ครูศิลปะดัง ซัด โลโก้ปังชาได้แรงบันดาลใจจากไหน พร้อมเทียบภาพกันชัด ๆ ด้านทนายดัง ชี้ ร้านเคลมคำว่าปังชาไม่ได้ พร้อมยกตัวอย่างโออิชิ กระทิงแดง ต่างกันตรงไหน
ล่าสุด วันที่ 31 สิงหาคม 2566 เฟซบุ๊ก Peeramon Chomdhavat ของครูบิ๊ก พีรมณฑ์ ชมธวัช ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องแต่งกายไทยโบราณ ก็ร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกันว่า ก่อนที่ทางร้านจะไปฟ้องลิขสิทธิ์คนอื่น ให้ดูโลโก้สินค้าร้านตัวเองก่อนไหม ภาพวาดลายเส้นหญิงไทยใส่ชุดไทยนั่งพับเพียบ เกล้าผมมวยพันอก ทัดดอกไม้ ใส่สร้อยคอ ยื่นมือขวาเหยียดนิ้วยาว อันนี้คิดเองหรือ หรือเอาแบบจากที่ไหนมาวาด
ทั้งนี้ ครูบิ๊กได้เผยภาพให้เห็นว่า โลโก้ของร้านปังชาที่ไปจดลิขสิทธิ์นั้น มีความคล้ายกับผลงานการออกแบบชุดไทยและลีลาท่าทางของหญิงคนหนึ่งมาก รวมไปถึงถาดปังชาก็ยังคล้ายกับถาดดอกไม้ของหญิงคนนั้น โดยที่ภาพนั้นครูบิ๊กบอกว่า เป็นผลงานการออกแบบชุดไทยและตนก็เป็นคนจัดวางท่าเอง ในปฏิทินรีเจนซี่ 2550
ทนายดัง โพสต์ถาม ร้านเล็กกับร้านดัง ปังชาเหมือนกันตรงไหน ชี้ความต่างปังชา กระทิงแดง ?
ขณะที่เฟซบุ๊ก Dr. Pete Peerapat ของ นายพีรภัทร ฝอยทอง CFP ทนายความและนักวางแผนการเงินส่วนบุคคล ก็มีการลงภาพหน้าร้านที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ที่ถูกโนติสเรียก 7 แสนบาท เนื่องจากเมนูร้านมีคำว่าปังชาว่า ลองดูรูปป้ายร้านที่คุณส่งโนติสไป มันไม่มีความเหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าที่คุณจดทะเบียนเลย
นอกจากนี้ ดร.พีท ยังอธิบายถึงการจดทะเบียนแล้วมีคำว่าปังชาแบบไม่มีข้อยกเว้นว่า เวลาที่จดทะเบียน เขาหมายถึงการครอบคลุมเครื่องหมายการค้าทั้งภาพ ฉะนั้นการดึงคำว่า Pang Cha ที่อยู่ในรูปมาใช้คนเดียว เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง คำว่า ปังชา หรือ Pang Cha คนอื่นก็เอามาใช้ได้ สิ่งที่ห้ามคือ การใช้เครื่องหมายที่มีคำว่า Pang Cha แบบในรูปของคุณ
ส่วนกรณีโออิชิหรือกระทิงแดง ที่เป็นคำสามัญ แต่ทำไมถึงจดทะเบียนได้ เพราะเป็นการใช้อย่างเครื่องหมายจนเป็นที่แพร่หลาย ใคร ๆ ก็รู้จัก ส่วนคำว่า ปังชา หรือ Pang Cha เป็นเพียงเมนูขนมหวานเท่านั้น คนไม่ได้รับรู้ในตัวเครื่องหมายหรือโลโก้แบรนด์ของปังชาเลย
