อ.ทัศนัย ศิลปินชื่อดัง และอาจารย์จาก ม.เชียงใหม่
เล่าประสบการณ์สอนหนังสือแล้วต้องรับเงินเดือน 118 บาท ถูกหักไปจนเกือบหมด
เอาตัวรอดยังไง ชี้ โชคดียุคนั้นไม่แบ่งจ่าย มิเช่นนั้นเหลือเงิน 59 บาท
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Thasnai Sethaseree
ข่าวร้อนสุดฮอตหลังจากประชุม ครม. รัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน นั่นคือ
การเปลี่ยนระบบการจ่ายเงินเดือนข้าราชการเป็น 2 งวด
โดยเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป
ทำให้ข้าราชการมีเวลาปรับตัวล่วงหน้าประมาณ 3 เดือนก่อนใช้จริง
แต่ถึงอย่างไร นโยบายดังกล่าวก็เป็นที่ถกเถียง
เพราะคนที่มีหนี้สินจะบริหารเงินลำบาก เงินมาทีละน้อย ๆ
แต่หนี้ต้องจ่ายเต็ม ยิ่งคนที่มีเงินเดือนน้อยอยู่แล้ว
พอถูกหักเหลือครึ่งก็ยิ่งน้อยกว่าเดิม
อ่านข่าว : สรุปประเด็น เศรษฐา ยัน แบ่งจ่ายเงินเดือน ขรก. เดือนละ 2 รอบ - ลดค่าไฟเริ่มบิล ก.ย.
ล่าสุด วันที่ 14 กันยายน 2566 เฟซบุ๊ก Thasnai Sethaseree ของนายทัศนัย เศรษฐเสรี อาจารย์ภาควิชาสื่อศิลปะและการออกแบบสื่อ ม.เชียงใหม่ มีการโพสต์เล่าประสบการณ์การได้เงินแบบถูกหักไปตั้งแต่ต้น ต้องใช้ชีวิตแบบกระเบียดกระเสียน รายละเอียดมีดังนี้
เมื่อ 20 ปีก่อนตอนที่ตนบรรจุเป็นอาจารย์ ได้รับเงินเดือนราว 17,500 บาท พ่อกับแม่เอาเงินบำนาญซื้อที่ดินให้แปลงหนึ่ง และออกค่าสร้างบ้านให้ส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งตนไปกู้สวัสดิการมหาวิทยาลัยมาทำบ้านให้เสร็จโดยไม่บอกพ่อกับแม่ ทำให้ในทุกเดือน เงินเดือน 70% จะถูกหักอัตโนมัติเพื่อจ่ายหนี้ เหลือเงินไม่กี่พันบาทสำหรับใช้จ่าย ซึ่งสำหรับผมถือว่าพอ เพราะมีแค่ค่ากินอยู่ ค่าน้ำมันรถไปทำงาน ซื้อต้นไม้มาปลูก
อ่านข่าว : สรุปประเด็น เศรษฐา ยัน แบ่งจ่ายเงินเดือน ขรก. เดือนละ 2 รอบ - ลดค่าไฟเริ่มบิล ก.ย.
ล่าสุด วันที่ 14 กันยายน 2566 เฟซบุ๊ก Thasnai Sethaseree ของนายทัศนัย เศรษฐเสรี อาจารย์ภาควิชาสื่อศิลปะและการออกแบบสื่อ ม.เชียงใหม่ มีการโพสต์เล่าประสบการณ์การได้เงินแบบถูกหักไปตั้งแต่ต้น ต้องใช้ชีวิตแบบกระเบียดกระเสียน รายละเอียดมีดังนี้
เมื่อ 20 ปีก่อนตอนที่ตนบรรจุเป็นอาจารย์ ได้รับเงินเดือนราว 17,500 บาท พ่อกับแม่เอาเงินบำนาญซื้อที่ดินให้แปลงหนึ่ง และออกค่าสร้างบ้านให้ส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งตนไปกู้สวัสดิการมหาวิทยาลัยมาทำบ้านให้เสร็จโดยไม่บอกพ่อกับแม่ ทำให้ในทุกเดือน เงินเดือน 70% จะถูกหักอัตโนมัติเพื่อจ่ายหนี้ เหลือเงินไม่กี่พันบาทสำหรับใช้จ่าย ซึ่งสำหรับผมถือว่าพอ เพราะมีแค่ค่ากินอยู่ ค่าน้ำมันรถไปทำงาน ซื้อต้นไม้มาปลูก
จุดเปลี่ยนของชีวิต เหลือเงิน 118 บาทต่อเดือน
จุดหักเหของชีวิตเกี่ยวกับเรื่องเงิน เกิดจากการมีข้อพิพาทกับมหาวิทยาลัยเรื่องการลาศึกษาต่อ เกี่ยวเนื่องกับการรับทุน ต้องไปจบที่ศาลปกครอง ใช้เวลา 5 ปีถึงสิ้นสุด แต่ก่อนที่จะจบก็ถูกมหาวิทยาลัยหักเงินเดือนที่เหลือไม่กี่พัน พร้อมให้เหตุผลว่า ตนใช้เวลาในการลาศึกษาเกินกำหนด ทั้งที่ความจริงยังไม่มีการอนุมัติและยังมาปฏิบัติงานสอนหนังสือปกติ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Thasnai Sethaseree
การแก้ปัญหาในช่วงนั้นคือ บัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดทุกใบที่มีอยู่ มียอดการใช้เต็มทุกใบ หมุนเอาบัตรใบนั้นมาจ่ายบัตรใบนี้วน ๆ ไป เวลาโทรศัพท์ดัง ก็กลัวว่าเป็นธนาคารมาทวงหนี้ เวลาแม่มาหาก็ซื้อเสบียงมาตุนไว้ให้ ไม่เคยบอกท่านว่าอยู่ด้วยเงินเพียงไม่กี่บาท
การใช้ชีวิตก็เปลี่ยนไป รถยนต์ไม่ขับเพราะไม่มีเงินเติมน้ำมัน ใช้มอเตอร์ไซค์เก่า ๆ แทน วันไหนน้ำมันหมดกลางทางไปไม่ถึงห้องเรียนก็มี เรื่องอาหารน้ำปลา ซอสต่าง ๆ ที่แม่ซื้อเอาไว้ให้กินกับข้าวต้มที่หุงจากข้าวเหนียวเพื่อให้ได้ปริมาณเยอะ ๆ พอที่จะแบ่งกับลูกหมา 2 ตัวที่พ่อส่งมาให้จากกรุงเทพฯ ลุงที่ทำแปลงผักเล็ก ๆ ก็แบ่งผักมาให้กินบ้างเป็นบางครั้ง บุหรี่ก็เก็บจิ้งหรีดสูบบ้าง ซื้อยาเส้นสูบบ้าง
บางครั้ง หน้ามืดจะเป็นลมเพราะไม่ได้กินข้าวบ่อย นักศึกษาเห็นสะอึกออกมาเป็นเลือดบนโต๊ะวิชาสัมมนาก็เคยมี ไม่สบายมาก แต่หยุดสอนหนังสือไม่ได้
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Thasnai Sethaseree
สาเหตุที่ตนเล่าคือประสบการณ์ของพนักงานรัฐคนหนึ่งที่ไม่มีมีสมบัติอะไร และตนเชื่อว่าข้าราชการและพนักงานของรัฐอีกหลายแสนคนก็ไม่ได้มีความสุขสบายมากกว่าผม สิ่งที่โชคดีในเวลานั้นคือ ตอนนั้นไม่มีใครคิดจ่ายเงินเดือนเป็น 2 รอบ มิเช่นนั้นผมคงต้องรับเงิน 59 บาททุก 2 สัปดาห์