แม่ของหญิงชาวเมียนมา เหยื่อกราดยิงพารากอน ช็อกหมดสติหลังทราบข่าว เพื่อนหวังหน่วยงานช่วยพามางานศพลูกสาวครั้งสุดท้าย
จากกรณีเด็กชายอายุ 14 ปี ก่อเหตุยิงในห้างพารากอน จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2566 ส่งผลให้ผู้เสียชีวิต 2 ราย หนึ่งในนั้นคือ น.ส.Moe Myjnt หรือ ตะวัน หญิงชาวเมียนมาที่มาทำงานในไทย
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 5 ตุลาคม 2566 ข่าวช่อง 3 รายงานว่า หลังเกิดเหตุนายจ้างและญาติผู้ตาย เดินทางไปรับศพเพื่อนำมาประกอบพิธีทางศาสนา ที่วัดผาสุกมณีจักร อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยมีกำหนดการสวดพระอภิธรรมเป็นเวลา 5 คืน ตั้งแต่วันที่ 4-8 ตุลาคม และฌาปนกิจ ในวันที่ 9 ตุลาคม 2566 เวลา 17.00 น.
บรรยากาศที่งานศพ เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม มีเพื่อนร่วมงานในบริษัทที่ น.ส.ตะวัน ทำงานอยู่เดินทางมาร่วมฟังพระสวดพระอภิธรรมเป็นจำนวนมาก ในงานเต็มไปด้วยความเศร้าโศก ซึ่งเพื่อนร่วมงานบางคนถึงกับหลั่งน้ำตา แสดงความเสียใจกันออกมาที่บริเวณจุดตั้งรูปถ่ายหน้าโลงศพ โดยหลายคนยังทำใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้
นางดา เจ้าของบริษัท เปิดเผยสั้น ๆ ว่า หลังจบเรื่องงานศพของ น.ส.ตะวัน แล้ว จะมอบหมายให้ทางทนายความของบริษัทดำเนินการฟ้องร้อง ติดตามค่าชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทางครอบครัวผู้ก่อเหตุต่อไป แต่ในส่วนของตน ขอยืนยันว่าจะจ่ายเงินเดือนละ 1 หมื่นบาทให้กับทางครอบครัวของ น.ส.ตะวัน ตลอดไป เนื่องจากเห็นใจทางครอบครัว โดย น.ส.ตะวัน ซึ่งเป็นลูกสาวคนเดียวที่เข้ามาทำงานเพื่อส่งเงินกลับไปให้แม่ที่กำลังป่วยเป็นโรครุมเร้าหลายโรคเพียงลำพัง ตนเห็นใจที่ทางครอบครัวที่ต้องมาสูญเสียเสาหลักอย่าง น.ส.ตะวัน ไป
ด้าน น.ส.ใหม่ เพื่อนสนิทผู้ตาย กล่าวว่า วันนี้เพื่อนร่วมงานทุกคนยังรู้สึกเศร้า เพราะมันกะทันหันเกินไป ไม่มีใครตั้งตัวทัน ตนยังไม่เห็นครอบครัวของคนก่อเหตุ เดินทางมาร่วมงานศพหรือขอโทษ แสดงความเสียใจอะไรออกมา ตนอยากให้ทางผู้ปกครองของเด็กรายนี้มาขอขมาศพหรือแสดงความเสียใจบ้างก็ยังดี
ตอนนี้แม่ของ ตะวัน ทราบเรื่องลูกสาวถูกยิงเสียชีวิตแล้วก็ช็อกเป็นลมหมดสติไป ทางแม่ตะวันเองแม้เจ็บป่วยอยู่ก็อยากเดินทางมาร่วมงานศพลูกเป็นครั้งสุดท้าย อย่างน้อยมาทันวันเผาศพลูก เพื่อมาดูหน้าลูกเป็นครั้งสุดท้ายก็ยังดี ตนอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือทางสถานทูต เร่งให้ความช่วยเหลือพาแม่ของตะวัน เดินทางมาร่วมงานศพลูกสาวให้เร็วที่สุด
ขณะที่ น.ส.จูน (นามสมมุติ) เพื่อนร่วมงานคนไทย กล่าวว่า พี่ตะวันเป็นคนน่ารักชอบช่วยเหลือคนอื่น ไม่เป็นพิษเป็นภัยกับใคร ทำหน้าที่เป็นคนดูแลที่หน้าร้านคอยดูแลลูกค้า เพราะพูดได้หลายภาษา จีน อังกฤษ ไทย และเมียนมา สื่อสารได้ดี จึงได้รับหน้าที่ให้มาดูแลลูกค้าที่ห้างพารากอน ที่มีลูกค้าชาวต่างชาติเยอะ
สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่าบริษัทสูญเสียบุคลากรที่ดีไป ซึ่งตอนนี้พนักงานในบริษัทหลายคนยังคงเสียขวัญและเสียใจกับความสูญเสียที่เกิดขึ้น ทุกคนรู้สึกหดหู่ใจมาก ไม่คิดว่าจะมาเกิดกับคนใกล้ตัว ไม่มีใครคาดคิดว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นในสถานที่มีผู้คนพลุกพล่าน ซึ่งน่าจะมีการรักษาความปลอดภัยที่ดีและมีมาตรฐานกว่านี้
![กราดยิงพารากอน]( "กราดยิงพารากอน")
ภาพจาก ข่าวช่อง 3
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่อง 3
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 5 ตุลาคม 2566 ข่าวช่อง 3 รายงานว่า หลังเกิดเหตุนายจ้างและญาติผู้ตาย เดินทางไปรับศพเพื่อนำมาประกอบพิธีทางศาสนา ที่วัดผาสุกมณีจักร อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยมีกำหนดการสวดพระอภิธรรมเป็นเวลา 5 คืน ตั้งแต่วันที่ 4-8 ตุลาคม และฌาปนกิจ ในวันที่ 9 ตุลาคม 2566 เวลา 17.00 น.
บรรยากาศที่งานศพ เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม มีเพื่อนร่วมงานในบริษัทที่ น.ส.ตะวัน ทำงานอยู่เดินทางมาร่วมฟังพระสวดพระอภิธรรมเป็นจำนวนมาก ในงานเต็มไปด้วยความเศร้าโศก ซึ่งเพื่อนร่วมงานบางคนถึงกับหลั่งน้ำตา แสดงความเสียใจกันออกมาที่บริเวณจุดตั้งรูปถ่ายหน้าโลงศพ โดยหลายคนยังทำใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้
ด้าน น.ส.ใหม่ เพื่อนสนิทผู้ตาย กล่าวว่า วันนี้เพื่อนร่วมงานทุกคนยังรู้สึกเศร้า เพราะมันกะทันหันเกินไป ไม่มีใครตั้งตัวทัน ตนยังไม่เห็นครอบครัวของคนก่อเหตุ เดินทางมาร่วมงานศพหรือขอโทษ แสดงความเสียใจอะไรออกมา ตนอยากให้ทางผู้ปกครองของเด็กรายนี้มาขอขมาศพหรือแสดงความเสียใจบ้างก็ยังดี
ตอนนี้แม่ของ ตะวัน ทราบเรื่องลูกสาวถูกยิงเสียชีวิตแล้วก็ช็อกเป็นลมหมดสติไป ทางแม่ตะวันเองแม้เจ็บป่วยอยู่ก็อยากเดินทางมาร่วมงานศพลูกเป็นครั้งสุดท้าย อย่างน้อยมาทันวันเผาศพลูก เพื่อมาดูหน้าลูกเป็นครั้งสุดท้ายก็ยังดี ตนอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือทางสถานทูต เร่งให้ความช่วยเหลือพาแม่ของตะวัน เดินทางมาร่วมงานศพลูกสาวให้เร็วที่สุด
ขณะที่ น.ส.จูน (นามสมมุติ) เพื่อนร่วมงานคนไทย กล่าวว่า พี่ตะวันเป็นคนน่ารักชอบช่วยเหลือคนอื่น ไม่เป็นพิษเป็นภัยกับใคร ทำหน้าที่เป็นคนดูแลที่หน้าร้านคอยดูแลลูกค้า เพราะพูดได้หลายภาษา จีน อังกฤษ ไทย และเมียนมา สื่อสารได้ดี จึงได้รับหน้าที่ให้มาดูแลลูกค้าที่ห้างพารากอน ที่มีลูกค้าชาวต่างชาติเยอะ
สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่าบริษัทสูญเสียบุคลากรที่ดีไป ซึ่งตอนนี้พนักงานในบริษัทหลายคนยังคงเสียขวัญและเสียใจกับความสูญเสียที่เกิดขึ้น ทุกคนรู้สึกหดหู่ใจมาก ไม่คิดว่าจะมาเกิดกับคนใกล้ตัว ไม่มีใครคาดคิดว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นในสถานที่มีผู้คนพลุกพล่าน ซึ่งน่าจะมีการรักษาความปลอดภัยที่ดีและมีมาตรฐานกว่านี้
นอกจากนี้ ยอมรับว่าห่วงเรื่องที่อยากให้ทางแม่ของตะวันเดินทางมาร่วมงานลูกสาวเป็นครั้งสุดท้าย อยากให้ทางสถานทูตหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือพาแม่ของพี่เขามาร่วมงานครั้งสุดท้ายให้ทันวันเผาศพก็ยังดี ส่วนทางครอบครัวผู้ก่อเหตุตนก็ยังไม่เห็นมาร่วมงานหรือแสดงความเสียใจใด ๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งอย่างน้อยก็น่าจะเดินทางมาแสดงความเสียใจหรือขอโทษกับเหตุที่เกิดขึ้นก็ยังดี แต่ก็ไร้วี่แวว
ภาพจาก ข่าวช่อง 3
