หนุ่ม กรรชัย ถามชาดาตรง ๆ ใครคือมาเฟียที่อุทัยธานี ชาดาตอบกลับชัด ผมไง พร้อมกับย้ำ จะปราบผู้มีอิทธิพล ต้องจัดการบ้านตัวเองให้เรียบร้อยก่อน พร้อมตอบปมทำไมชอบขยับคอไป-มา
จากกรณีที่เกิดคดีฆาตกรรม พ.ต.ต. ศิวกร สายบัว หรือสารวัตรแบงค์ กลางงานเลี้ยงของกำนันนก ซึ่งหลายคนสงสัยว่า ทำไมถึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้ ทั้งที่ตรงนั้นมีตำรวจเพียบ หรือเป็นเพราะอิทธิพลของกำนันนกจึงเกิดเรื่องอุกอาจแบบนี้
ต่อมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รมต.มหาดไทย มอบหมายให้นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ขึ้นทะเบียนผู้มีอิทธิพล สืบเสาะประวัติ และดูพฤติกรรมต่าง ๆ ของคนกลุ่มนี้เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว
ล่าสุด วันที่ 14 กันยายน 2566 โหนกระแส มีการเชิญ นายชาดา มาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว โดยตอนต้นรายการ หนุ่ม กรรชัย ถามตรง ๆ ว่า หนักใจเรื่องนี้ไหม นายชาดา ตอบว่า ไม่กังวลใจ เพราะชาวบ้านวิจารณ์ถูกฝาถูกตัว อีกอย่างหนึ่งคือ ตนก็เคยขึ้นบัญชีผู้มีอิทธิพล แต่ตนก็ผ่านการพิสูจน์มาแล้วว่าไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย จนถึงวันนี้ตนก็ได้รับการยอมรับจากประชาชนให้เป็น สส. และได้เป็น รมช.มหาดไทย
"ก็อยากจะพูดตรง ๆ ผมก็เคยเป็นผู้มีอิทธิพล เคยกลิ้งมาแล้ว ผมก็ถูกรัฐตรวจสอบ ถูกตำรวจตรวจสอบ ไม่มีใครใหญ่กว่าประตูคุกประเทศนี้ เรื่องของอิทธิพลมีทั้งด้านดีและด้านไม่ดี ถ้าใช้อิทธิพลช่วยเหลือประชาชน อันนี้ยอมรับได้ เหมือนเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณของคนทั่วไป นำพาไปสู่สิ่งที่ดี แต่ถ้าอิทธิพลด้านร้าย ไม่มีใครยอมรับได้ โดยเฉพาะเหตุการณ์ท้าทายอำนาจรัฐ" นายชาดา กล่าว
นายชาดา กล่าวต่อไปว่า กรณีของกำนันนก ตนมองว่าเขาแค่อายุ 30 ปี ไม่ได้เป็นเจ้าพ่อใหญ่อะไร เป็นคนที่เอาอิทธิพลเงินมาสร้างอำนาจให้ตัวเอง แต่การทำความผิดถึงขั้นสั่งยิงตำรวจก็ยอมรับไม่ได้ ต้องจัดการ คนที่ทำความผิดแบบนี้อย่าคิดว่าติดคุกแล้วจะจบ ต้องถูกดำเนินการแบบถอนรากถอนโคน
เมื่อดูประวัติความเป็นมาของกำนันนก พ่อของเขาเป็นผู้ใหญ่บ้านชื่อดังมาก่อน แล้วกำนันนกก็เป็นคนมารับช่วงต่อทั้งตำแหน่ง ทั้งธุรกิจ เพิ่งเข้าสู่วงการนี้ได้ไม่นาน แต่กลับท้าทายอำนาจรัฐถึงขั้นยิงตำรวจ มันท้าทายมากเกินไป แบบนี้ประเทศไทยต้องมาจัดการไม่ให้ผู้มีอิทธิพลแบบนี้เกิดขึ้นมาได้อีก
ส่วนแผนการจัดการผู้มีอิทธิพล จะเริ่มที่กระทรวงมหาดไทยก่อน จัดการกับคนในกำกับดูแล คือ กำนัน, ผู้ใหญ่บ้าน, ผู้ว่าราชการจังหวัด เพราะเป็นข้าราชการและอยู่ภายใต้กระทรวงโดยตรง จากนั้นค่อยบูรณาการไปตามหน่วยงานต่าง ๆ
ถามตรง ๆ ใครคือผู้มีอิทธิพลที่อุทัยธานี
ในตอนหนึ่งของรายการ หนุ่ม กรรชัย ถามนายชาดาตรง ๆ ว่า "มีจังหวัดไหนที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ" นายชาดา ตอบว่า "ผมคงบอกอย่างนั้นไม่ได้ คุณหนุ่มกำลังจะถามว่า จ.อุทัยธานี คือใคร ใช่หรือเปล่า"
เจอนายชาดาชงแบบนี้ หนุ่ม กรรชัยเลยจัดให้ว่า "ที่ จ.อุทัยธานี มีไหมครับ" นายชาดา จึงตอบตรง ๆ ว่า "ผมไง" พูดจบหนุ่ม กรรชัยหัวเราะลั่น นายชาดาจึงกล่าวต่อไปว่า "แต่ผมถูกตรวจสอบแล้ว อย่างที่ผมบอก เคยเดือดร้อนมาแล้ว ถูกค้นบ้าน ถูกอะไร ทุกวันนี้ผมมาทำงานให้ประชาชน มันก็จบแล้ว ผมจะเริ่มที่ จ.อุทัยธานี ก่อน"
"จะปราบผู้มีอิทธิพลที่ จ.อุทัยธานีก่อน" หนุ่ม กรรชัย ถาม นายชาดาตอบว่า "ไม่ ยังไม่มีใครทำอะไรผิด ต้องเรียกมาคุยก่อน 70-80 คน ทำตัวให้สะอาด อยู่นิ่ง ๆ นะ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายก อบต. มันก็ลูกน้องผมทั้งนั้น ขอกวาดบ้านตัวเองก่อน วันนี้ถ้ามีปัญหาก็เจอกัน ผมจะออกไปนอกบ้าน ต้องดูในบ้านก่อน"
หนุ่ม กรรชัย ยังถามถึงสิ่งที่ชาวเน็ตสงสัยว่า "ทำไมนายชาดาชอบขยับคอไป-มาแปลก ๆ จนถูกตั้งคำถามว่า เป็นอาการดีดหรือเติมมาเต็มหรือไม่" ซึ่ง นายชาดา ก็ตอบว่า กระดูกคอของตนมีปัญหา มีหลักฐานยืนยัน มันเกิดจากอุบัติเหตุสมัยวัยรุ่น ยิ่งช่วงไปออกรายการทีวีที่เป็นประเด็น เป็นช่วงที่ตนเครียด นอนน้อย ต้องเตรียมตัวอภิปราย จึงมีอาการเจ็บป่วยกำเริบมา อีกไม่กี่วันข้างหน้าก็จะต้องนัดฉีดยาเข้าคอ เป็นแบบนี้มา 10 ปีแล้ว ถ้าพักผ่อนดี ๆ อาการก็ไม่กำเริบ ส่วนเรื่องที่คนตั้งคำถามเกี่ยวกับการใช้สารเสพติด ตนก็ท้ามาให้ตรวจฉี่ตรวจเลือดได้เลย
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก โหนกระแส
จากกรณีที่เกิดคดีฆาตกรรม พ.ต.ต. ศิวกร สายบัว หรือสารวัตรแบงค์ กลางงานเลี้ยงของกำนันนก ซึ่งหลายคนสงสัยว่า ทำไมถึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้ ทั้งที่ตรงนั้นมีตำรวจเพียบ หรือเป็นเพราะอิทธิพลของกำนันนกจึงเกิดเรื่องอุกอาจแบบนี้
ต่อมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รมต.มหาดไทย มอบหมายให้นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ขึ้นทะเบียนผู้มีอิทธิพล สืบเสาะประวัติ และดูพฤติกรรมต่าง ๆ ของคนกลุ่มนี้เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว
ล่าสุด วันที่ 14 กันยายน 2566 โหนกระแส มีการเชิญ นายชาดา มาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว โดยตอนต้นรายการ หนุ่ม กรรชัย ถามตรง ๆ ว่า หนักใจเรื่องนี้ไหม นายชาดา ตอบว่า ไม่กังวลใจ เพราะชาวบ้านวิจารณ์ถูกฝาถูกตัว อีกอย่างหนึ่งคือ ตนก็เคยขึ้นบัญชีผู้มีอิทธิพล แต่ตนก็ผ่านการพิสูจน์มาแล้วว่าไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย จนถึงวันนี้ตนก็ได้รับการยอมรับจากประชาชนให้เป็น สส. และได้เป็น รมช.มหาดไทย
"ก็อยากจะพูดตรง ๆ ผมก็เคยเป็นผู้มีอิทธิพล เคยกลิ้งมาแล้ว ผมก็ถูกรัฐตรวจสอบ ถูกตำรวจตรวจสอบ ไม่มีใครใหญ่กว่าประตูคุกประเทศนี้ เรื่องของอิทธิพลมีทั้งด้านดีและด้านไม่ดี ถ้าใช้อิทธิพลช่วยเหลือประชาชน อันนี้ยอมรับได้ เหมือนเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณของคนทั่วไป นำพาไปสู่สิ่งที่ดี แต่ถ้าอิทธิพลด้านร้าย ไม่มีใครยอมรับได้ โดยเฉพาะเหตุการณ์ท้าทายอำนาจรัฐ" นายชาดา กล่าว
นายชาดา กล่าวต่อไปว่า กรณีของกำนันนก ตนมองว่าเขาแค่อายุ 30 ปี ไม่ได้เป็นเจ้าพ่อใหญ่อะไร เป็นคนที่เอาอิทธิพลเงินมาสร้างอำนาจให้ตัวเอง แต่การทำความผิดถึงขั้นสั่งยิงตำรวจก็ยอมรับไม่ได้ ต้องจัดการ คนที่ทำความผิดแบบนี้อย่าคิดว่าติดคุกแล้วจะจบ ต้องถูกดำเนินการแบบถอนรากถอนโคน
เมื่อดูประวัติความเป็นมาของกำนันนก พ่อของเขาเป็นผู้ใหญ่บ้านชื่อดังมาก่อน แล้วกำนันนกก็เป็นคนมารับช่วงต่อทั้งตำแหน่ง ทั้งธุรกิจ เพิ่งเข้าสู่วงการนี้ได้ไม่นาน แต่กลับท้าทายอำนาจรัฐถึงขั้นยิงตำรวจ มันท้าทายมากเกินไป แบบนี้ประเทศไทยต้องมาจัดการไม่ให้ผู้มีอิทธิพลแบบนี้เกิดขึ้นมาได้อีก
ส่วนแผนการจัดการผู้มีอิทธิพล จะเริ่มที่กระทรวงมหาดไทยก่อน จัดการกับคนในกำกับดูแล คือ กำนัน, ผู้ใหญ่บ้าน, ผู้ว่าราชการจังหวัด เพราะเป็นข้าราชการและอยู่ภายใต้กระทรวงโดยตรง จากนั้นค่อยบูรณาการไปตามหน่วยงานต่าง ๆ
ถามตรง ๆ ใครคือผู้มีอิทธิพลที่อุทัยธานี
ในตอนหนึ่งของรายการ หนุ่ม กรรชัย ถามนายชาดาตรง ๆ ว่า "มีจังหวัดไหนที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ" นายชาดา ตอบว่า "ผมคงบอกอย่างนั้นไม่ได้ คุณหนุ่มกำลังจะถามว่า จ.อุทัยธานี คือใคร ใช่หรือเปล่า"
เจอนายชาดาชงแบบนี้ หนุ่ม กรรชัยเลยจัดให้ว่า "ที่ จ.อุทัยธานี มีไหมครับ" นายชาดา จึงตอบตรง ๆ ว่า "ผมไง" พูดจบหนุ่ม กรรชัยหัวเราะลั่น นายชาดาจึงกล่าวต่อไปว่า "แต่ผมถูกตรวจสอบแล้ว อย่างที่ผมบอก เคยเดือดร้อนมาแล้ว ถูกค้นบ้าน ถูกอะไร ทุกวันนี้ผมมาทำงานให้ประชาชน มันก็จบแล้ว ผมจะเริ่มที่ จ.อุทัยธานี ก่อน"
"จะปราบผู้มีอิทธิพลที่ จ.อุทัยธานีก่อน" หนุ่ม กรรชัย ถาม นายชาดาตอบว่า "ไม่ ยังไม่มีใครทำอะไรผิด ต้องเรียกมาคุยก่อน 70-80 คน ทำตัวให้สะอาด อยู่นิ่ง ๆ นะ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายก อบต. มันก็ลูกน้องผมทั้งนั้น ขอกวาดบ้านตัวเองก่อน วันนี้ถ้ามีปัญหาก็เจอกัน ผมจะออกไปนอกบ้าน ต้องดูในบ้านก่อน"
หนุ่ม กรรชัย ยังถามถึงสิ่งที่ชาวเน็ตสงสัยว่า "ทำไมนายชาดาชอบขยับคอไป-มาแปลก ๆ จนถูกตั้งคำถามว่า เป็นอาการดีดหรือเติมมาเต็มหรือไม่" ซึ่ง นายชาดา ก็ตอบว่า กระดูกคอของตนมีปัญหา มีหลักฐานยืนยัน มันเกิดจากอุบัติเหตุสมัยวัยรุ่น ยิ่งช่วงไปออกรายการทีวีที่เป็นประเด็น เป็นช่วงที่ตนเครียด นอนน้อย ต้องเตรียมตัวอภิปราย จึงมีอาการเจ็บป่วยกำเริบมา อีกไม่กี่วันข้างหน้าก็จะต้องนัดฉีดยาเข้าคอ เป็นแบบนี้มา 10 ปีแล้ว ถ้าพักผ่อนดี ๆ อาการก็ไม่กำเริบ ส่วนเรื่องที่คนตั้งคำถามเกี่ยวกับการใช้สารเสพติด ตนก็ท้ามาให้ตรวจฉี่ตรวจเลือดได้เลย
