ปิดตำนานสายเปย์ อดีตเสี่ยอู้ฟู่ เปย์สาวหลายร้อยล้าน ตอนนี้หมดตัว ขอทวงคืน !

               - อดีตเสี่ยเล่าว่า ผู้หญิงคนดังกล่าว มีคนแนะนำมาให้รู้จักเมื่อ 17 ปีก่อน มีนัดเจอกัน ตอนนั้นเราอายุ 50 กว่า เขา 20 ปลาย ๆ เขาทำงานอีเวนต์

               - คนแนะนำมาบอกว่า น้องผู้หญิงเดือดร้อน ต้องการเงิน เลยให้เขามาเจอหน้ากัน ลองคุยกันดู พอได้พูดคุย เห็นว่าชีวิตเขาน่าสงสาร ก็เลยพูดคุยคบหากันมาเรื่อย ๆ

               - คบกันได้ไม่นาน เขา โทร. มาบอกว่า พ่อเขาล้มหัวฟาดโต๊ะ เลือดคั่งในสมอง ต้องผ่าตัดด่วน ต้องใช้เงิน 5 แสน เราก็ให้เขาเลยทันที 5 แสน

               - จากนั้นไม่นาน ก็ออกรถ BMW ป้ายแดงให้เขา 1 คัน ราคา 2 ล้านกว่า

               - เมื่อ 8-9 ปีก่อน ภรรยาเคยเดินไปเจอเขาที่ห้าง ก็เข้าไปกระชากผม แต่ไม่ได้ด่า ไม่ได้ตบ แค่ดึงผมแล้วแยกย้าย จากนั้นไม่นานตนก็เลิกกับภรรยา เหลือเขาคนเดียว

               - พอกลับมาคบก็ซื้อรถหรูให้เขาอีกหลายคัน

               - ตนมองว่าใช้เงินไปเรื่อยแบบนี้ แก่ตัวไปจะลำบาก ห่วงอนาคตเขา เลยเปิดบริษัทให้ ลงทุนให้ ส่วนอีกฝ่ายเป็นเจ้าของบริษัท เขาขอเพิ่มทุนก็ออกให้ เขาก็ไปลงทุนทำกับเพื่อนเขา

               - บริษัทให้เงินตนเดือนละ 7 หมื่นบาท แต่พอเลิกรากันเขาก็หยุดจ่ายเงินให้

               - ที่ผ่านมาตอนคบกัน ให้เงินสดเขาใช้เดือนละหลายแสน ช้อปปิ้งก็จ่ายให้ เฉพาะเงินสดที่เขาใช้เวลาอยู่กับตน ปีนึงก็หลัก 10 ล้าน รวมที่เปย์ตลอดสิบกว่าปี เป็นหลักร้อยล้าน

               - เคยมีทองคำหนัก 1,000 บาท มูลค่าร่วม 19 ล้าน ขายไปหมดแล้ว เงินส่วนใหญ่ก็ไปอยู่กับผู้หญิงคนนี้

               - ที่ช้ำคือมาจับได้ทีหลังว่าเขาแอบไปคบกับผู้ชายรุ่นน้อง แล้วก็กลับไปคบกับแฟนหมอที่เคยจับได้ก่อนหน้านี้แล้ว คบทีเดียวหลายคน

               - ตลอดเวลาที่คบกัน ตนไปเช้าเย็นกลับ เขาไม่เคยให้นอนค้าง เขาบอกเราแก่ตัวไปเขาจะดูแล ก็หวังฝากผีฝากไข้กับเขา จึงทำพินัยกรรม ยกทรัพย์สินทุกอย่างให้เขา เพราะมองว่าเงินก็แบ่งให้ลูก ๆ ไปแล้ว

               - ที่ผ่านมาตนมีบริษัทเกี่ยวกับเหล็กเส้น แต่ขายหุ้นทิ้งไปแล้ว ให้พี่ชายไป ได้เงินมา 1,600 ล้าน ตอนนี้ไม่เหลือเลย เงินส่วนหนึ่งให้ลูกชายไว้ซื้อบ้าน 30 กว่าล้าน ซื้อรถ ซื้อที่ดินให้ แบ่งให้ลูกชาย 2 คน คนโต 200-300 ล้าน คนเล็ก 100 กว่าล้าน

               - ตนไม่เคยเล่นการพนัน ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ยอมรับหมดเงินไปกับเรื่องผู้หญิงล้วน ๆ เงินก็ให้เขาใช้ไปเยอะ

               - ตนเคยไปขอเงินฝ่ายหญิง 2 ล้าน เขาก็ให้มา คือตนขอยืม แต่เขาทำหน้าเหมือนไม่อยากให้ ไม่เต็มใจ ทำไมผมเลี้ยงคุณขนาดนี้ ให้ทุกอย่างแล้ว ตอนนี้เขาเป็นนางฟ้าแล้ว ส่วนตนเป็นยาจก

               - ตอนนี้สิ่งที่อยากได้คือทรัพย์สินที่เราให้เขาไปบางส่วน อยากเอาคืน อย่างนาฬิกา แหวนเพชร เงินไม่เอา และเคยฟ้องเขาด้วย เรื่องทอง 19 ล้าน ตนได้มา 6 ล้าน เขาเอาไปขาย ที่เหลืออยู่กับเขา หายไป 10 กว่าล้าน

               - ฝ่ายหญิงคู่กรณี โฟนอินมาเล่าว่า คบกันมา 20 ปี ในพินัยกรรมเขียนไว้ชัดเจนว่าตั้งแต่ 2546 อยากถามว่า อยู่กันมา 20 ปี จะยักยอกทรัพย์ได้ยังไง ถ้าเราไม่ดี จะอยู่มาได้ยังไงตั้ง 20 ปี ทำไมไม่เลิกไปแต่แรก

               - ที่มีเรื่องกัน เราไม่ได้ไล่เขา ไม่ได้ทะเลาะ เขามาขอเงินแล้วไม่ได้ตามที่ขอ ตนถามว่าเดือดร้อนเงินเรื่องอะไร เขาก็ไม่บอก บอกไม่ต้องมายุ่ง พอไม่ได้ตามที่ขอก็น้อยใจหนีไปเอง

               - สิ่งที่เขาทำกับเราทุกวันนี้เหมือนตามราวี ไล่บี้เอาอะไรกับเรา ในเมื่อเขาก็ใช้จ่ายไปกับคนนั้นคนนี้ แล้วพฤติกรรมเอาผิด ฟ้องคนนั้นคนนี้ ก็ไม่ได้ทำกับเราคนเดียว เขาไล่ฟ้องคนรอบตัว ที่ทำอะไรไม่ได้ดั่งใจเขา

               - เรากตัญญูมากพอ อยู่กับเขามา 20 ปี ปฏิบัติดีกับเขาทุกอย่าง เขาผ่าตัดเราก็ไปดูแล จัดการค่าใช้จ่ายให้ จะว่าเราไม่ดูแลได้ยังไง

               - เขาทวงบุญคุณตั้งแต่วันแรกที่รู้จักเรา จนถึงวันที่เรามีด้วยตัวเราเอง เขาทวงบุญคุณทุกครั้งที่ไม่พอใจ

               - ยอมรับว่าตอนแรกเริ่มบริษัทเขาเป็นคนเริ่มต้นให้ แต่เราทำมา 13 ปี ทำเองมาทั้งหมด หาเงินเข้าบริษัท มันก็ต้องเป็นน้ำพักน้ำแรงของเรา เขาไม่ได้มาช่วยทำงาน เรานับถือเขาในฐานะเป็นประธานบริษัท  

               - ฝ่ายหญิงยืนยันว่า เขาจะพูดอะไรก็พูดได้ คำพูดคนอยากจะพูดอะไรก็พูด อะไรที่พูดแล้วเขาจะดูไม่ดี อะไรที่เป็นข้อเสียของเขาเขาก็ไม่พูดอยู่แล้ว แต่ข้อเท็จจริงไปสู้กันในศาลดีกว่า คำพูดมันแย้งเอกสารไม่ได้อยู่แล้ว ส่วนเรื่องทรัพย์สินอะไรต่าง ๆ อยู่ในชั้นศาลหมดแล้ว

ขอบคุณข้อมูลจาก โหนกระแส