หญิงฝากแม่สามีเลี้ยงลูก 3 เดือน กลับมาช็อก โกรธจนน้ำตาไหล ถึงกับจำไม่ได้ เด็ก 8 เดือน หนัก 30 กิโลกรัม
ภาพจาก Weibo
เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2566 เว็บไซต์ Phunuphapluat เผยเรื่องราวน่าตกใจจากหญิงรายหนึ่งในประเทศจีน เมื่อไม่นานมานี้เธอได้ออกมาระบายความอัดอั้นเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกของแม่สามีเธอ ภายหลังจากเธอเพิ่งคลอดลูกได้เพียงแค่ 5 เดือน แต่ด้วยสถานะทางครอบครัว เธอจึงจำเป็นต้องไปทำงานที่ไกลบ้านเป็นเวลานาน ทำให้ต้องยอมฝากลูกน้อยให้แม่สามีเลี้ยง แต่ปรากฏว่าหลังจากผ่านไปแค่ 3 เดือน เธอต้องรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการตัดสินใจครั้งนี้
จางตัดสินใจคุยกับแม่สามีโดยตรง ตำหนิที่แม่สามีเลี้ยงหลานให้อ้วนผิดปกติ ให้อาหารแก่เขาในปริมาณที่มากเกินไป จนเป็นอันตรายต่อสุขภาพของเด็ก แต่แม่สามีของเธอมีความคิดตรงกันข้าม บอกว่า ลูกชายของเธอกินเก่งมาก จนตัวเองรู้สึกภาคภูมิใจในการเลี้ยงหลานให้ออกมามีความ "อุดมสมบูรณ์" ได้ขนาดนี้
"รู้อะไรไหม ฉันเดินทางไปหลายที่ ติดต่อผู้คนมากมาย และยังเลี้ยงลูกอีกหลายคน เด็กแค่ต้องการกิน ยิ่งกินเยอะยิ่งดี โดยเฉพาะเด็กผู้ชาย อ้วน ๆ หน่อยดีที่สุด" แม่สามีของจาก กล่าว
เมื่อได้ยินเช่นนั้น จางถึงกับระเบิดความโมโห พูดออกไปอย่างเหลืออดว่า "ทำไมแม่ต้องเลี้ยงหลานให้เป็นหมู เขาถึงได้อ้วนขนาดนี้"
ภาพจาก Weibo
แม่สามีของจางรู้สึกโกรธมาก จึงต่อว่าลูกสะใภ้ว่าเธอยังอายุน้อย แถมยังไม่เคยมีประสบการณ์เลี้ยงลูกมาก่อน จึงไม่รู้เรื่องอะไร ทั้งยังตัดพ้อว่าตัวเองเหนื่อยเลี้ยงหลานให้กินดีอยู่ดี แต่ลูกสะใภ้ไม่เพียงแค่ไม่รู้สึกขอบคุณ แต่ยังมาแสดงความไม่พอใจใส่อีก
จางรู้สึกคับแค้นใจน้ำตาไหล แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงแค่อุ้มลูกของเธอออกจากบ้านแม่สามีไป และหลังจากนั้นเธอก็ตั้งใจที่เลี้ยงลูกด้วยตัวเอง
ภายหลังจากเรรื่องราวดังกล่าวถูกแชร์ต่อกันจนกลายเป็นประเด็นที่วิพากษ์วิจารณ์กว้างขวาง เป่า ซิ่วหลาน หัวหน้าแพทย์ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ของมหาวิทยาลัยกลุ่มการแพทย์ปักกิ่ง ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเตือนว่า เด็กที่อ้วนเกินไปจะเคลื่อนไหวได้ลำบากมาก รวมไปถึงกระบวนการเติบโตตามธรรมชาติจะค่อนข้างช้า
ภาวะอ้วนในเด็กยังส่งผลต่อความสามารถทางสติปัญญาและการพัฒนาทางสมอง ตั้งแต่กระบวนการพัฒนาพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นการจับ สัมผัส การคลาน และโดยเฉพาะการเดิน จะได้รับผลกระทบสูง เนื่องจากร่างกายรับน้ำหนักมากเกินไป นอกจากนี้ เมื่อเติบโตขึ้นไป ก็มีแนวโน้มเสี่ยงเป็นโรค ทั้งความดันโลหิต และเบาหวาน
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก Phunuphapluat