เด็กหญิงมัธยม เข้าร้านทำผมคนเดียว ใช้บริการย้อมผม คิดราคามาหมื่นกว่า กลัวจนไม่กล้าบอกแม่ จนได้เห็นสภาพผม
วันที่ 3 ตุลาคม 2566 เว็บไซต์ ETtoday เผยเรื่องราวที่ถูกแชร์เป็นประเด็นถกเถียงดุเดือดบนโซเชียลมีเดียของไต้หวัน ผ่านหลังจากมีเด็กหญิงวัยเรียนชั้นมัธยมต้นรายหนึ่ง ได้เข้าไปใช้บริการที่ร้านเสริมสวยตามลำพัง แต่ราคาที่ทางร้านคิดทำเอาเธอกลัวจนไม่กล้าบอกแม่ เพราะถูกทางร้านคิดราคามากกว่าหมื่น ทว่าสุดท้ายเมื่อแม่ของเธอเห็นสภาพผมก็ไม่สามารถปิดบังได้ และมันทำให้แม่โกรธทางร้านมาก
คุณแม่ของเด็กหญิงรายนี้ได้โพสต์ภาพและเรื่องราวผ่านทางเฟซบุ๊ก 爆怨公社 ชุมชนออนไลน์ในไต้หวัน เผยว่า วันหยุดในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ลูกสาวไปเยี่ยมญาติที่เมืองหูเหว่ย ในเขตหยุนหลิน ก่อนจะกลับทางญาติได้พาไปที่ร้านทำผมแห่งหนึ่ง และปล่อยเด็กไว้ที่นั่นคนเดียว ก่อนจะแวะไปทำธุระต่อโดยที่ไม่ได้คิดอะไร จนกระทั่งเด็กหญิงทำผมเสร็จ ทางญาติจึงไปรับกลับมาที่บ้าน
ในตอนแรกลูกสาวของเธอไม่ยอมพูดอะไรเกี่ยวกับผมสีใหม่ เพราะกลัวว่าแม่จะรู้รายละเอียด จนกระทั่งแม่สังเกตเห็นสีผมของลูกสาวดูแปลก ๆ และเมื่อแหวกดูข้างในก็เห็นว่าสีผมด่างไม่สม่ำเสมอ จึงสอบถามราคาจากลูกสาว ทำให้ลูกสาวต้องจำใจบอกว่า ค่าย้อมผมประมาณ 5,000 ดอลลาร์ไต้หวัน ค่าฟอกสีผมอีกประมาณ 4,000 ดอลลาร์ไต้หวัน และค่าตัดผมอีกประมาณ 600 ดอลลาร์ไต้หวัน รวมจ่ายไปทั้งหมด 9,800 ดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 11,200 บาท)
ภายหลังจากที่ได้ทราบความจริงจากลูกสาว คุณแม่ก็เกิดอาการหัวเสียไม่พอใจทางร้านเป็นอย่างมาก ทั้งในเรื่องของผลงานที่ออกมาค่อนข้างแย่ สวนทางกับราคา รวมถึงการที่ทางร้านคิดราคาค่าทำผมนักเรียนชั้นมัธยมต้นถึงขนาดนี้ "ขออภัยที่เขียนไม่ดี แต่จิตสำนึกของคุณคืออะไร คิดราคานักเรียนมัธยมเป็นหมื่น มันไม่เกินไปหน่อยเหรอ แล้วสภาพที่ออกมา คุณให้เด็กฝึกงานทำเหรอ หรือคุณเห็นว่าเด็กไม่รู้เรื่อง"
ภายหลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกมา ก็กลายเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจจากผู้ใช้โซเชียล พากันเข้าไปคอมเมนต์หลากหลาย โดยหลายคนมองว่าราคาดังกล่าวนั้นแพงเกินไปสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมต้น แต่ในขณะเดียวก็รู้สึกแปลกใจที่เด็กหญิงมีเงินจ่ายขนาดนั้น โดยชาวเน็ตรายหนึ่งชี้ว่า พื้นที่ดังกล่าวค่อนข้างเป็นชนบท ไม่เข้าใจว่าทำไมราคาถึงสูงลิบเช่นนั้น แพงกว่าร้านในเมืองใหญ่อย่างกรุงไทเปบางร้านเสียอีก
ทั้งนี้ บางส่วนก็แนะนะว่านี่น่าจะเป็นบทเรียนสำหรับผู้ปกครอง ไม่ควรปล่อยให้ลูกหลานเข้าร้านเสริมสวยเพียงลำพัง เพราะเป็นไปได้มากที่พวกเธอจะอาย ไม่กล้าสอบถามราคาก่อน และเมื่อรู้ราคาในภายหลังก็ไม่กล้าต่อรอง หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ได้แต่ทำตามอย่างปฏิเสธไม่ได้ กลายเป็นถูกเอาเปรียบในที่สุด
วันที่ 3 ตุลาคม 2566 เว็บไซต์ ETtoday เผยเรื่องราวที่ถูกแชร์เป็นประเด็นถกเถียงดุเดือดบนโซเชียลมีเดียของไต้หวัน ผ่านหลังจากมีเด็กหญิงวัยเรียนชั้นมัธยมต้นรายหนึ่ง ได้เข้าไปใช้บริการที่ร้านเสริมสวยตามลำพัง แต่ราคาที่ทางร้านคิดทำเอาเธอกลัวจนไม่กล้าบอกแม่ เพราะถูกทางร้านคิดราคามากกว่าหมื่น ทว่าสุดท้ายเมื่อแม่ของเธอเห็นสภาพผมก็ไม่สามารถปิดบังได้ และมันทำให้แม่โกรธทางร้านมาก
คุณแม่ของเด็กหญิงรายนี้ได้โพสต์ภาพและเรื่องราวผ่านทางเฟซบุ๊ก 爆怨公社 ชุมชนออนไลน์ในไต้หวัน เผยว่า วันหยุดในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ลูกสาวไปเยี่ยมญาติที่เมืองหูเหว่ย ในเขตหยุนหลิน ก่อนจะกลับทางญาติได้พาไปที่ร้านทำผมแห่งหนึ่ง และปล่อยเด็กไว้ที่นั่นคนเดียว ก่อนจะแวะไปทำธุระต่อโดยที่ไม่ได้คิดอะไร จนกระทั่งเด็กหญิงทำผมเสร็จ ทางญาติจึงไปรับกลับมาที่บ้าน
ในตอนแรกลูกสาวของเธอไม่ยอมพูดอะไรเกี่ยวกับผมสีใหม่ เพราะกลัวว่าแม่จะรู้รายละเอียด จนกระทั่งแม่สังเกตเห็นสีผมของลูกสาวดูแปลก ๆ และเมื่อแหวกดูข้างในก็เห็นว่าสีผมด่างไม่สม่ำเสมอ จึงสอบถามราคาจากลูกสาว ทำให้ลูกสาวต้องจำใจบอกว่า ค่าย้อมผมประมาณ 5,000 ดอลลาร์ไต้หวัน ค่าฟอกสีผมอีกประมาณ 4,000 ดอลลาร์ไต้หวัน และค่าตัดผมอีกประมาณ 600 ดอลลาร์ไต้หวัน รวมจ่ายไปทั้งหมด 9,800 ดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 11,200 บาท)
ภายหลังจากที่ได้ทราบความจริงจากลูกสาว คุณแม่ก็เกิดอาการหัวเสียไม่พอใจทางร้านเป็นอย่างมาก ทั้งในเรื่องของผลงานที่ออกมาค่อนข้างแย่ สวนทางกับราคา รวมถึงการที่ทางร้านคิดราคาค่าทำผมนักเรียนชั้นมัธยมต้นถึงขนาดนี้ "ขออภัยที่เขียนไม่ดี แต่จิตสำนึกของคุณคืออะไร คิดราคานักเรียนมัธยมเป็นหมื่น มันไม่เกินไปหน่อยเหรอ แล้วสภาพที่ออกมา คุณให้เด็กฝึกงานทำเหรอ หรือคุณเห็นว่าเด็กไม่รู้เรื่อง"
ภายหลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกมา ก็กลายเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจจากผู้ใช้โซเชียล พากันเข้าไปคอมเมนต์หลากหลาย โดยหลายคนมองว่าราคาดังกล่าวนั้นแพงเกินไปสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมต้น แต่ในขณะเดียวก็รู้สึกแปลกใจที่เด็กหญิงมีเงินจ่ายขนาดนั้น โดยชาวเน็ตรายหนึ่งชี้ว่า พื้นที่ดังกล่าวค่อนข้างเป็นชนบท ไม่เข้าใจว่าทำไมราคาถึงสูงลิบเช่นนั้น แพงกว่าร้านในเมืองใหญ่อย่างกรุงไทเปบางร้านเสียอีก
ทั้งนี้ บางส่วนก็แนะนะว่านี่น่าจะเป็นบทเรียนสำหรับผู้ปกครอง ไม่ควรปล่อยให้ลูกหลานเข้าร้านเสริมสวยเพียงลำพัง เพราะเป็นไปได้มากที่พวกเธอจะอาย ไม่กล้าสอบถามราคาก่อน และเมื่อรู้ราคาในภายหลังก็ไม่กล้าต่อรอง หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ได้แต่ทำตามอย่างปฏิเสธไม่ได้ กลายเป็นถูกเอาเปรียบในที่สุด
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก ETtoday
