ค้นบ้านบิ๊กโจ๊ก พบเจ้าของเฮียแต๋ม เสี่ยแห่งอีสาน ด้านบิ๊กโจ๊กลั่น สัมพันธ์เป็นอะไรกัน


           เปิดชื่อเจ้าของบ้านตัวจริง บิ๊กโจ๊ก พักอาศัยก่อนถูกตรวจค้น เป็นระดับเจ้าพ่อวงการก่อสร้างภาคอีสาน พบจ่ายค่าส่วนกลางให้ 5 หลัง ปีละหลักแสน


           ภายหลังจากชุดสืบสวน ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ PCT ชุดที่ 4 ของ พล.ต.ท. ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี หัวหน้าชุดปฏิบัติการ PCT 4 นำกำลังเข้าตรวจค้นภายในบ้านพักในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ภายในซอยวิภาวดี 60 ของ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยปฏิบัติการในวันดังกล่าว สามารถจับผู้ต้องหาตามหมายจับซึ่งเป็นนายตำรวจที่ใกล้ชิด พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ได้ 8 นาย รวมทั้งพลเรือนที่อยู่ในเครือข่ายเว็บไซต์พนันออนไลน์ได้แล้ว 9 คน

           เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 26 กันยายน 2566 ThaiPBS เปิดเผยข้อมูลจากแหล่งข่าว พบว่า บ้านทั้ง 5 หลังในหมู่บ้านดังกล่าว ชื่อผู้ครอบครองเป็นของ เฮียแต๋ม และภรรยา ซึ่งเป็นคนที่ทำธุรกิจอยู่ที่ จ.อุดรธานี ซื้อบ้านทั้ง 5 หลังนี้ไว้และให้กับ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ พักอาศัย โดยที่ไม่มีการเก็บค่าเช่า และไม่ได้เข้ามาดูแลบ้านทั้งหมดนี้มานานแล้ว

           เฮียแต๋ม และภรรยา เป็นเจ้าของบริษัทขนส่งรายใหญ่ใน จ.อุดรธานี พบว่ามีสาขาอยู่ในหลายจังหวัดใหญ่ ๆ ทั่วประเทศ และเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วง 7-8 ปี ที่ผ่านมา และมักจะต้อนรับคณะของนายตำรวจที่เดินทางไปราชการในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนืออย่างเต็มที่

บิ๊กโจ๊ก สุรเชษฐ์
ภาพจาก ThaiPBS

           สำหรับชื่อผู้ครอบครองบ้านทั้ง 5 หลัง พบว่าเป็นชื่อของ เฮียแต๋ม จำนวน 3 หลัง ในนั้นเป็นบ้านพักของ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ และที่อ้างว่าซื้อไว้ให้พ่ออยู่อีกหลัง และชื่อของภรรยาเฮียแต๋ม อีก 2 หลัง ที่ให้เป็นที่พักของนายตำรวจติดตาม ที่อยู่ห่างกันประมาณ 100 เมตร

           นอกจากนั้น ยังได้ข้อมูลการจ่ายเงินค่าส่วนกลางของหมู่บ้านของบ้านทั้ง 5 หลัง ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2566 ถึงเดือนมิถุนายน 2567 โดย เฮียแต๋ม เป็นคนโอนเงินเข้ามาจ่ายให้ โดยบ้านพักหลังที่ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ พักอาศัยอยู่จ่ายค่าส่วนกลางเป็นเงินรวม 62,000 บาท ส่วนหลังอื่นหลังละ 26,000 - 27,000 บาท รวมค่าส่วนกลางทั้ง 5 หลัง เป็นเงินกว่า 142,000 บาท ส่วนการขอใช้ไฟฟ้าของบ้านทั้ง 5 หลัง พบว่าเป็นชื่อของ เฮียแต๋ม เป็นผู้ขอใช้ไฟฟ้าทั้งหมด

           มีรายงานว่า ในเร็ว ๆ นี้ จะมีการออกหมายเรียกให้ เฮียแต๋ม และภรรยา มาให้ข้อมูลถึงการครอบครองบ้านทั้ง 5 หลัง นอกจากนี้ ชุดสืบสวนจะตรวจสอบที่มาของเงินที่นำมาซื้อบ้านทั้ง 5 หลังนี้ ว่าเป็นเงินที่ได้มาอย่างถูกกฎหมายหรือไม่ และเหตุใดถึงต้องซื้อแล้วให้บุคคลอื่นมาพักอาศัยอยู่ทั้ง 5 หลัง

บิ๊กโจ๊ก เผยสัมพันธ์ เฮียแต๋ม เป็นอะไรกัน - ยันเงิน 2.8 ล้าน คือเงินทั้งปี เรื่องพนันออนไลน์เป็นเรื่องของลูกน้อง


           ขณะเดียวกัน ชุดสืบสวนดังกล่าวเตรียมจะยื่นขอให้สำนักงาน ป.ป.ช. ตรวจสอบการยื่นบัญชีทรัพย์สินของ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ว่ามีการรับของเกิน 3,000 บาท จากบุคคลอื่นหรือไม่ ซึ่งหากจำเป็นต้องรับทรัพย์สินมูลค่าสูง ตามกฎหมายแล้วจะต้องแจ้งผู้บังคับบัญชาใน 30 วัน หากฝ่าฝืนจะมีโทษจำคุก 3 ปี ปรับ 60,000 บาท

           ในขณะเดียวกัน วันที่ 26 กันยายน 2566 พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้เดินทางมายื่นคำร้องเพื่อให้ศาลไต่สวนเรื่องการละเมิดอำนาจศาลด้วยการออกหมายค้นบ้าน ซึ่งคนที่บอกให้ไปค้นนั้น รู้อยู่แล้วว่าบิ๊กโจ๊กอยู่ในบ้านหลังนี้ แต่คนที่ไปขอหมายไม่ได้บอกศาล และแม้เจ้าของบ้านตัวจริงจะเป็นเฮียแต๋ม ไม่ใช่บิ๊กโจ๊ก แต่ก็เป็นญาติสนิทกัน เขาเป็นเจ้าของบ้านทั้งหมด เฮียแต๋มให้บิ๊กโจ๊กเช่าบ้านอยู่เดือนละ 50,000 บาท อาศัยอยู่ 2 หลัง อีกหลังหนึ่งเอาไว้เก็บของ และบิ๊กโจ๊กก็เคยให้การเรื่องนี้กับ ป.ป.ช. แล้ว

           โดยในหมายศาลนั้นระบุว่า มีการขอเข้าจับกุมสารวัตรนนท์ ซึ่งเป็นตำรวจติดตามของบิ๊กโจ๊ก และบอกว่าสารวัตรนนท์อาศัยในบ้านหลังดังกล่าว ตนยังไม่มีคดีความใด ๆ แต่กลับถูกหมายค้นบ้านและทำให้เสียชื่อเสียง และการออกหมายจับสารวัตรนนท์นั้น ไม่มีการระบุยศตำรวจ ใส่แค่นายเป็นคำนำหน้าทั้งหมด ตนมองว่านี่เป็นการปกปิดซ่อนเร้น ส่อพิรุธ

           ในเรื่องเส้นทางการเงิน บิ๊กโจ๊กบอกว่า ไม่มีเส้นทางการเงินมาที่ตน ทั้งหมดเป็นเรื่องของลูกน้อง ลูกน้องต้องตอบเองว่าเอาไปยุ่งเกี่ยวกับอะไร หรือไปใช้บัญชีม้า การที่เส้นทางการเงินของลูกน้องไปโยงกับมินนี่ เจ้าของเว็บพนันออนไลน์ชื่อดัง เป็นเรื่องของเขา ไม่ใช่ว่าพอเกิดเรื่องแล้วจะโยงมาที่ตน บางครั้งลูกน้องไปทำงานราชการลับ งบไม่พอ ตนก็ออกเงินส่วนตัวให้ และถ้าตนจะรับเงินจากเว็บพนันจริง คงไม่รับหรอกแค่ 2-3 ล้านบาท

           ในส่วนเงิน 2.8 ล้านบาท ที่คาดว่ามีการโอนให้ รพ. เพื่อรักษาแม่ของบิ๊กโจ๊กนั้น บิ๊กโจ๊กบอกว่า พ.ต.ท. คริษฐ์ ปริยะเกตุ รอง ผกก.สส.สภ.สำโรงเหนือ ทำงานกับตนมานานและเหมือนเป็นเลขาส่วนตัว ในแต่ละเดือนตนจะให้เงินนำไปใช้สำหรับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เงิน 2.8 ล้านบาท เป็นเงินทั้งปี แต่ พ.ต.ท. คริษฐ์ จะเอาเงินนี้ไปโยงกับมินนี่ได้อย่างไรตนไม่ทราบ หากตนรับเงินพนันออนไลน์ เงินต้องเข้าตรงเลย เรื่องเงินตนชี้แจงได้หมด แม่ของตนก็อายุมากแล้วไม่รู้เรื่องพนันออนไลน์แน่นอน

ขอบคุณข้อมูลจาก ThaiPBS


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ค้นบ้านบิ๊กโจ๊ก พบเจ้าของเฮียแต๋ม เสี่ยแห่งอีสาน ด้านบิ๊กโจ๊กลั่น สัมพันธ์เป็นอะไรกัน อัปเดตล่าสุด 26 กันยายน 2566 เวลา 19:16:07 41,129 อ่าน
TOP
x close