จ่อแจ้งข้อหาตำรวจร่วมงานเลี้ยง กำนันนก เว้น 6 นาย มีหลักฐานช่วยเหลือคนเจ็บ เผยบางนายอาจโดนข้อหาให้การเท็จควบคู่กัน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว
จากกรณีปรากฏภาพวงจรปิด เห็นรถกระบะสีดำ 4 ประตู ขับออกจากที่เกิดเหตุ หลังเกิดเหตุยิงสารวัตรทางหลวงเสียชีวิต แล้วนำขบวนรถฟอร์จูนเนอร์สีขาว ของกำนันนก ขณะหลบหนี โดยตรวจสอบพบว่าคนขับรถดังกล่าวคือ รองสารวัตรจราจร สังกัดหนึ่งในจังหวัดนครปฐม ซึ่งทางตำรวจได้คุมตัวมาสอบปากคำแล้ว ได้ให้การอ้างว่าตนเองขับรถเพื่อจะกลับบ้านที่อยู่ใกล้กับบ้านกำนัน จึงใช้เส้นทางเดียวกันนั้น
ต่อมาวานนี้ (15 กันยายน 2566) มีรายงานว่าพนักงานสอบสวนได้เรียกรองสารวัตรจราจรคนดังกล่าวมาสอบปากคำอีกครั้ง ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 แต่ผู้สื่อข่าวไม่มีใครได้เจอตัว ร.ต.ท. มนัส จันทร์มีทรัพย์ รองสารวัตรจราจร ส่วนจะมีความผิดฐานร่วมกันพาหลบหนีหรือไม่ อยู่ระหว่างการสอบสวน
ส่วนข้อมูลจากชุดคลี่คลายคดี ยืนยันว่า รองสารวัตรดังกล่าว ถ้าหลักฐานสาวไปว่า เข้าข่ายความผิดอยู่ในที่เกิดเหตุแต่ไม่ให้การช่วยเหลือ ก็จะออกหมายจับ
ต่อมาทีมข่าวช่อง 3 ลงพื้นที่ของรองสารวัตรจราจร ที่ตำบลศรีมหาโพธิ์ อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม เจอกับลูกสาวคนโต เผยว่าปกติคุณพ่อจะอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้เป็นประจำ แต่บางวันที่เข้าเวรก็ไม่ได้กลับมา ส่วนบ้านที่ตำบลตาก้องเป็นบ้านเกิด
สำหรับกำนันนก คุณพ่อรู้จักมานานในฐานะเพื่อนบ้านและเพิ่งจะไปงานเลี้ยงได้ 2 ครั้ง โดยกำนันมาชวนว่าให้ไปกินข้าวกัน ซึ่งวันนั้นคุณพ่อขับรถกระบะไป เมื่อกลับมาถึงบ้านตอน 5 ทุ่ม ก็ไม่ได้เล่าอะไรให้ฟัง บอกแค่ว่ามีคนยิงกันในงาน หลังจากนั้นมาคุณพ่อก็มีอาการเครียด และในวันที่ 15 กันยายน คุณพ่อก็ไปให้ปากคำกับตำรวจที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 แล้ว
อย่างไรก็ตาม เมื่อลองวัดระยะทางจากสำนักงานกำนันนก มาถึงบ้านของรองสารวัตร พบว่ามีระยะทางราว 14 กิโลเมตร ใช้เวลาขับรถไม่น่าเกิน 20 นาที แต่เมื่อดูจากวงจรปิดพบว่าขับรถออกจากสำนักงานราว 3 ทุ่มครึ่ง แต่ถึงบ้านตอน 5 ทุ่ม จึงชวนให้เกิดคำถามว่า รองสารวัตรหายไปไหน ในช่วงเวลา 1 ชั่วโมงครึ่งนั้น
จับ เด้ง - ต๋อง 2 ลูกน้องกำนัน พกอาวุธ
ล่าสุด (16 กันยายน) มีรายงานความคืบหน้าทางคดี พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม ควบคุมตัว นายเด้ง และ นายต๋อง 2 ผู้ต้องหาคดีร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพกพาอาวุธปืนเข้าไปในที่สาธารณะ ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรม ในที่ทำการกำนันนก
ขณะที่ในเวลาประมาณ 09.20 น. เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ได้เข้ามาเก็บ DNA ลายนิ้วมือ และพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับ 2 ผู้ต้องหา พบว่าระหว่างทำการตรวจลายนิ้วมือนั้น ผู้สื่อข่าวสังเกตเห็นว่าสีหน้าของผู้ต้องหาทั้ง 2 คน มีแววตาเครียดและกังวล
นอกจากนี้ จากการสืบค้นประวัติยังพบว่านายเด้งเคยก่อเหตุยิงกันในผับแห่งหนึ่งที่จังหวัดนครปฐม เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2562 เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 ราย
ภาพจาก เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว
แจ้งข้อหาตำรวจร่วมงานเลี้ยงทั้งหมด ยกเว้น 6 นาย
ขณะที่ช่วงบ่ายวันนี้ (16 กันยายน) เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว รายงานว่าที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ชุดทำงานได้เรียก พ.ต.อ. กฤษฎาพร จงอักษร ผู้กำกับการ สน.พญาไท เข้ามาสอบสวนเพิ่มเติม โดย พ.ต.อ. กฤษฎาพร มีสีหน้าเคร่งเครียด ขณะกำลังพยายามอธิบายภาพเหตุการณ์ในกล้องวงจรปิด ให้พนักงานสอบสวนฟัง
นอกจากนี้ยังมีรายงานข่าว ระบุรายชื่อ 6 ตำรวจ ที่พบว่าเป็นผู้ช่วยเหลือนำตัว พ.ต.ต. ศิวกร สายบัว หรือ สารวัตรศิว และ พ.ต.ท. วศิน พันปี ส่งโรงพยาบาล ภายหลังตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดและหลักฐานอื่น ๆ ประกอบด้วย
1. พ.ต.ต. ณรงค์ พิทักษ์ฉนวน สารวัตรอำนวยการ กก.2 บก.ทล.
2. ด.ต. ชนาณัฐ วุฑฒยากร ผบ.หมู่ ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.
3. ด.ต. สราวุธ วุฑฒยากร ผบ.หมู่ ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. (คนขับรถของผู้กำกับเบิ้ม)
4. จ.ส.ต. ทศพล แซ่อึ้ง ผบ.หมู่ ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.
5. จ.ส.ต. เมทิศกร พันธ์สีจันทร์ ผบ.หมู่ ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.
6. พ.ต.ท. ภทร วรญาวิสุทธิ์ สว.สภ.สระยายโสม จว.สุพรรณบุรี
โดยรายงานข่าวระบุว่า ตำรวจทั้ง 6 นายนี้ จะไม่ถูกดำเนินคดี เพราะเป็นกลุ่มที่ให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ในที่เกิดเหตุ
ส่วน ร.ต.อ. จตุรวิทย์ รอง สวป.สภ.เมืองนครปฐม นั้น แม้จากวงจรปิดจะพบว่าให้การช่วยเหลือ พ.ต.ท. วศิน แต่ต่อมาพบว่าได้กลับไปช่วยเหลือพากำนันนกหลบหนีจากที่เกิดเหตุ โดยเป็นผู้ขับรถจักรยานยนต์นำหน้ารถกำนันนก และมาจอดปิดจุดกลับรถเพื่อเคลียร์ทาง อำนวยความสะดวกในการหลบหนี
ทั้งนี้ ชุดทำงานเตรียมแจ้งข้อกล่าวหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบกับตำรวจทั้งหมดที่เข้าไปร่วมงานในวันเกิดเหตุ ยกเว้นตำรวจ 6 นายดังกล่าว และไม่นับรวม พ.ต.ต. ศิวกร, ผู้กำกับเบิ้ม ที่เสียชีวิตไปแล้ว และ พ.ต.ท. วศิน ที่ได้รับบาดเจ็บ ขณะเดียวกันจะมีบางส่วนที่จะถูกดำเนินคดีฐานให้การเท็จควบคู่ไปด้วย โดยหากใครที่มีพฤติการณ์หลบหนี ก็จะมีการออกหมายจับต่อไป
ภาพจาก เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว
ภาพจาก เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว
ภาพจาก เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว
ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้, ข่าวช่อง 3, เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว