นายกฯ ตั้งสอบปมค้นบ้าน บิ๊กโจ๊ก เจ้าตัวยันไม่มีเอี่ยว - เปิดลิสต์ชัด ๆ ตร. ถูกหมายจับ

           ส่วนกรณีที่มีข้อมูลว่ามีผู้ใต้บังคับบัญชา 5 นายที่ถูกออกหมายจับ ยังไม่ทราบว่ามีความเกี่ยวข้องกับเว็บพนันอย่างไร และต้องให้ไปชี้แจงข้อเท็จจริงกับศาล แต่ส่วนตัวยังเชื่อว่าผู้ใต้บังคับบัญชาไม่ได้กระทำผิด เพราะทำงานร่วมกันมานาน

           ด้าน พล.ต.ท. วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. เปิดเผยภายหลังการเข้าร่วมตรวจค้นบ้านพักของ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ว่าเป็นการขยายผลจากการจับกุมเว็บไซต์พนันออนไลน์ โดยชุด PCT ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สาเหตุที่ต้องตรวจค้นบ้าน รอง ผบ.ตร. เพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับที่คาดว่าอาจจะพักอยู่บริเวณนี้ และเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ส่วนที่ตนต้องเดินทางมาด้วยตนเอง เพราะ รอง ผบ.ตร. ต้องการให้มีผู้บังคับบัญชาระดับสูงร่วมด้วย แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดในคดีมากนัก จากการตรวจค้นพบว่าบริเวณนี้เป็นกรรมสิทธิ์ของ รองผบ.ตร. ท่านนี้ทั้งหมด แต่ยังไม่พบหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด

           รายงานระบุว่า ปฏิบัติการดังกล่าวเป็นการขยายผลมาจากการจับกุม น.ส.มินนี่ เจ้าของเว็บพนัน ซึ่งจากการสืบสวนพบว่ามีความสนิทสนมกับตำรวจระดับสูงหลายนาย รวมทั้งเคยไปร่วมงานเลี้ยงด้วยกัน ตำรวจจึงออกหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง 23 หมายจับ แบ่งเป็นพลเรือน 18 ราย ตำรวจ 5 นาย  

           ต่อมาช่วงเวลา 10.30 น. ตำรวจสามารถจับผู้ต้องหาตามหมายจับได้แล้ว 14 ราย แบ่งเป็นตำรวจ 5 นาย คือ

           - พล.ต.ต. นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ ผู้บังคับการศูนย์ฝึกอบรมตำรวจ

           - พ.ต.อ. เขมรินทร์ พิศมัย ผู้กำกับ ตม.จันทบุรี

           - ตำรวจยศ พ.ต.ท. ยังไม่ทราบชื่อ

           - ตำรวจชั้นประทวน 2 นาย ยังไม่ทราบชื่อ

           ขณะที่ ข่าวช่อง 3 รายงานว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้รับรายงานกรณีนี้แล้ว และได้มีการพูดคุยกับ พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ซึ่งรายงานว่ากำลังสอบสวน ยังไม่มีการขยายผล

           เกี่ยวกับเรื่องนี้จะต้องมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน ซึ่งต้องมีผู้ที่ไม่ใช่ข้าราชการตำรวจร่วมด้วย เบื้องต้นยังไม่ได้มีการสั่งการอะไรเพิ่มเติม เนื่องจากยังไม่ได้รับทราบข้อมูลทั้งหมด แต่ได้คุยกับที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีแล้วว่าจะต้องตั้งคณะกรรมการ เพราะปัญหานี้เป็นเรื่องใหญ่มาก ผูกพันหลายเรื่องและกระทบต่อขวัญกำลังใจของประชาชน จะต้องขอดูข้อมูลอีกครั้งและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย  

           เมื่อถามว่าเรื่องนี้เป็นหนึ่งในนโยบายที่นายกรัฐมนตรีจะกวาดล้างผู้มีอิทธิพลหรือมาเฟียหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า การดำเนินการจะควบคู่กับกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ทำ แต่ย้ำว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่องวัน, ข่าวช่อง 3