หนุ่มร้องเรียนพนักงานเช็กอินสายการบินชื่อดัง บริการย่ำแย่ต่อลูกค้าตาบอด ใส่เครื่องช่วยฟัง คาใจหรือเป็นเพราะแต่งตัวดูไม่ดี
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
วันที่ 1 ตุลาคม 2566 เฟซบุ๊ก โหนกระแส เปิดเผยเรื่องราวร้องเรียนจากชายคนหนึ่ง เล่าถึงประสบการณ์แย่ ๆ ที่พบเจอจากพนักงานเคาน์เตอร์เช็กอินของสายการบินหนึ่งในประเทศไทย ทั้งการใช้คำพูดและสีหน้าที่ดูถูกลูกค้าซึ่งเป็นผู้พิการตาบอด มองไม่เห็น และใส่เครื่องช่วยฟัง โดยมองว่าเป็นการบริการที่แย่มาก ๆ และดูถูกต่อคนพิการ
ชายคนดังกล่าว เล่าว่า เมื่อวันที่ 30 กันยายน ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 22.45 - 23.10 น. ตนไปส่งคุณลุงชาวสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นผู้พิการ ตาบอด มองไม่เห็น ต้องใช้เครื่องช่วยฟัง ที่สนามบินแห่งหนึ่ง พอเดินไปที่เคาน์เตอร์เพื่อเช็กอิน ก็เจอพนักงานหน้าตาเคร่งเครียด ไม่มีแม้แต่กิริยาที่จะต้อนรับ พวกตนยื่นพาสปอร์ตให้พนักงาน จากนั้นตนก็แจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับคุณลุง เพราะคุณลุงต้องเดินทางคนเดียว
ต่อมา พนักงานบอกว่าขอไม่คุยกับตน จะคุยกับคุณลุงเอง
ตนจึงแจ้งว่า "คุณลุงใช้เครื่องช่วยฟังต้องพูดเสียงดัง ๆ หน่อยนะครับ"
พนักงานยังพูดเสียงเบา ๆ ทำหน้าตาและน้ำเสียงไม่พอใจ
จากนั้นก็บอกให้ไปนั่งรอที่เก้าอี้
ตนจึงแจ้งพนักงานว่ายังไม่ได้พาสปอร์ตคืน
ก่อนจะมีพนักงานอีกคนเอามายื่นให้และพูดด้วยน้ำเสียงที่จับผิดว่า
"เขาไม่ได้อยู่ไทยเกินกำหนดใช่ไหม" ตนจึงบอกว่า เขายื่นวีซ่าอยู่อาศัย ไป ๆ
มา ๆ นานกว่า 30 ปีแล้ว ก่อนที่พนักงานคนดังกล่าวจะเดินไปโดยไม่พูดอะไร
จากเหตุการณ์นี้รู้สึกว่าเป็นการบริการที่แย่มาก ๆ ดูถูกต่อคนพิการ พนักงานควรให้ความช่วยเหลือ ไม่ใช่เหยียดหยาม มองตั้งแต่หัวจรดเท้าเช่นนี้ ตนเป็นผู้ป่วยซึมเศร้าอยู่ รับรู้และรู้สึกกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ไหว มันเจ็บและเสียใจกระทบจิตใจ ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับสายการบินระดับนี้
ส่วนที่นำเรื่องนี้ออกมาเปิดเผยและร้องเรียนไปยังต้นสังกัดของพนักงานสายการบิน ไม่ได้ต้องการคำขอโทษ แต่อยากให้สายการบินดังกล่าวมีการปรับปรุงการบริการในการดูแลลูกค้า เพราะตนและคุณลุงใช้บริการของสายการบินนี้เป็นประจำ จึงเกิดข้อสงสัยว่า เป็นเพราะตนแต่งตัวไม่ดีหรือไม่ จึงทำให้ไม่ได้รับการบริการที่ดี
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก โหนกระแส
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ชายคนดังกล่าว เล่าว่า เมื่อวันที่ 30 กันยายน ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 22.45 - 23.10 น. ตนไปส่งคุณลุงชาวสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นผู้พิการ ตาบอด มองไม่เห็น ต้องใช้เครื่องช่วยฟัง ที่สนามบินแห่งหนึ่ง พอเดินไปที่เคาน์เตอร์เพื่อเช็กอิน ก็เจอพนักงานหน้าตาเคร่งเครียด ไม่มีแม้แต่กิริยาที่จะต้อนรับ พวกตนยื่นพาสปอร์ตให้พนักงาน จากนั้นตนก็แจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับคุณลุง เพราะคุณลุงต้องเดินทางคนเดียว
จากเหตุการณ์นี้รู้สึกว่าเป็นการบริการที่แย่มาก ๆ ดูถูกต่อคนพิการ พนักงานควรให้ความช่วยเหลือ ไม่ใช่เหยียดหยาม มองตั้งแต่หัวจรดเท้าเช่นนี้ ตนเป็นผู้ป่วยซึมเศร้าอยู่ รับรู้และรู้สึกกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ไหว มันเจ็บและเสียใจกระทบจิตใจ ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับสายการบินระดับนี้
ส่วนที่นำเรื่องนี้ออกมาเปิดเผยและร้องเรียนไปยังต้นสังกัดของพนักงานสายการบิน ไม่ได้ต้องการคำขอโทษ แต่อยากให้สายการบินดังกล่าวมีการปรับปรุงการบริการในการดูแลลูกค้า เพราะตนและคุณลุงใช้บริการของสายการบินนี้เป็นประจำ จึงเกิดข้อสงสัยว่า เป็นเพราะตนแต่งตัวไม่ดีหรือไม่ จึงทำให้ไม่ได้รับการบริการที่ดี
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก โหนกระแส