ช็อกเจอปูตัวละ 2.5 หมื่น ลูกค้าเฉไฉไม่จ่าย อ้างร้านไม่แจ้งราคา เจอวงจรปิดฟาดกลับ

 
              ช็อกเจอปูตัวละ 2.5 หมื่น ลูกค้าเฉไฉไม่จ่าย อ้างร้านไม่แจ้งราคา ขอให้โทร. เรียกตำรวจ สุดท้ายร้านเปิดวงจรปิดฟาดกลับ เห็นยังถ่ายเซลฟี่กะปูเล่น

ปูอลาสก้า

            วันที่ 21 กันยายน 2566 เว็บไซต์มาเธอร์ชิป รายงานว่า กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นซึ่งไปทานอาหารซีฟู้ดในร้านย่านคลาร์กคีย์ ของสิงคโปร์ มีอันต้องช็อกหนักหลังเห็นบิลค่าอาหารราคาสูงลิบ เฉพาะปูตัวเดียวก็แพงถึง 938 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 25,000 บาท) จึงปฏิเสธไม่ยอมจ่ายเงิน พร้อมขอให้ร้านโทร. ตามตำรวจ โดยให้เหตุผลว่าทางร้านไม่ได้แจ้งราคากับน้ำหนักของปูให้ทราบล่วงหน้า

            อย่างไรก็ตาม ต่อมาทางร้านได้ปล่อยภาพจากกล้องวงจรปิด เผยให้เห็นภาพที่ค่อนข้างขัดแย้งกับคำกล่าวอ้างของนักท่องเที่ยว จนกลายเป็นดราม่าว่าสุดท้าย ใครคือฝ่ายผิดกันแน่

ลูกค้าโวย ค่าอาหารแพง ไม่ยอมจ่าย-ขอให้เรียกตำรวจ


            รายงานเผยว่า กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น 5 คน เดินทางไปรับประทานอาหารที่ร้าน Seafood Paradise ในคืนวันที่ 19 กันยายน ที่ผ่านมา โดยมีการสั่งปูยักษ์อลาสก้าเป็น ๆ มาทำอาหารจานต่าง ๆ รวมถึงปูผัดพริก และยังมีอาหารจานอื่น ๆ ด้วย เช่น ผัดหมี่โกเร็ง และข้าวผัดเนื้อพริกไทยดำ

            แต่พวกเขาไม่คาดคิดว่าเมื่อถึงเวลาชำระเงิน บิลค่าอาหารจะออกมาแพงอื้อถึง 1,322.37 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 35,000 บาท) โดยแค่ราคาปูยักษ์อลาสก้าตัวเดียว ก็ปาเข้าไป 938 ดอลลาร์สิงคโปร์
 
            ด้าน จุนโกะ ชินบะ หญิงวัย 59 ปี หนึ่งในกลุ่มนักท่องเที่ยว เปิดใจกับสื่อว่า เธอถึงกับพูดไม่ออกเมื่อเห็นบิล ทางร้านไม่ได้แจ้งให้โต๊ะของเธอทราบ ว่าจะเตรียมอาหารจากปูทั้งตัวมาให้ และไม่แจ้งว่าปูตัวนี้น้ำหนักเท่าไหร่
 
            เธอยังอ้างด้วยว่าทางร้านไม่เคยแจ้งราคาปู แต่พนักงานแนะนำให้สั่งเมนูนี้ และบอกว่าปูราคาแค่ 30 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 800 บาท) แต่ไม่ได้ย้ำให้ชัดเจนว่าราคานี้ เป็นราคาต่อน้ำหนัก 100 กรัม ดังนั้น พวกเธอจึงขอให้ทางร้านโทร. ตามตำรวจมาเจรจา

            สุดท้ายทางผู้จัดการร้านยอมเสนอส่วนลดให้ 107.40 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 2,800 บาท) และเพื่อนของชิบะก็เป็นคนจ่ายค่าอาหาร อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นชินบะได้นำเรื่องไปแจ้งต่อคณะกรรมการท่องเที่ยวสิงคโปร์ และจะส่งเรื่องต่อไปยังสมาคมผู้บริโภคแห่งสิงคโปร์



ร้านเปิดภาพวงจรปิด ยันแจ้งราคา-ลูกค้าเห็นปูแล้ว


            อย่างไรก็ตาม ต่อมาวันที่ 20 กันยายน ทาง Paradise Group ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของร้าน Seafood Paradise ได้ออกมาชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผ่านทางเฟซบุ๊ก พร้อมโพสต์ภาพจากกล้องวงจรปิดที่ร้าน เพื่อชี้ให้เห็นข้อมูลที่ถูกต้องจากคำกล่าวอ้างของชินบะ
 
            โดย Paradise Group ระบุว่า ทางบริษัทเสียใจอย่างยิ่งต่อคำกล่าวอ้างที่ไม่ถูกต้องของนักท่องเที่ยว ที่มีจุดมุ่งหมายทำให้ร้านอาหารและพนักงานเสื่อมเสียชื่อเสีย ทางบริษัทจึงไม่มีทางเลือก นอกจากต้องนำภาพวงจรปิดมาเปิดเผยเพื่อยืนยันความถูกต้อง

            Paradise Group ชี้ว่า กลุ่มนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นได้รับแจ้งข้อมูลเรื่องราคาและน้ำหนักของปูอลาสก้ายักษ์แล้ว โดยพนักงานได้บอกย้ำพวกเขาถึง 2 รอบ ว่าราคาของปูยักษ์อลาสก้า เหมือนกับราคาปูหิมะสกอตแลนด์ ซึ่งในเมนูของร้านก็มีระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ปูหิมะสกอตแลนด์ ราคา 26.80 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 715 บาท) ต่อน้ำหนัก 100 กรัม  

ปูอลาสก้า

ในภาพวงจรปิด พบว่าพนักงานชายของทางร้าน ก็มีการชี้ให้ลูกค้าดูข้อมูลในเล่มเมนูอาหารด้วย


            ไม่เพียงแค่พนักงานจะแจ้งแล้วว่าปูอลาสก้ายักษ์มีน้ำหนัก 3.5 กิโลกรัม พนักงานยังนำปูเป็น ๆ มาโชว์ให้ลูกค้าดูด้วย ก่อนนำไปปรุงอาหาร ซึ่งทางลูกค้าก็ได้ถ่ายรูปและเซลฟี่คู่กับปูตัวนั้น

            ทางบริษัทยืนยันว่า พนักงานไม่ได้เป็นคนเริ่มแนะนำปูอลาสก้าให้ลูกค้า แต่ลูกค้าเป็นฝ่ายเลือกเอง หลังพนักงานแจ้งให้ทราบว่าในวันนั้น ทางร้านมีปูชนิดใดบ้าง ซึ่งทางนักท่องเที่ยวได้เรียกร้องให้ทางร้านนำปูไปปรุงอาหาร ผ่านวิธีการปรุง 2 แบบ สุดท้ายทางร้านจึงเตรียมอาหารเมนูปูให้ ผ่านวิธีปรุง 3 แบบ โดยไม่ได้บวกราคาเพิ่ม
 
            ก่อนหน้านี้ ชินบะ ยังอ้างกับสื่อว่า เธอไม่รู้เลยสักนิดว่าจะมีอาหารเมนูปูถึง 3 ชนิดมาเสิร์ฟ และไม่คาดคิดว่าทางร้านจะนำปูทั้งตัวมาปรุงอาหารให้ เพราะร้านอาหารอื่น ๆ ใช้เนื้อเพียงบางส่วนมาเสิร์ฟให้เท่านั้น ด้วยเหตุนี้โต๊ะของเธอจึงเต็มไปด้วยอาหารมากมาย ชนิดที่ไม่สามารถกินทุกอย่างได้หมด

            อย่างไรก็ตาม Paradise Group ชี้ว่า กลุ่มนักท่องเที่ยวกินอาหารกันเกือบหมด แถมยังชมผู้จัดการร้านว่าอาหารยอดเยี่ยมมาก ส่วนเรื่องปูนั้น ทางบริษ้ทขอย้ำว่าสัตว์ทะเลเป็น ๆ มักจะถูกขายและนำมาเสิร์ฟทั้งตัวอยู่แล้ว เนื่องจากการแบ่งมาเฉพาะส่วน จะทำให้ส่วนที่เหลือไม่สดอีกต่อไป

            แต่สถานการณ์ก็พลิกผันเมื่อถึงเวลาชำระบิล เมื่ออยู่ ๆ ลูกค้าก็ปฏิเสธการชำระ ทางร้านจึงต้องตามตำรวจมาเพื่อไกล่เกลี่ย ซึ่งต่างจากคำกล่าวอ้างของลูกค้าว่าเป็นฝ่ายขอให้โทร. เรียกตำรวจ ในตอนนั้นลูกค้าคนหนึ่งยังบอกด้วยว่ามีเงินไม่พอจ่าย และขอให้ทางร้านช่วย สุดท้ายทางร้านจึงต้องยอมให้ส่วนลดแก่ลูกค้า

ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่

ขอบคุณข้อมูลจาก Mothership



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ช็อกเจอปูตัวละ 2.5 หมื่น ลูกค้าเฉไฉไม่จ่าย อ้างร้านไม่แจ้งราคา เจอวงจรปิดฟาดกลับ อัปเดตล่าสุด 27 กันยายน 2566 เวลา 15:18:19 81,394 อ่าน
TOP
x close