x close

รู้จัก ผู้กำกับเบิ้ม พ.ต.อ. วชิรา ยาวไทยสงค์ คอมมานโดฝีมือดี สู่ยิงตัวตาย เซ่นสังเวยคดีฆ่าตำรวจ !

        ประวัติ ผู้กำกับเบิ้ม พ.ต.อ. วชิรา ยาวไทยสงค์ จากตำรวจสืบสวนมือดี สู่คอมมานโดมือฉกาจ ก่อนจบชีวิตตัวเองหลังจากหน่อง ท่าผา ลูกน้องกำนันนก ยิงสารวัตรแบงค์ พบเคยออกมาพูด บางครั้งเจ้าของซุ้มมือปืนก็สั่งเก็บลูกน้องตัวเอง !

ผู้กำกับเบิ้ม
ภาพจาก policenewsvarieties.com

        จากกรณีการเสียชีวิตของ  ผู้กำกับเบิ้ม พ.ต.อ. วชิรา ยาวไทยสงค์  ผู้กำกับ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ซึ่งเป็นคนที่พา พ.ต.ต. ศิวกร สายบัว ไปร่วมงานกำนันนก จนสารวัตรแบงค์เสียชีวิต อันนำไปสู่การจับกุมกำนันนกและไล่ล่าหน่อง ท่าผา มือปืน และทำให้เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2566  พ.ต.อ. วชิรา ได้ใช้ปืนยิงตัวตาย โดยตอนนี้ยังสรุปสาเหตุไม่ได้ แต่คาดว่าอาจจะมาจากความเครียด

        อ่านเพิ่มเติม พ.ต.อ. วชิรา ยาวไทยสงค์ คนพาสารวัตรแบงค์ไปงานกำนันนก เครียดจัดยิงตัวตาย

ประวัติ ผู้กำกับเบิ้ม พ.ต.อ. วชิรา ยาวไทยสงค์ จากงานสอบสวน สู่คอมมานโด เลื่อนตำแหน่งเมื่ออายุมาก


ผู้กำกับเบิ้ม
ภาพจาก Thai TV Social

        เดลินิวส์ รายงานว่า ผู้กำกับเบิ้ม พ.ต.อ. วชิรา เติบโตมาในครอบครัวทหาร คุณแม่เป็นครู คุณพ่อเป็นอดีตนายทหารม้า ม.พัน 7 ค่ายพระชาพิชัยดาบหัก จ.อุตรดิตถ์ และเป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 39 เหล่าตำรวจ นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 55

        ภายหลังจบจากการเรียนจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ผู้กำกับเบิ้ม พ.ต.อ. วชิรา ก็ได้เข้าบรรจุครั้งแรกเมื่อปี 2545 ที่กิ่งอำเภอศรีรัตนะ จ.ศรีสะเกษ และเป็นนักเรียนนายร้อยชุดแรกของโรงพักพร้อมเพื่อนอีก 3 คน และเหตุที่ได้ลงไปที่นั่นเพราะสอบได้อันดับที่ 222 จาก 300 คน

        ผู้กำกับเบิ้ม ได้ร่วมงานกับ พ.ต.อ. ประยนต์ ลาเสือ และอยู่กับท่านจนเกษียณที่ผู้การศูนย์สืบ บช.น. และหลังจากที่ พ.ต.อ. ประยนต์ เกษียณ พ.ต.อ. ปิยรัช สุภารัตน์ เพื่อนสนิทสมัยตั้งแต่เรียนนายร้อย ก็ชวนผู้กำกับเบิ้มให้มาเป็นสารวัตรคอมมานโดด้วยกันที่กองปราบ จากเดิมที่ผู้กำกับเบิ้มเป็นเพียงตำรวจสืบสวน กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ก็ได้ย้ายไปทำงานกับ พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล ที่ปัจจุบันคือรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งในตอนนั้น  พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ ยังคงมีตำแหน่งเป็น พ.ต.ท. เมื่อ พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นรองผู้กำกับกองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ ผู้กำกับเบิ้มก็กลายเป็น รองผู้กำกับกองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ

        เมื่อ พ.ต.อ. วชิรา อายุ 39 ปี ก็ได้ไปเรียนหลักสูตรต่อต้านการก่อการร้ายที่ค่ายนเรศวร 261 อันเป็นหลักสูตรสูงสุดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และขึ้นชื่อว่าเป็นหลักสูตรที่หนักมาก ในตอนนั้นผู้กำกับเบิ้มเป็นตำรวจที่ยศสูงสุด อายุมากที่สุดในขณะนั้น และได้เป็นหัวหน้าทีมอีกด้วย

        จากนั้น ผู้กำกับเบิ้ม ได้ขยับตำแหน่งมาเป็น ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.ปฏิบัติการพิเศษ บช.ก. ที่ปัจจุบันคือ กองบังคับการถวายความปลอดภัยฯ และเปลี่ยนเป็น กก.ปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ 904 แล้วเป็นกองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ และเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2563 ผู้กำกับเบิ้มก็ได้รับคำสั่งย้ายจาก ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ มาเป็นผู้กำกับต่อต้านการก่อการร้าย บก.ปพ.


        ผู้กำกับเบิ้ม พ.ต.อ. วชิรา จบชีวิตลงภายหลังจากที่เกิดเหตุหน่อง ท่าผา ยิงสารวัตรแบงค์ พันตำรวจตรี ศิวกร สายบัว หลังจากที่ไปร่วมงานเลี้ยงโต๊ะจีนในบ้านของกำนันนก ผู้กว้างขวางแห่งนครปฐม โดยมีข่าวว่า ผู้กำกับเบิ้มเป็นคนบอกให้สารวัตรแบงค์มา และหลังจากเกิดเหตุ ผู้กำกับเบิ้ม ก็เป็นคนหนึ่งที่พาตัวสารวัตรแบงค์ไปโรงพยาบาล ซึ่งตำแหน่งสุดท้ายคือ ผู้กำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง (ผกก.2บก.ทล.)

ย้อนเหตุการณ์วันเกิดเหตุ ผู้กำกับเบิ้ม โทร. ตามสารวัตรแบงค์ให้มา ก่อนเกิดเหตุสลด เจ้าตัวยัน ไม่ได้ทำ


        ด้านรายการเรื่องเล่าเสาร์อาทิตย์ รายงานว่า ในวันเกิดเหตุ กำนันนกได้เชิญตำรวจกว่า 25 นายในจำนวนนี้เป็นตำรวจระดับผู้กำกับถึง 3 นาย รองผู้กำกับอีก 1 นาย มากินข้าวเพื่อกระชับความสัมพันธ์ เวลางานเริ่ม 2 ทุ่ม

        ในตอนแรก กำนันนก ได้เจรจาขอให้ ผู้กำกับเบิ้ม พ.ต.อ. วชิรา ย้าย จ.ส.ต.พิสิฐ  หลานของกำนันนก จากสายตรวจรถยนต์ มาเป็นสายตรวจจักรยานยนต์ แต่ผู้กำกับเบิ้มปฏิเสธ และบอกว่าช่วยไม่ได้เพราะเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ในสายงาน ต้องคุยกับคนที่ทำงานนี้โดยตรง กำนันนกจึงวานให้ผู้กำกับเบิ้มช่วยโทร. ตาม สารวัตรแบงค์ให้มางานอีกที ซึ่งทางสารวัตรแบงค์ก็มางานพร้อมกับ พ.ต.อ. วศิน ผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว

        เมื่อมาร่วมงานแล้ว ก็มีการแนะนำสารวัตรแบงค์ให้รู้จักกับกำนันนก และและกำนันนกก็เจรจาเรื่องโยกย้ายตำแหน่งของหลานอีกที แต่สารวัตรแบงค์บอกว่าให้ไม่ได้ และหากหลานกำนันนกอยากเลื่อนตำแหน่ง ต้องรอให้ตำรวจที่อยู่ในตำแหน่งเดิมเกษียณก่อน เมื่อตำแหน่งว่าง ถึงสามารถขยับได้

        เรื่องนี้ทำให้กำนันนกเสียหน้า และอ้างว่าตนขอคนนี้แค่คนเดียว เพราะเป็นหลาน แต่สารวัตรแบงค์ก็ปฏิเสธ และมีการดวลเหล้ากันกับสารวัตรแบงค์ แต่กำนันนกแพ้ ทำให้กำนันนกเสียหน้ากว่าเดิม กำนันนกตบโต๊ะและเดินกลับไปที่นั่งที่โต๊ะของตัวเอง

        เมื่อเห็นเหตุการณ์ดังนั้น สารวัตรแบงค์และ จ.ส.ต. พิสิฐ ก็เดินไปขอโทษกำนันนก แต่กำนันนกโกรธและไล่ทั้งสองคนไป มีคำพูดที่ว่า "ไม่งั้นเลือดจะเปื้อนหน้า" สารวัตรแบงค์จึงกลับไปนั่งที่โต๊ะเดิม จ.ส.ต. พิสิฐ ก็กลับบ้าน และไม่นาน หน่อง ท่าผา ก็เดินไปประกบสารวัตรแบงค์ และถามกำนันนกว่าใช่คนนี้ไหม กำนันนกพยักหน้า และทำให้หน่อง ท่าผา ยิงสารวัตรแบงค์หมดแม็ก

        ด้านไทยพีบีเอส เผยภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงพยาบาลนครปฐมเวลา 21.18 น. ที่มีคนพาตัวของสารวัตรแบงค์มาส่งโรงพยาบาล และในเวลา 21.21 น. รถของคนที่มาส่ง พ.ต.อ. วศิน ก็ตามมา และในเวลา 21.42 น. ก็ปรากฏภาพของ ผู้กำกับเบิ้ม ยาวไทยสงค์ อยู่ในโรงพยาบาล มีตำรวจมาพูดคุยกับผู้กำกับเบิ้มเป็นระยะ

        อย่างไรก็ตาม หากดูผังที่นั่งในวันเกิดเหตุ จะเห็นว่า ผู้กำกับเบิ้ม พ.ต.อ. วชิรา เป็นคนที่เห็นเหตุการณ์ชัด ๆ เนื่องจากตำแหน่งที่นั่งอยู่ติดกับ พ.ต.ท. วศิน ผู้ได้รับบาดเจ็บ และถัดไปคือสารวัตรแบงค์ และนายหน่อง

        ผู้กำกับเบิ้ม ได้ออกมาเปิดใจกับช่อง 3 ว่า เรื่องที่มีคนบอกว่าผู้กำกับเบิ้มคือคนโทร. ให้สารวัตรแบงค์มางานเลี้ยง ทั้งที่สารวัตรแบงค์ไม่อยากมา ผู้กำกับเบิ้มยืนยันว่าไม่ใช่ความจริง สารวัตรแบงค์เห็นว่า ผู้กำกับเบิ้มมางาน ก็มางานด้วย และทั้งคู่มาเจอกันที่งาน และเมื่อมีความพยายามถามถึงว่า กำนันนกเรียกสารวัตรแบงค์ไปเจรจาเรื่องส่วย ผู้กำกับเบิ้มก็ปฏิเสธ มีแค่การคุยกันธรรมดาเท่านั้น เมื่อเห็นพูดคุยกันเสียงดัง บทจะยิงก็ยิง และเมื่อนักข่าวพยายามซักไซ้ ผู้กำกับเบิ้มก็ขออนุญาตวางสาย

พ.ต.อ. วชิรา ยาวไทยสงค์ ฆ่าตัวตาย ไม่มีเหตุมาก่อน พบวงจรปิดปีนเข้าบ้านตัวเอง


ผู้กำกับเบิ้ม

        ในคืนก่อนวันเกิดเหตุ ผู้กำกับเบิ้ม ได้ไปสังสรรค์กับเพื่อนถึง 4 ทุ่ม และเปิดโรงแรมนอน และนัดหมายว่าให้เพื่อนมารับตอน 9 โมงเช้า เพื่อไปทำงาน ในช่วงเวลาตี 4 ผู้กำกับเบิ้มก็กลับเข้าบ้านและปีนเข้าบ้านตัวเอง 


        จากนั้นในเวลาเวลาประมาณตี 5 ผู้กำกับเบิ้มก็ฆ่าตัวตาย แต่มีคนมาพบศพในช่วงเย็น มีรอยกระสุนเข้าที่ขมับขวาทะลุออกหลังหูซ้าย และพบอาวุธปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ด้านขวาศีรษะ และพบปลอกกระสุนกระเด็นตกอยู่ 1 ปลอก ซึ่งจากการสันนิษฐานของเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ก่อนเสียชีวิต น่าจะอยู่ในท่านั่ง ที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้ และไม่พบสิ่งผิดปกติ โดยประตูหน้าต่างในบ้านก็ยังถูกปิดล็อกไว้

        อย่างไรก็ตาม  มีแชตที่ พ.ต.อ. วชิรา ยาวไทยสงค์ ส่งไลน์ไปบอกเพื่อนว่าจะฆ่าตัวตาย ซึ่งเพื่อน ๆ ต่างให้กำลังใจ ก่อนที่ พ.ต.อ. วชิรา จะกดออกมาจากกลุ่มไลน์




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
รู้จัก ผู้กำกับเบิ้ม พ.ต.อ. วชิรา ยาวไทยสงค์ คอมมานโดฝีมือดี สู่ยิงตัวตาย เซ่นสังเวยคดีฆ่าตำรวจ ! อัปเดตล่าสุด 12 กันยายน 2566 เวลา 11:36:31 33,412 อ่าน
TOP