ลูกค้าตาแตก นั่งคาเฟ่กินเค้กชิ้นละ 330 บาท ไปสืบพบรับมาจากร้านดัง เห็นราคาทุนกำหมัดทันที

 
          เข้าคาเฟ่ร้านดัง เช็กบิลมาอึ้งเจอ บลูเบอร์รี่ชีสพายราคาชิ้นละ 330 บาท ซื้อมา 3 ชิ้นโดนไปเกือบ 900 คนมาบอกความลับ ร้านนี้ไปรับเค้กมาจากร้านข้าง ๆ เลยไปลองเช็กในแอปฯ เห็นราคาแล้วกำหมัดทันที

ลูกค้าโวย

          ในยุคปัจจุบัน คาเฟ่กลายเป็นสถานที่พักผ่อนใหม่ของคนในเมือง ซึ่งนอกจากการทำบรรยากาศในร้านให้น่านั่ง มีมุมพักผ่อน เรื่องเครื่องดื่มและของว่างก็เป็นอีกอย่างที่ทำให้คนหันมาเข้าคาเฟ่กันมากขึ้น แต่ถึงร้านคาเฟ่จะสามารถคิดราคาอาหารและเครื่องดื่มได้แพงกว่าทั่วไป แต่ถ้ามากไปก็อาจกลายเป็นปัญหาอยู่ดี

          ล่าสุด วันที่ 12 สิงหาคม 2566 ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง เล่าประสบการณ์การเข้าคาเฟ่ร้านหนึ่งย่านนานา พร้อมกับเพื่อนอีก 3 คน ก่อนที่จะสั่งบลูเบอร์รี่ชีสพายมา 3 ชิ้น ซึ่งเข้าใจว่าด้วยทำเลและที่คุณภาพของร้าน ราคาของเค้กน่าจะไม่เกินชิ้นละ 220 บาท กระทั่งบิลมาถึงเห็นแล้วลมแทบจับ เพราะราคาเค้กตกชิ้นละ 330 บาท รวม 3 ชิ้น 990 บาท ตาแตกกันไปเลย

          ส่วนเครื่องดื่มที่สั่งไปทั้งหมด 3 แก้ว ตกแก้วละ 150 บาท ซึ่งเป็นราคาปกติ ตรงนี้เธอไม่ได้ตกใจมากนัก แต่พอคิดราคารวมบวกภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 7% ทำให้การมาคาเฟ่ครั้งนี้เธอหมดเงินไป 1,445 บาท

ลูกค้าโวย

          ชาวเน็ตเห็นแบบนี้ก็ต่างพูดกันไปในทางเดียวว่า ราคาแพงเกินไป ต่อให้อยู่ต่างประเทศ เค้กชิ้นหนึ่งก็ไม่แพงขนาดนี้ ราคานี้คือระดับนั่งร้านหรูที่นั่นแล้ว หรือถ้าโรงแรม 5 ดาว หรือกระทั่งร้านกาแฟดังอย่าง Starbucks ในไทยก็ไม่แพงขนาดนี้ โดยที่มีคนหนึ่งได้เข้ามาชี้เป้าว่า ในเมนูของร้านไม่มีการระบุราคาเค้ก และเมื่อสั่งเค้ก ทางร้านจะไปเอาเค้กจากอีกร้านมาให้ และเมื่อมีคนไปเปิดทางเพจของร้าน Amor ร้านที่คาเฟ่แห่งนี้ไปรับเค้กมา ก็พบว่าร้านขายเค้กที่ Amor แค่ชิ้นละ 75 บาท การเอามาขายต่อและคิดเพิ่มเป็นชิ้นละ 330 บาท ดูจะขูดรีดกันเกินไป

ลูกค้าโวย

ลูกค้าโวย

ลูกค้าโวย

ลูกค้าโวย

          ในขณะเดียวกัน ก็มีคนที่เข้ามาบอกว่า ในฐานะที่เป็นคนทำเค้กขาย ต่อให้ใช้วัตถุดิบราคาสูง ใช้ของจากเมืองนอก ราคาบลูเบอร์รี่ชีสพายชิ้นละ 330 บาทก็ถือว่าแพงเกินไป ราคานี้สามารถขายเป็นต่อปอนด์ได้ เลย

          อีกทั้งยังมีคนบอกว่า ร้านนี้มีการคิดภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่ไม่มีการให้เลขผู้เสียภาษี แบบนี้สามารถฟ้องร้องต่อกรมสรรพากรได้เลย

          ด้านเจ้าของโพสต์ได้มาแจ้งเพิ่มเติมว่า ตนไปทานกาแฟที่ร้านในย่านนานา และเห็นเมนูระบุลำดับเลข 119-129 จึงคิดว่านั่นคือราคาเค้ก และย่านนั้นมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นจำนวนมาก เมื่อเธอเห็นราคาเค้กชิ้นละ 330 บาท ก็เลยเรียกพนักงานมาดู และพนักงานก็ยืนยันว่า ราคานี้ถูกแล้ว

          ตนเพิ่งสังเกตว่า ไม่มีโต๊ะไหนที่สั่งเค้ก มีแค่โต๊ะของตนที่พนักงานเชียร์ ส่วนใหญ่ลูกค้าที่ไปคือไปนั่งทานกาแฟและสูบบุหรี่ ไม่มีใครสั่งเบเกอรี่ และชื่อบนขนมเค้กเขียนเหมือนร้าน Amor แต่ยืนยันว่าร้านที่เธอไปนั่งไม่ใช่ร้าน Amor

ลูกค้าโวย

ลูกค้าโวย

เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ลูกค้าตาแตก นั่งคาเฟ่กินเค้กชิ้นละ 330 บาท ไปสืบพบรับมาจากร้านดัง เห็นราคาทุนกำหมัดทันที โพสต์เมื่อ 12 สิงหาคม 2566 เวลา 17:25:04 41,195 อ่าน
TOP
x close