ส่องภาพย้อนหลัง บ้านร้าง 30 ปี ก่อนถูกเพื่อนบ้านบุกรุกใช้งานเต็มรูปแบบ หลักฐานชัดต่อเติมอะไรบ้าง ก่อนล่าสุดย้ายไปเชื่อมหลังบ้าน
กรณีดราม่าหลานเจ้าของบ้านได้ของขวัญแต่งงานจากอากู๋เป็นบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งไม่มีคนอยู่มา 30 ปี แต่เมื่อเข้าไปหวังจะรีโนเวทเป็นบ้านหลังใหม่ กลับเจอเพื่อนบ้านเอาของเข้าไปอยู่ ต่อเติมโครงเหล็ก เปลี่ยนรั้ว, หน้าต่าง, ชักโครก เข้าไปอาศัยโดยไม่ได้แจ้งเจ้าของบ้าน ต่อมาเพื่อนบ้านรายนี้ชี้แจงว่าจำเป็นต้องทำ เพราะคนในบริษัทไม่มีที่กินข้าว โดยพร้อมจะถูกดำเนินคดี ยืนยันว่าจะซื้อบ้านหลังนี้ในราคา 1.3 ล้าน แต่ถ้าเจ้าของบ้านไม่ตกลงก็ยืนดีย้ายออก
เพื่อนบ้านแจงดราม่า ยึดบ้านเก่า 30 ปี ขอซื้อในราคา 1.3 ล้านจาก 3 ล้าน ไม่ขายพร้อมย้ายออก
วันที่ 5 กันยายน 2566 ภายหลังจากเรื่องราวดังกล่าวกลายเป็นกระแสโด่งดัง ทำให้โลกออนไลน์เกิดความข้องใจว่ากรณีนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร และเพื่อนบ้านนั้นค่อย ๆ ทำแบบไหนในการขยายบ้านของตัวเองไปใช้งานบ้านร้างที่ซื้อไว้ 30 ปี และไม่มีคนอยู่อาศัย จนกระทั่งเกิดเป็นข่าว
จากการตรวจสอบใน กูเกิล สตรีตวิว พบว่า ปี 2555 บ้านร้างยังคงอยู่ในสภาพเก่า มีการเก็บของไว้บริเวณหน้าบ้านจำนวนมาก รวมทั้งมีการล็อกกุญแจประตูเอาไว้อีกด้วย ส่วนซอยข้างบ้านก็ยังคงโล่ง ไม่ได้มีการเชื่อมต่อหรือยุ่งเกี่ยวกันระหว่างบ้าน 2 หลัง และในบ้านยังมีต้นกล้วย ในขณะที่เพื่อนบ้านข้างกันนั้นได้มีการต่อเติมบ้านจากส่วนที่จะใช้เป็นที่จอดรถ ให้กลายมาเป็นชั้น 2 จนเต็มพื้นที่ตั้งแต่ตอนนั้น
อย่างไรก็ดี เมื่อปี 2560 ปรากฏว่าบ้านร้างดังกล่าว จากที่มีต้นกล้วย บ้านทรุดโทรม ก็ปรากฏภาพว่าบ้านเริ่มมีการต่อเติมใหม่ และที่บริเวณหน้าบ้านมีการติดตั้งประตูและหลังคาเพิ่ม เพื่อทำให้หน้าบ้านกลายเป็นโซนใช้นั่งกินข้าว ส่วนในซอยกลับรถข้าง ๆ ก็มีการต่อเติมด้านหลัง เชื่อมบ้านทั้งสองหลังเข้าด้วยกัน และมีคนยึดจุดที่ใช้กลับรถในหมู่บ้านมาใช้จอดรถถึง 3 คัน แต่บริเวณชั้น 2 ของบ้านนั้นไม่มีการรีโนเวทแต่อย่างใด
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ภาพจาก Google ก็พบว่ามีการใช้หน้าบ้านหลังดังกล่าว บริเวณหน้าบ้านถูกใช้เป็นพื้นที่ทำครัวและนั่งกินอาหารประจำอย่างยาวนานหลายปี โดยมีการติดกระจกบนกำแพงจากบ้านหลังข้าง ๆ พร้อมนำตู้ต่าง ๆ มาเก็บเครื่องใช้ต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก
ก่อนที่ปี 2565 จะมีการย้ายโซนหน้าบ้านออกไป แต่ภายหลังปรากฏเป็นข่าวจะเห็นว่า ปี 2566 กลุ่มเพื่อนบ้านทำการต่อเติมซอยจอดรถข้างบ้านให้ช่วงท้ายทั้งสองบ้านทะลุติดกันได้ และย้ายโซนนั่งกินข้าวไปอยู่ด้านหลังบ้านร้างแทน และ คุณนุ คู่กรณี ซึ่งทำบริษัทเอาต์ซอร์สหน่วยงานรัฐ ก็ไปยึดบ้านคนอื่นมาทำเป็นที่นั่งกินข้าวของพนักงานในบริษัท แถมพนักงานเยอะมาก และดูเหมือนว่าใน Google Maps จะปรากฏใบหน้าของเธอขณะกำลังนั่งล้างจานหน้าบ้านอีกด้วย
ด้าน เฟซบุ๊ก ปลั๊กไทย by มหาชะนี บอกว่า หมู่บ้านนี้มักจะจอดรถหน้าบ้าน และที่กลับรถก็จะถูกยึดให้กลายเป็นที่จอดรถแทน แต่บ้านดราม่านี้หนักกว่า คือทำทางเชื่อม 2 บ้านทั้งที่ตัวเองไปยึดบ้านคนอื่น ในส่วนราคาขายนั้น ถ้าแต่งสวย ๆ จะอยู่ที่ราคา 2.39 ล้าน ถ้าบ้านเปล่า ๆ เปลือย ๆ จะขายกันที่ 1.9 ล้าน แต่คุณนุดันต่อราคาแบบโหดสุด ๆ คือ 1.3 ล้าน คาดว่าอาจจะเพราะยึดราคาที่ซื้อมาเมื่อ 30 ปีก่อน คือ 4 แสนบาท จนมีคนคอมเมนต์ต่อว่า ถ้าคุณนุจะมีใจคิดสักนิด ให้ราคา 2 ล้านน่าจะกำลังดี เพราะเล่นยึดที่สาธารณะปิดกั้นถนนหน้า-หลัง เหมือนตอนนี้คุณนุยึดที่แล้วก็ยึดให้สุดไป ยึดบ้านคนอื่นแล้วยังกดราคาแบบนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกัน
