ชะตากรรมสาว ดื่มน้ำใสในที่ทำงาน กลายเป็นผู้ป่วยอาการโคม่าอยู่ในสภาพผัก สามีเศร้าสุดใจ เหมือนอยู่ในนรกทุกวัน
วันที่ 28 สิงหาคม 2566 เว็บไซต์ Sinchew เผยเรื่องราวน่าตกใจของหญิงสาวรายหนึ่งวัย 30 ปี ในประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันหนึ่งในที่ทำงาน เธอได้ดื่ม "น้ำใส" ที่อยู่ในแก้ว โดยเข้าใจว่าเป็นน้ำดื่มตามปกติ แต่แท้จริงแล้วมันคือสารตัวอย่างสำหรับทดสอบ ซึ่งเป็นสารเคมีที่มีพิษ ทำให้เธอได้รับอันตรายกลายเป็นผู้ป่วยโคม่าอยู่ในสภาพผัก หวังเพียงปาฏิหาริย์เท่านั้นที่จะทำให้เธอฟื้นกลับขึ้นมา
สำหรับกรดไฮโดรฟลูออริก (Hydrofluoric Acid) หรือกรดกัดแก้ว คือ สารละลายของไฮโดรเจนฟลูออไรด์ เป็นของเหลว ใส ไม่มีสี และมีฤทธิ์กัดกร่อนอย่างรุนแรง นิยมใช้ในการกัดแก้วหรือกระจกให้เป็นลาย พิษของกรดชนิดนี้มีความรุนแรงและอันตรายต่อร่างกายเป็นอย่างยิ่ง
หญิงรายนี้ถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลในภาวะหัวใจหยุดเต้น เธอจำเป็นต้องรักษาด้วยเครื่อง ECMO ช่วยพยุงการทำงานของหัวใจและปอด รวมถึงการฟอกไตเพื่อกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย แม้ว่าชีพจรของเธอจะกลับมา แต่เธอยังคงอยู่ในอาการโคม่า ไม่ฟื้นคืนสติมานานถึง 2 เดือน
สามีของหญิงสาวรู้สึกเสียใจมาก กล่าวว่า "ภรรยาของผมยังคงหมดสติและอยู่ในสภาพผัก ตอนนี้เรากำลังรอปาฏิหาริย์ ทุกวันนี้เหมือนใช้ชีวิตอยู่ในนรก"
จากการตรวจสอบของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า เพื่อนร่วมงานของหญิงสาวเป็นผู้เทของเหลวดังกล่าวใส่แก้วเพื่อให้เธอใช้ในการทดสอบ ทั้งนี้ จากคำให้การของพยานแวดล้อมและกล้องวงจรปิด ไม่พบหลักฐานที่ปรากฏว่าเพื่อนร่วมงานรายนี้มีเจตนาทำร้าย ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสอบสวนกรณีของการประมาทเลินเล่อ
นอกจากนี้ทางตำรวจยังเตรียมตรวจสอบข้อกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อดูว่าทางบริษัทผู้รับผิดชอบมีความประมาทเลินเล่อหรือละเลยในการจัดการสารพิษ รวมถึงได้มีการฝ่าฝืนกฎหมายการจัดการสารเคมีด้วยหรือไม่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ระบุว่า "มีหลายประเด็นที่ต้องตรวจสอบ ดังนั้นจึงต้องใช้เวลาพอสมควรจนกว่าคดีจะปิด"
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก Sinchew, Yonhap