กินอาหารร้านดัง เจอบลูริงอยู่ในจาน ร้านยึดของกลางไม่ให้ไปตรวจ คนก็อาเจียน แน่นหน้าอก
ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาล ชาวเน็ตโมโห ยึดของกลางแบบนี้
ปัดความรับผิดชอบชัด ๆ พอเรื่องดังก็เปลี่ยนท่าที
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Joe Taachin
หนึ่งในสายพันธุ์หมึกที่กินแล้วเสี่ยงถึงตาย
ไม่ว่าสุกหรือไม่สุกก็กินไม่ได้ แม้จะเตือนมาหลายครั้ง
แต่ก็มีพ่อค้าแม่ค้าหลายคนยังคงนำมาให้ลูกค้าบริโภคอยู่ นั่นคือ หมึกบลูริง
โดยจุดเด่นของมันที่สังเกตง่ายที่สุดคือ จะมีรอยสีน้ำเงินเป็นจุด ๆ
หรือถ้าถูกทอดกรอบ มันก็จะเปลี่ยนเป็นสีคล้ำ ๆ แทน
ถ้าเป็นหมึกปกติจะไม่มีจุดอะไรเลย
ล่าสุด วันที่ 29 สิงหาคม 2566 เฟซบุ๊ก Joe Taachin มีการลงภาพอาหารจานหนึ่ง มีหมึกดูน่ากิน แต่สังเกตดี ๆ ก็เข้าข่ายว่าเป็นหมึกบลูริง ด้วยความไม่แน่ใจของเจ้าตัว จึงโพสต์ถามในกลุ่มว่า ใช่หมึกบลูริงหรือเปล่า เพื่อนเจอที่ร้านมา
ชาวเน็ตเห็นแบบนั้นต่างโพสต์เป็นเสียงเดียวกันว่า ใช่ นี่คือหมึกบลูริง และเมื่อคำตอบเป็นแบบนี้ก็เกิดงานหยาบขึ้นทันที เพราะเพื่อนเจ้าของโพสต์ตักอาหารกินไปแล้ว ไม่แน่ใจว่ากินไปแล้วหรือยัง พอเห็นลายจึงส่งมาถามก่อน
ส่วนความอันตรายของหมึกบลูริงนั้น เป็นหมึกที่ทนความร้อนได้สูงถึง 200 องศาเซลเซียส หากกินไปแล้วจะเป็นพิษกับระบบประสาท เสี่ยงเป็นอัมพาต กล้ามเนื้ออ่อนแรง หยุดหายใจ และเสียชีวิต
ล่าสุด วันที่ 29 สิงหาคม 2566 เฟซบุ๊ก Joe Taachin มีการลงภาพอาหารจานหนึ่ง มีหมึกดูน่ากิน แต่สังเกตดี ๆ ก็เข้าข่ายว่าเป็นหมึกบลูริง ด้วยความไม่แน่ใจของเจ้าตัว จึงโพสต์ถามในกลุ่มว่า ใช่หมึกบลูริงหรือเปล่า เพื่อนเจอที่ร้านมา
ชาวเน็ตเห็นแบบนั้นต่างโพสต์เป็นเสียงเดียวกันว่า ใช่ นี่คือหมึกบลูริง และเมื่อคำตอบเป็นแบบนี้ก็เกิดงานหยาบขึ้นทันที เพราะเพื่อนเจ้าของโพสต์ตักอาหารกินไปแล้ว ไม่แน่ใจว่ากินไปแล้วหรือยัง พอเห็นลายจึงส่งมาถามก่อน
ส่วนความอันตรายของหมึกบลูริงนั้น เป็นหมึกที่ทนความร้อนได้สูงถึง 200 องศาเซลเซียส หากกินไปแล้วจะเป็นพิษกับระบบประสาท เสี่ยงเป็นอัมพาต กล้ามเนื้ออ่อนแรง หยุดหายใจ และเสียชีวิต
เอาเรื่องกับทางร้าน โดนยึดของกลางไม่ให้ไปหาหมอ บอกไม่มีพิษ
สำหรับอาการเพื่อนเจ้าของโพสต์ ยังคงไม่เป็นอะไร พร้อมกับเอาเรื่องทางร้านไปพร้อม ๆ กัน จะขอคุยกับพนักงานหรือผู้จัดการ เรื่องราวยังคงคาราคาซังอยู่ ทางร้านกลับปฏิเสธบอกว่า มันต้องมีสีฟ้า ซึ่งทำให้หลายคนงง ในเมื่อมันสุกขนาดนี้ บลูริงมันไม่เป็นสีฟ้าแล้ว
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Joe Taachin
สุดท้ายทางร้านเอาไปตรวจสอบเองด้านใน แล้วก็บอกว่า มีนักวิชาการมาตรวจสอบแล้ว เป็นหมึกที่ไม่มีพิษ เจอแบบนี้เข้าไป ทั้งเจ้าของโพสต์ก็โมโห มองว่านี่คือการปิดเรื่องชัด ๆ ส่วนชาวเน็ตแนะนำว่า ให้โทรศัพท์หา อย. หรือแจ้งสื่อเลย ยังไงมันเป็นเรื่องใหญ่และเป็นข่าวดังแน่นอน
บางคนก็มองว่า ร้านเหลี่ยมมาก ริบของกลางไปแบบนี้ อ้างว่ามี QC การตรวจสอบภายใน แล้วก็ทิ้งของกลางดังกล่าวไปแล้ว เจอแบบนี้ต้องเอาเรื่องให้หนัก
สถานการณ์แบบนี้หัวจะปวด คนก็สุ่มเสี่ยงจะโดนพิษหมึก ยังเจอทางร้านเล่นลิ้น สุดท้ายเพื่อนเจ้าของโพสต์รีบไปโรงพยาบาลก่อนที่จะมีอาการอะไรออกมา จำได้ว่า กินอาหารไปราว ๆ 6 โมงเย็น ต่อให้ร้านทิ้งหมึกไป ก็ยังคงมีรูปและคลิปเก็บเอาไว้
ความหยาบกว่านั้น เพื่อนเจ้าของโพสต์โทรศัพท์หาหน่วยงานรัฐไม่ได้เลย เนื่องจากเป็นช่วงนอกเวลาทำการ บางคนแนะนำว่า ให้ติดต่อที่ศูนย์พิษวิทยารามาธิบดี hot line 1367 น่าจะรับสายช่วงนอกเวลาทำการได้
ถึงโรงพยาบาลแล้ว รอ 2 ชั่วโมงอาการเริ่มออก ตอนนี้ไม่รู้ชะตากรรม
เมื่อถึงโรงพยาบาล เวลาประมาณ 1 ทุ่มครึ่ง หมอก็ตรวจอาการ มองว่ายังคงปกติดี แต่ต้องเฝ้าดูอาการ เพราะไม่มีหมึกเป็นตัวมาให้ เนื่องจากร้านริบไป กระทั่งผ่านไปราว ๆ 2 ชั่วโมง เพื่อนเจ้าของโพสต์เริ่มอาเจียน ส่วนแฟนเจ้าของโพสต์ที่ไปกินด้วยกันก็เริ่มแน่นหนาอก โชคดีที่อยู่กับหมอแล้ว สามารถดูแลได้ตลอด
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Joe Taachin
ขณะที่เพื่อนเจ้าของโพสต์อยู่ที่โรงพยาบาล ครอบครัวก็ติดต่อทางร้านซึ่งอยู่แถวกาญจนา ไปเอาเรื่องแทนคนป่วย ทางร้านมีทีท่ากลับคำพูดจากตอนแรกบอกว่าทิ้งไปแล้ว เป็นยินดีรับผิดชอบ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Joe Taachin
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Joe Taachin
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Joe Taachin
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Joe Taachin
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Joe Taachin
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Joe Taachin