามีมีเงินเดือน ทำงานที่ท่าเรือ ส่วนเธอเป็นแม่บ้าน จึงเหมือนโดนมัดมือชก
ผ่านไป 10 ปี เธอพยายามหาตัวผู้จำนองที่ดินจนในที่สุดก็พบ ส่วนคนที่เป็นคนไถ่ถอนกลับเป็นชื่อของอดีตสามี โดยอดีตสามีให้เธอจ่ายเงิน 60,000 บาท เป็นค่าไถ่ถอน พอไถ่ถอนเสร็จ อดีตสามีก็แนะนำให้สร้างบ้านให้ลูก เธอก็ยินยอม โดยที่ไม่ได้ออกค่าใช้จ่ายอะไร แต่สิ่งที่ผิดสังเกตคือ อดีตสามีดีกับเธอเป็นพิเศษ ทั้งที่ช่วงนั้นก็หย่ากันไปหลายสิบปีแล้ว บางวันก็ให้ลูกมากินข้าวด้วย จนบ้านใกล้เสร็จ อดีตสามีก็บอกเธอว่าไม่มีเงินแล้ว ให้เธอรับผิดชอบต่อ เธอก็ยินดีทำเพื่อลูก
เมื่อบ้านเสร็จ เธอก็ยกให้เป็นชื่อลูก หลังจากนั้นผ่านไป 3 เดือน ลูกก็ประกาศขายบ้านทันที ส่วนประเด็นในศาล เธอยอมรับว่าอดีตสามีเป็นคนตอบคำถามเป็นส่วนใหญ่ แล้วอ้างกับศาลด้วยว่า การที่จำนองที่ดินทำร้านอาหารเป็นสิ่งที่เธอต้องการ ไม่ได้เกี่ยวกับเขา ชาวเน็ตจึงคิดว่านี่อาจเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้แพ้คดีที่ดินครั้งนี้
