รวบตัว 2 ผัวเมีย เจ้าของโกดังพลุระเบิด ส่งถึงไทย - 2 สส. ย้ำไม่รู้จัก ปัดเอี่ยวส่วย

          ควบคุมตัว 2 สามี-ภรรยา เจ้าของโกงดังพลุระเบิดที่มูโนะ ด้าน 2 สส. ปัดเอี่ยวส่วย ลั่นถ้ามีจริงพร้อมโดนจับ


          วันที่ 5 สิงหาคม 2566 เพจเฟซบุ๊ก เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานความคืบหน้าการดำเนินคดีกับเจ้าของโกดังพลุระเบิดที่ ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อเวลา 13.30 น. ตำรวจมาเลเซียควบคุมตัว นายสมปอง ณะกุล และ น.ส.ปิยะนุช พึ่งวิรวัฒน์ สามีภรรยาเจ้าของโกดังเก็บพลุ มาส่งมอบให้กับทางการไทยที่ด่านพรมแดนสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา โดยมีหน่วยงานที่ฝ่ายความมั่นคงเกี่ยวข้องเดินทางไปรับมอบตัว และนำตัวทั้งสองคนเดินทางมายัง สภ.สะเดา จ.สงขลา เพื่อทำบันทึกการจับกุม และดำเนินการตามขั้นตอนทางคดีเนื่องจากทั้งสองคนถูกออกหมายจับ

          จากนั้นเวลา 17.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัว นายสมปอง และน.ส.ปิยะนุช ออกจาก สภ.สะเดา เพื่อส่งไปดำเนินคดีที่ สภ.มูโนะ จ.นราธิวาส พื้นที่เกิดเหตุ โดยขณะที่ทั้งสองคนถูกควบคุมตัวออกจาก สภ.สะเดา เจ้าหน้าที่ได้มีการคุ้มกันอย่างแน่นหนาและพากันขึ้นรถทันทีและทั้งสองคนก็ปฏิเสธที่จะตอบคำถามกับผู้สื่อข่าว

          มีรายงานการสอบสวนของตำรวจระหว่างที่ทั้งสองคนถูกควบคุมตัวอยู่ที่ สภ.สะเดา ถึงจุดเริ่มต้นของการขายพลุประทัดจนกิจการใหญ่โต น.ส.ปิยะนุช เล่าว่า เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2557-2558 เดิมตนเป็นเซลส์ขายประทัดของบริษัทแห่งหนึ่งใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และแต่งงานกับ นายสมปอง สามีจึงย้ายไปอยู่ที่บ้านมูโนะ จากนั้นก็เริ่มลองสั่งพลุประทัดไปขาย เริ่มต้นจากตั้งโต๊ะขายเล็ก ๆ ขายหน้าร้าน และกิจการเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ และเริ่มสั่งของจากอีกหลายบริษัทจนถึงปัจจุบัน

          อย่างไรก็ตาม มีรายงานจากทางเจ้าหน้าที่ ตม.ว่า หลังจากที่เกิดเหตุโกดังพลุระเบิดเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ขณะสองผัวเมียเดินทางไปมาเลเซีย ได้ย้อนกลับเข้ามาทางด่านประกอบ อ.นาทวี จ.สงขลา เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมและกลับออกไปมาเลเซียอีกครั้งเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ก่อนที่จะถูกออกหมายจับตามมา


          ขณะที่ ข่าวช่อง 3 รายงานว่า นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกระแสข่าวเรื่องเชื่อมโยงถึงเจ้าของโกดังและเรื่องส่วยในพื้นที่ ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น ผู้ประกอบการ ตนก็ไม่รู้จัก ตนพอจะทราบว่าในพื้นที่มีการเก็บดอกไม้ไฟ แต่ไม่คิดว่ามันจะมีเยอะถึงขนาดนี้ เท่าที่สอบถามท่านนายกองค์การบริหารส่วนตำบลมูโนะ ก็บอกว่า เจ้าของไม่ได้ขอเป็นโกดังเก็บพลุ แต่ขายพวกวัสดุก่อสร้าง แต่มีการลักลอบ เอาเข้ามา จึงเป็นหน้าที่ของตำรวจต้องดำเนินการติดตามจับกุม ส่วนเจ้จู เป็นพ่อค้าแม่ค้าขายโชห่วย ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการมูโนะเลย

          กระแสดังกล่าวมองว่าเป็นเรื่องการเมืองเข้ามาใส่ร้าย ตนเป็น สส. ในนามพรรคพลังประชารัฐ ที่ดูแลทุกข์สุขของพี่น้องประชาชน เกิดเหตุการณ์วันแรกตนมาทันที มาดูแลพี่น้องประชาชน ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรทั้งสิ้น หน้าที่ของตนคือต้องดูแลพี่น้อง ใครมาทำร้ายแบบนี้ตนรับไม่ได้ ในเรื่องของการเก็บส่วยก็ไม่ใช่หน้าที่ อันนี้เป็นเรื่องระหว่างตำรวจกับชาวบ้าน ตำรวจเองชาวบ้านเองก็ไม่เคยมาร้องเรียนกับตน แต่ถ้ามีการร้องเรียนขึ้นมา หรือถ้ามีการรังแก ตนก็ไม่ยอม

             ด้าน นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า ไม่อยากให้ผู้คนที่ตามข่าวฟังหรือเสพสื่อเพียงข้างเดียว คนในพื้นที่เขาเดือดร้อนมากพอแล้ว อยากให้หน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้อง รีบดำเนินคดีอย่างสูงที่สุด ฝากทางรัฐดูแลเรื่องเยียวยาความเท่าเทียมกัน ดูแลให้เหมาะแต่ละบ้าน เรื่องที่เป็นประเด็นในขณะนี้คือเรื่องส่วย ขอร้องว่าอย่ามาโยงเกี่ยวข้องกับการเมือง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการเมืองใด ๆ ทั้งสิ้น ตนก็พูดกลางสภามาแล้วว่า ถ้าตน พี่ชาย หรือครอบครัวมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องส่วย ทำให้เกิดเหตุการณ์ในวันนั้น พร้อมจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างสูงสุดเช่นกัน

            นายสิทธิโชค ผู้ประกอบการตลาดมูโนะ ระบุว่า ตนอยากพูดความในใจผ่านสื่อ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ สส. ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ท่านเป็นคนดี ท่านช่วยพี่น้องมาตลอด ไม่เฉพาะเหตุการณ์ในครั้งนี้ น้ำท่วม 2 ครั้งที่ผ่านมา ท่านอยู่ในพื้นที่ตลอด มันไม่เกี่ยวกับที่สื่อลงข่าวว่าเป็นพื้นที่สีเทาใด ๆ ทั้งสิ้น ตนเป็นคนในพื้นที่ย่อมรู้ดีกว่าคนข้างนอก ตรงนี้ขอยืนยันว่า สส. ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ในพื้นที่เป็นตะเข็บชายแดนการค้าก็ย่อมมีบ้าง แต่เรื่องส่วยต่าง ๆ ตนอยู่มากว่า 30 ปี ไม่มีเหตุการณ์แบบนี้ที่ สส. เก็บส่วย



ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่อง 3, เฟซบุ๊ก เรื่องเล่าเช้านี้