โหนกระแส เปิดดราม่าร้อน ทนายวัด VS แม่ค้าแคบหมู ปมเช่าที่ช่วงต่อธรณีสงฆ์ แต่วัดไม่เคยได้เงิน แม่ค้าชี้ ไม่ได้ทำร้าย ทนายวัดลื่นล้มเอง กรรชัย เห็นคลิปแล้วลั่น นี่คือลื่นเหรอ ?
ภาพจาก โหนกระแส
วันที่ 29 กันยายน 2566 รายการโหนกระแส เปิดประเด็นร้อน กรณีข้อพิพาทระหว่างผู้เช่าที่วัด VS คุณน้อย ทนายความตัวแทนของวัด โดยปัญหาเริ่มจากทางผู้เช่าเปิดกิจการร้านแคบหมูได้เช่าช่วงต่อธรณีสงฆ์ แต่วัดไม่เคยได้เงิน ก่อนลุกลามมาถึงปัญหายิบย่อย อาทิ ทิ้งขยะลงคลองน้ำเน่า สุดท้ายร้องกันไป-มา จนเกิดการทะเลาะวิวาทตบตีกัน
ภาพจาก โหนกระแส
ย้อนปม ทนายความของวัด VS ทีมแม่ค้าแคบหมู
- คุณน้อย ทนายความที่ได้รับการมอบหมายจากทางวัดธรรมนิมิตต์ ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ย้อนความปมปัญหาให้ฟังว่า คนที่มาเช่าที่ดินสงฆ์ของวัด ชื่อคุณวิสิทธิ์ ทำสัญญาเช่าที่วัดตั้งแต่ปี 2551 อายุสัญญา 3 ปี ซึ่งในช่วง 3 ปีแรก เป็นช่วงของเจ้าอาวาสรูปก่อน ถามว่าจ่ายเงินไหมตนไม่รู้ แต่หลังจาก 3 ปีหมดไป ทางวัดไม่เคยได้รับเงินจากเขาเลยสักบาท เรื่อยมาจนถึงปัจจุบันร่วม 10 ปี
- ต่อมา คุณวิสิทธิ์ เอาที่ดินสงฆ์ที่อยู่ฟรี ไปปล่อยเช่าช่วงต่อ เอาไปแบ่งล็อก เก็บค่าเช่าจากคนอื่น โดยที่วัดไม่เคยได้รับเงินเลย
- ปรากฏว่าช่วงที่คุณน้อยไปแจ้งกับผู้เช่าต่าง ๆ ใครที่สนใจก็ให้มาติดต่อ แต่ดูเหมือนทำให้มีบางคนเสียผลประโยชน์ เขาก็เลยไม่พอใจคุณน้อย
- ต่อมาบ้านของคู่กรณี ซึ่งเปิดเป็นร้านทำแคบหมู ได้ทิ้งขยะลงในคูคลองหน้าบ้านจนน้ำเน่าเหม็น สกปรก อีกทั้งน้ำเน่ายังไหลไปท่วมบ้านของคุณน้อยจนได้รับความเดือดร้อน ทำให้คุณน้อยไปร้องกับทางเทศบาล ซึ่งทางเทศบาลได้ให้คุณน้อยไปถ่ายภาพหลักฐานมา ปรากฏว่าตอนไปถ่ายรูปกลับถูกคู่กรณีด่าทอและเอาน้ำสาดใส่
- ปัญหารุนแรงขึ้นตอนที่คุณน้อยไปร้องกับนักข่าว จนมีผู้สื่อข่าวท้องถิ่นลงพื้นที่มาเก็บภาพคูน้ำเน่า ซึ่งคุณน้อยเป็นคนเดินพาชี้จุดต่าง ๆ ปรากฏว่าบ้านของคู่กรณีออกมาเอาเรื่องและลงมือทำร้ายร่างกายจนคุณน้อยล้มลงไปนอนเจ็บที่พื้น โดยมีคลิปหลักฐาน
ร้านแคบหมู ยอมรับ ใช้ความรุนแรงจริง เพราะโกรธที่โดนร้องเรียน ทำให้วุ่นวาย
- ขณะที่ร้านแคบหมูคู่กรณี ยอมรับว่า ใช้ความรุนแรงจริง แต่ก็โกรธที่คุณน้อยไปร้องเรียนให้เรื่องวุ่นวาย จนมีคำสั่งห้ามพวกตนทำมาหากิน ทำแคบหมูไม่ได้ ขาดรายได้ รู้สึกเหมือนมีเจตนากลั่นแกล้ง เพื่อให้พวกตนยอมไปจ่ายค่าเช่าให้วัด ทั้งที่ผ่านมาพวกตนไม่ได้จ่ายเงิน และคุณวิสิทธิ์ไม่ได้เก็บเงินพวกตนมานานแล้ว
- เท่าที่ทราบมา ทางวัดทั่วไปก็จะช่วยเหลือคนจน ไม่เคยได้ยินวัดไหนมาเก็บค่าเช่ารายเดือน แล้วคนจนจะทำอย่างไร ความยุติธรรมของคนจนอยู่ตรงไหน ?
- นอกจากนี้ ผู้เช่าตัวแทนของคุณวิสิทธิ์ ยืนยันว่า มีความพยายามที่จะต่อสัญญากับทางวัด รวบรวมเงิน และเอกสารต่าง ๆ ขึ้นไปคุยกับเจ้าอาวาสแล้ว แต่ทางเจ้าอาวาสตอบกลับมาว่า "อยู่กันฟรี ๆ ไม่ชอบเหรอ ?" ทำให้การเช่าไม่ได้ต่อสัญญา
- ทนายแก้ว ให้ความรู้ในทางกฎหมายว่า เมื่อสัญญามันหมดอายุไป และไม่ได้มีการจ่ายค่าเช่า ถือว่าไม่มีสัญญาแล้ว ฝ่ายวัดจะพูดอะไรอย่างไร เป็นเรื่องของทางวัด แต่ทางผู้เช่าจะต้องดำเนินการให้ทำสัญญาถึงจะอยู่ได้
- สุดท้าย คุณน้อย ยืนยันว่า ทางแก้ในเรื่องนี้ ขอให้ผู้เช่าทุกคนมาทำสัญญาโดยตรงกับทางวัดเอง ไม่ต้องไปเช่าช่วงต่อจากคนอื่น แล้วทางวัดจะดำเนินการขอบ้านเลขที่ ขอสาธารณูปโภค น้ำไฟ ให้ตามขั้นตอน
- หลังจากการถกเถียงกันอยู่นานร่วมชั่วโมง สุดท้ายทนายแก้วได้ช่วยกันไกล่เกลี่ยจนทั้งสองฝ่ายยอมตกลงกันว่า ในส่วนคดีอาญาเรื่องการทำร้ายร่างกายก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย ส่วนเรื่องการจ่ายค่าเช่าพื้นที่วัด ทางผู้เช่าไปคุยกับวัดโดยตรง วัดจะจัดการดำเนินการขอบ้านเลขที่ ขอน้ำ ขอไฟให้หมด เพื่อให้ทุกฝ่ายเดินหน้าต่อไปได้
ภาพจาก โหนกระแส
คู่กรณีอ้าง ป้าน้อยลื่นล้มเอง ก่อนเจอคลิปหลักฐานชัด กรรชัย เห็นแล้วลั่นเลย
หนุ่ม กรรชัย เตือนสาวคู่กรณีของคุณน้อย การที่ไปใช้กำลังแบบนี้ ถ้าเกิดหัวกระแทกพื้นแล้วคุณน้อยตายขึ้นมา จะเป็นการฆ่าคนตาย ซึ่งทางฝ่ายสาวคู่กรณีก็อ้างว่า คุณน้อยลื่นล้มไปเอง
แต่เมื่อทีมงานขึ้นภาพคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวมาให้ดูแบบชัด ๆ กรรชัย ก็ท้วงถามกลับทันทีว่า "นี่คือลื่นเหรอ ? นี่มันไม่ได้ลื่นนะ คุณจับเขาเหวี่ยงลงไปนะ เนี่ยภาพมันฟ้องนะ คือคุณจะมาบอกว่าเขาลื่น มันไม่ใช่นะ คุณจับเขาเหวี่ยงลงไปกับพื้นนะเนี่ย" ก่อนจะถามสาวที่ทำว่า มีลูกไหม ถ้ามีลูกอันนี้แม่ติดคุกเลยนะ ซึ่งเธอก็บอกว่ามีลูกและเสียงอ่อนยอมรับผิด
โซเชียลงงใจ ทำร้ายร่างกายขนาดนี้ ทนายยังจะให้ยอมความ
ด้านฟากฝั่งของชาวเน็ต เมื่อได้ติดตามข่าวดังกล่าวก็รู้สึกไม่เห็นด้วยกับ ทนายแก้ว ที่จะให้คุณน้อยยอมความ เนื่องจากมีหลักฐานว่าคู่กรณีทำร้ายร่างกายแบบชัดเจน พร้อมตั้งคำถามว่า ทำไมคนที่โดนกระทำรุนแรงต้องมาประนีประนอมยอมความด้วย แม้ฝ่ายคู่กรณีจะมาอ้างเรื่องความจน ก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำร้ายร่างกายกันได้ มันคนละเรื่องกัน



ขอบคุณข้อมูลจาก โหนกระแส








