คนกราดยิงพารากอน โดนแม่กดดัน ผลการเรียนไม่ดี ระบายด้วยการยิงปืน แชตบอกเพื่อนจะยิงแล้ว !

           จากกรณีที่เด็กชายวัย 14 ปี ก่อเหตุสะเทือนขวัญด้วยการไปกราดยิงที่ห้างสยามพารากอน เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2566 จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน บาดเจ็บ 5 คน พร้อมกับที่มีบทสัมภาษณ์ของคุณแม่ในอดีตของเด็กคนนี้ออกมา และพบว่า คุณแม่ได้พยายามให้ลูกเรียนหนักตั้งแต่เด็ก เพื่อสอบเข้าโรงเรียนชื่อดัง

           อ่านเพิ่มเติม ย้อนสัมภาษณ์คุณแม่ เด็ก 14 ก่อเหตุยิงในพารากอน ให้ลูกเรียนหนักตั้งแต่อนุบาล ติวเข้า รร. ดัง
           ด้าน ข่าวช่องวัน รายงานว่า จากข้อมูลของชุดสืบสวนพบว่า ผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นเด็กอายุ 14 ปีคนนี้ มีผลการเรียนที่ไม่ดีมาก และทางโรงเรียนก็จะรายงานผลการเรียนให้ครอบครัวทราบตลอด และในมือถือก็มีข้อความที่แชตคุยกับแม่ ซึ่งเป็นข้อความหลังจากที่แม่ได้รับทราบว่าผู้ก่อเหตุมีผลการเรียนตก คะแนนวิชาคณิตศาสตร์ไม่ถึงเป้า แม่จึงกำชับให้ลูกอ่านหนังสือและปรับปรุงตัว แต่ลูกกลับตอบแม่ด้วยการส่งภาพสนามยิงปืนไปให้ และตอบว่า "ผมจะไปที่นี่" และทุกครั้งที่แม่บอกว่าผลการเรียนแย่ ลูกก็จะส่งคลิปยิงปืนไปให้ดูประจำ แต่ผู้ปกครองก็ไม่ตอบกลับอะไร วันต่อมาก็พูดเรื่องผลการเรียนอีก และที่ผ่านมาผู้ปกครองรู้ดีว่าลูกไปสนามยิงปืนกับเพื่อน

           นอกจากนี้ ยังพบแชตของผู้ก่อเหตุที่ไปยิงปืนด้วยกันว่า ให้ไปเจอกันที่ห้าง และเมื่อถึงห้างสยามพารากอน ผู้ก่อเหตุก็วิดีโอคอลหาเพื่อนคนเดิมและบอกว่า "จะยิงปืนแล้ว" เพื่อนก็บอกให้ใจเย็นและผู้ก่อเหตุก็กดตัดสายไป จนเกิดเหตุการณ์กราดยิงขึ้น

           ที่ผ่านมา ผู้ปกครองทราบดีว่าลูกชอบยิงปืน และไปสนามยิงปืนบ่อย ๆ และคาดว่าการที่ผู้ปกครองกดดันเรื่องผลการเรียน ก็เลยทำให้ผู้ก่อเหตุไประบายอารมณ์ด้วยการไปยิงปืนที่สนาม

โรงเรียนยอมรับ เป็นนักเรียนของโรงเรียนจริง วอนขอความเป็นส่วนตัวให้ครอบครัวผู้ก่อเหตุ

           ทั้งนี้ สปริงนิวส์ รายงานว่า นายวิวัฒน์ คติธรรมนิตย์ ผู้อำนวยการจากโรงเรียนดิเอสเซนส์ ได้ส่งจดหมายจากโรงเรียนเพื่อแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ พร้อมกับยอมรับว่า ผู้ก่อเหตุวัย 14 ปีนั้น เป็นนักเรียนของโรงเรียนจริง

           ทางโรงเรียนตระหนักดีว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และทางโรงเรียนจะให้ความร่วมมือกับพนักงานสอบสวนอย่างเต็มที่ หากเป็นประโยชน์ต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ และใคร่ขอความเห็นอกเห็นใจทุกท่าน ให้ความเคารพต่อความเป็นส่วนตัวของครอบครัวผู้ก่อเหตุที่เป็นเด็กและเยาวชน หากผู้ปกครองและนักเรียนไม่สบายใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องการพบเพื่อพูดคุย ตนก็พร้อมที่จะพบทุกท่านและโปรดนัดหมายกับทีมแคร์ของโรงเรียน