เปิดประวัติ บิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล
หนึ่งในแคนดิเดตว่าที่ ผบ.ตร. ดาวเด่นวงการสีกากี
ก่อนเผชิญวิบากกรรมปมถูกค้นบ้าน เชื่อมโยงเครือข่ายเว็บพนัน
ชั่วโมงนี้เรียกว่าแทบไม่มีใครไม่รู้จัก บิ๊กโจ๊ก หรือ
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. หลังมีผลงานในการลงมาดูแลคดีสำคัญ ๆ
เป็นจำนวนมาก ไม่นานนี้ก็มีบทบาทสำคัญในการลุยคดี กำนันนก
ก่อนที่คดีจะถูกโอนไปให้กองปราบปรามดูแล ล่าสุด บิ๊กโจ๊ก ก็กลายเป็นข่าวใหญ่ เมื่อถูกตำรวจบุกค้นบ้าน
หลังถูกเชื่อมโยงว่ามีเส้นทางการเงินพัวพันกับเครือข่ายพนันออนไลน์
อ่านข่าว : ด่วน ! ตำรวจไซเบอร์นำคอมมานโด บุกค้นบ้าน บิ๊กโจ๊ก หลังพบเชื่อมโยงพนันออนไลน์
อ่านข่าว : รวบ พล.ต.ต. - พล.ต.อ. ชุดพนักงานสอบสวน รอง ผบ.ตร. เอี่ยวพนันออนไลน์
อ่านข่าว : ด่วน ! ตำรวจไซเบอร์นำคอมมานโด บุกค้นบ้าน บิ๊กโจ๊ก หลังพบเชื่อมโยงพนันออนไลน์
อ่านข่าว : รวบ พล.ต.ต. - พล.ต.อ. ชุดพนักงานสอบสวน รอง ผบ.ตร. เอี่ยวพนันออนไลน์
เส้นทางในวงการตำรวจของ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล

ภาพจาก ข่าวช่องวัน
บิ๊กโจ๊ก เริ่มรับราชการติดยศ ร.ต.ต. เป็นรองสารวัตร ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2537 เป็นรองสารวัตรได้ 6 ปี 1 เดือน จึงได้ขึ้นเป็นสารวัตร และเป็นสารวัตรได้ 4 ปี 8 เดือน ก่อนจะขยับเป็นรองผู้กำกับการ เป็นรองผู้กำกับการอยู่ 4 ปี จากนั้นขยับเป็นผู้กำกับการ ติดยศ พ.ต.อ. ได้เป็นผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งพื้นที่นี้ถูกมองว่าเป็น "โรงพักเกรดเอ" โดยขณะนั้น พล.ต.ท. จักรทิพย์ ชัยจินดา เป็นผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9
พ.ต.อ. สุรเชษฐ์ เป็นผู้กำกับการอยู่ได้ 4 ปี 1 เดือน จึงขยับเป็นรองผู้บังคับการ (รอง ผบก.) ได้เป็นรองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา และยังเป็นผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธร จ.สงขลา ส่วนหน้า ดูแลพื้นที่ อ.จะนะ นาทวี สะบ้าย้อย และเทพา จ.สงขลา 4 อำเภอพื้นที่สีแดงในพื้นที่ต่อเนื่องจังหวัดชายแดนใต้ การอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวทำให้ พ.ต.อ. สุรเชษฐ์ ได้รับสิทธิ์นับอายุราชการแบบทวีคูณ แม้อายุยังน้อยแต่อายุงานเพิ่มความอาวุโส ทำให้ก้าวขึ้นเป็น พล.ต.ต. ขณะอายุไม่ถึง 45 ปี
ต่อมาเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2558 บิ๊กโจ๊ก ได้เป็นผู้บังคับการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทำหน้าที่ประสานนายกรัฐมนตรี ในยุคของ พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เป็น ผบ.ตร. โดยทำหน้าที่นายตำรวจประสานงานใกล้ชิด บิ๊กป้อม พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ดูแลรับผิดชอบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จากนั้นขยับเป็นผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว ในปีเดียวกัน
จากนั้นปี 2559 บิ๊กโจ๊ก ขยับขึ้นเป็นผู้บังคับการตำรวจสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 และปี 2560 ซึ่งอาวุโสอยู่ในลำดับที่ 76 ได้รับการเสนอชื่อจาก พล.ต.อ. จักรทิพย์ ขึ้นเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และโยกมานั่งเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ก่อนขยับขึ้นมานั่งเก้าอี้ผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งเป็นผู้บัญชาการอายุน้อย ติดยศ พล.ต.ท. ด้วยวัยเพียง 48 ปี นับเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการสีกากี
จากดาวเด่น สู่ความเปลี่ยนแปลงกะทันหัน
บิ๊กโจ๊ก นับเป็นหนึ่งในตำรวจที่ได้รับความสนใจจากสังคม ส่วนหนึ่งมาจากที่ถูกมองว่าเป็นผู้ใกล้ชิด บิ๊กป้อม ซึ่งมีบทบาทหน้าที่ค่อนข้างโดดเด่น
อย่างไรก็ดี เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2562 บิ๊กโจ๊ก ได้รับคำสั่งให้ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทั่งวันที่ 9 เมษายน 2562 พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งให้ บิ๊กโจ๊ก ขาดจากตำแหน่งหน้าที่และอัตราเงินเดือนเดิมในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และให้โอนไปเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
กลับสู่เส้นทางตำรวจ สู่หนึ่งในตัวเต็งลุ้นตำแหน่ง ผบ.ตร.
เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2564 คณะกรรมการข้าราชการตำรวจมีมติเห็นชอบให้รับโอน บิ๊กโจ๊ก มาบรรจุเป็นข้าราชการตำรวจ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษา (สบ.9) เทียบเท่าผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก่อนที่วันที่ 10 กันยายน 2564 จะได้ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็น ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ชื่อของ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในแคนดิเดตลุ้นขึ้นเป็น ผบ.ตร. หลังจาก พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ จะเกษียณอายุราชการช่วงเดือนกันยายน 2566
หากดูตามชั้นลำดับอาวุโสในปี 2566 พบว่ามี 4 คน คือ พล.ต.อ. รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ซึ่งมีอาวุโสลำดับที่ 1 ส่วน บิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ มีอาวุโสอยู่ในลำดับ 2 ขณะที่ พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. มีอาวุโสอยู่ในลำดับที่ 3 และ พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. อาวุโสในลำดับ 4
อย่างไรก็ดี ต้องจับตาดูว่าจากการถูกตำรวจตรวจค้นบ้านและถูกโยงปมพนันออนไลน์ในครั้งนี้ (25 กันยายน) จะกระทบต่อเส้นทางในวงการตำรวจของ บิ๊กโจ๊ก ในอนาคตหรือไม่
ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์, ThaiPBS