ดวงฤทธิ์ บุนนาค สถาปนิกชื่อดังและนักเคลื่อนไหวทางการเมืองจากกลุ่ม Care พร้อมแล้วกับการเปิดให้ปาขี้ใส่หน้า หลังเคยลั่นวาจาว่าจะทำหากเพื่อไทยไปรวมกับพรรคพลังประชารัฐและรวมไทยสร้างชาติ เช็กวัน-เวลาได้เลย
![ดวงฤทธิ์ บุนนาค เปิดให้ปาขี้ใส่หน้า ตามสัญญาเพื่อไทยรวม 2 ลุง]( "ดวงฤทธิ์ บุนนาค เปิดให้ปาขี้ใส่หน้า ตามสัญญาเพื่อไทยรวม 2 ลุง")
![ดวงฤทธิ์ บุนนาค เปิดให้ปาขี้ใส่หน้า ตามสัญญาเพื่อไทยรวม 2 ลุง]( "ดวงฤทธิ์ บุนนาค เปิดให้ปาขี้ใส่หน้า ตามสัญญาเพื่อไทยรวม 2 ลุง")
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่พรรคก้าวไกลไม่สามารถที่จะดัน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตและหัวหน้าพรรคก้าวไกล ฝ่าด่านเสียง สว. ไปให้ถึงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ ทางพรรคก้าวไกลก็ให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ด้านพรรคเพื่อไทยก็ฉีก MOU 8 พรรค และไปรวมตั้งขั้วใหม่ 11 พรรค รวมไปถึงการจับมือกับพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติ จนมีหลายคนแคปทวีตของนายดวงฤทธิ์ออกมา และบอกว่าต้องการทวงคำสัญญาที่นายดวงฤทธิ์เคยบอกว่าจะให้ปาขี้
ตนได้พูดในสิ่งที่เชื่อมั่นว่าจะเกิดขึ้น เพราะอยากให้มันเกิดขึ้น และเมื่อมันไม่ได้เกิดขึ้น ตนก็ผิดหวังเช่นเดียวกับคนอื่น ๆ การแสดงออกของตนมีผลกระทบกับคน ทำให้บางคนตัดสินใจทำบางอย่างเพราะคำพูดของตน เพราะเชื่อว่ามันจะเป็นจริง แต่เมื่อมันไม่เป็นจริง ตนก็ต้องรับผิดชอบต่อคำพูดในเงื่อนไขต่อสิ่งที่สร้าง และเมื่อพูดแล้วก็ต้องลงมือทำให้สอดคล้องกับคำพูดนั้น ในวิธีที่ยังทำให้ตนยังคงอยู่ได้ในฐานะคำพูดของตน และเป็นวิธีเดียวที่ทำให้ตนมีอิสระ
![ดวงฤทธิ์ บุนนาค เปิดให้ปาขี้ใส่หน้า ตามสัญญาเพื่อไทยรวม 2 ลุง]( "ดวงฤทธิ์ บุนนาค เปิดให้ปาขี้ใส่หน้า ตามสัญญาเพื่อไทยรวม 2 ลุง")
![ดวงฤทธิ์ บุนนาค เปิดให้ปาขี้ใส่หน้า ตามสัญญาเพื่อไทยรวม 2 ลุง]( "ดวงฤทธิ์ บุนนาค เปิดให้ปาขี้ใส่หน้า ตามสัญญาเพื่อไทยรวม 2 ลุง")
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ก่อนหน้านี้ นายดวงฤทธิ์ บุนนาค สถาปนิกชื่อดังและนักเคลื่อนไหวทางการเมืองจากกลุ่ม Care เคยออกมาลั่นวาจาเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2566 ว่า "ถ้าเพื่อไทยจับมือกับพลังประชารัฐ ผมจะยอมให้เอาขี้ปาหัว" ภายหลังจากที่ผลการเลือกตั้ง 2566 ออกมา และพรรคเพื่อไทยได้อันดับ 2 พรรคก้าวไกลได้อันดับ 1 ก็เกิดการคาดการณ์ว่าอาจจะเกิดปรากฏการณ์นายกฯ ส้มหล่น พรรคเพื่อไทยไปรวมกับพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติ สร้างขั้วขึ้นมาใหม่ ทำให้นายดวงฤทธิ์ออกมาทวีตอีกรอบว่า "เพื่อไทยจะตั้งรัฐบาลกับก้าวไกลเท่านั้น ไม่มีการเปลี่ยนขั้วสลับข้างไปจับมือกับภูมิใจไทย พลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ แน่นอน เลิกปั่น เลิกฝันเพ้อเจ้อกันได้แล้วนะครับ ผิดไปจากนี้ผมให้เอาขี้ปาหัว (อีกรอบ)"
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่พรรคก้าวไกลไม่สามารถที่จะดัน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตและหัวหน้าพรรคก้าวไกล ฝ่าด่านเสียง สว. ไปให้ถึงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ ทางพรรคก้าวไกลก็ให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ด้านพรรคเพื่อไทยก็ฉีก MOU 8 พรรค และไปรวมตั้งขั้วใหม่ 11 พรรค รวมไปถึงการจับมือกับพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติ จนมีหลายคนแคปทวีตของนายดวงฤทธิ์ออกมา และบอกว่าต้องการทวงคำสัญญาที่นายดวงฤทธิ์เคยบอกว่าจะให้ปาขี้
ล่าสุด วันที่ 29 สิงหาคม 2566 นายดวงฤทธิ์ ได้ส่งสารถึงสื่อมวลชน ทำคลิปและทวีตข้อความว่า ตนได้ส่งจดหมายไปถึงผู้คนเพื่อรักษาไว้ซึ่งการเป็นและการแสดงออกของตน และรับผิดชอบต่อสิ่งที่ได้สื่อสารออกไป รักษาไว้ซึ่งคำพูดในฐานะเจตจำนงของคนคนนี้ต่อไปในบริบทของอิสรภาพ และพร้อมแล้วที่จะจัดกิจกรรมปาขี้ ในวันที่ 2 กันยายน 2566 ที่ Mirror Art ซอยแจ้งวัฒนะ 1 แยก 6 ในเวลาบ่าย 3 โมง 14 นาที และให้ปาขี้เป็นเวลา 11 นาที โดยที่ทีมงานจะเตรียมขี้ไว้ให้ ใครไม่เชื่อใจก็ให้เอาขี้มาเองเลย !
นอกจากนี้ นายดวงฤทธิ์ ยังออกคลิปที่อธิบายว่า เหตุผลที่ให้ปาขี้ก็เพื่อ "ให้ตัวผม ยังเท่ากับคำพูดของผม" ตนไม่ได้ทำสิ่งนี้มาจากจุดยืนทางการเมืองหรือความเคืองแค้นใด ๆ แต่ต้องการรักษาไว้ซึ่งอิสรภาพในการเป็น และอิสรภาพในการแสดงออก
ตนได้พูดในสิ่งที่เชื่อมั่นว่าจะเกิดขึ้น เพราะอยากให้มันเกิดขึ้น และเมื่อมันไม่ได้เกิดขึ้น ตนก็ผิดหวังเช่นเดียวกับคนอื่น ๆ การแสดงออกของตนมีผลกระทบกับคน ทำให้บางคนตัดสินใจทำบางอย่างเพราะคำพูดของตน เพราะเชื่อว่ามันจะเป็นจริง แต่เมื่อมันไม่เป็นจริง ตนก็ต้องรับผิดชอบต่อคำพูดในเงื่อนไขต่อสิ่งที่สร้าง และเมื่อพูดแล้วก็ต้องลงมือทำให้สอดคล้องกับคำพูดนั้น ในวิธีที่ยังทำให้ตนยังคงอยู่ได้ในฐานะคำพูดของตน และเป็นวิธีเดียวที่ทำให้ตนมีอิสระ
ทุกคนที่เข้ามาช่วยเหลือตนในการแสดงออกของตนก็ล้วนแล้วแต่เข้าใจ ไม่ใช่เพราะเรื่องการเมืองหรือความไม่พอใจ ทุกคนแค่ต้องการสนับสนุนตน และตนขอบคุณในความเข้าใจในความห่วงใย และคนรอบตัวที่ออกมาสนับสนุน การแสดงออกของตน ไม่ใช่การจำนนต่อสถานการณ์ แต่เป็นวิธีการที่ตนยินดี เพื่อให้ตนกลับมาเป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง และคงไว้ซึ่งอิสรภาพที่จะเป็น และอิสรภาพที่จะทำด้วย !
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
