หญิงวัย 40 ไม่ดื่มเหล้า-สูบบุหรี่ ป่วยมะเร็งลำไส้ ระยะที่ 4 พบมีพฤติกรรมเสี่ยงในเครื่องดื่ม

 
              หญิงวัย 40 ไม่ดื่มเหล้า-สูบบุหรี่ ดูแลอาหารการกินดี ก่อนพบป่วยมะเร็งลำไส้ระยะที่ 4 หมอซักไซ้จนพบ ชี้พฤติกรรมที่สุ่มเสี่ยงคือเรื่องเครื่องดื่ม 


              โดยผู้ป่วยรายนี้มาพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาด้วยโภชนาการบำบัด ต้องการปรับเรื่องโภชนาการ แต่ไม่คาดคิดว่าจะได้รับการตรวจพบว่าเป็นโรคมะเร็งลำไส้ระยะที่ 4 จึงได้เข้าสู่กระบวนการรักษา แต่ระหว่างนั้นทางผู้ป่วยยังตั้งคำถามกับตัวเองตลอดเวลาว่าเธอทำอะไรผิดไป เพราะเธอดูแลอาหารการกินเป็นอย่างดี ไม่กินเนื้อแดงหรือผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์แปรรูป ไม่มีนิสัยที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างการกินเหล้าหรือสูบบุหรี่ด้วย


              แต่หลังจากการปรึกษาแพทย์ ในที่สุด ดร.เฉินซินเหม่ย ก็พบว่ายังมีนิสัยบางอย่างของผู้ป่วยที่ไม่ดีต่อสุขภาพเล็กน้อย นั่นก็คือผู้ป่วยรายนี้จะต้องดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล 1-2 แก้วในทุก ๆ วัน

              ดร.เฉินซินเหม่ย อธิบายเพิ่มเติมว่า ภาวะเมตาบอลิกซินโดรม (Metabolic Syndrome) ซึ่งเป็นกลุ่มอาการที่เพิ่มความเสี่ยงต่อหลายโรค มีสาเหตุหลายประการรวมถึงการกินเนื้อสัตว์ในปริมาณมาก และบริโภคน้ำตาลสูง ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างน้ำตาลกับโรคมะเร็งก็เป็นที่พูดถึงกันมาหลายปีแล้ว
              โดยเมื่อบริโภคน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ปริมาณมาก ก็ง่ายที่จะทำให้ปริมาณน้ำตาลในเลือดเพิ่มมากเกินไป และเกิดภาวะดื้ออินซูลินขึ้นได้ ซึ่งภาวะดื้นอินซูลินนี้ก็มีความเกี่ยวข้องกับโรคมะเร็ง นอกจากนี้การบริโภคผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำตาลสูงในระยะยาว ยังอาจทำให้เกิดการสะสมของไขมัน ที่เมื่อไขมันสะสมมากก็อาจทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรังในร่างกาย ซึ่งเชื่อมโยงกับโรคมะเร็งเช่นกัน
 
              ทั้งนี้ ดร.เฉินซินเหม่ย แนะนำให้ผู้ป่วยลดการบริโภคน้ำตาล โดยอาจเริ่มต้นจากการลดระดับความหวานที่คุ้นเคยสัก 20% ไปจนไม่กินหวาน ซึ่งหากเอาชนะปัญหานี้ได้ยังจะช่วยลดความเสี่ยงจากโรคอื่น ๆ ด้วย
 

ขอบคุณข้อมูลจาก ETtoday