ดาเนียล โนโบอา นักธุรกิจหนุ่มวัย 35 ปี คว้าชัยชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีเอกวาดอร์ ลั่นเริ่มงานทันที มุ่งสร้างงาน ปราบปรามอิทธิพล

ภาพจาก MARCOS PIN / AFP
วันที่ 16 ตุลาคม 2566 สำนักข่าว CNN รายงานว่า ดาเนียล โนโบอา ทายาทอาณาจักรธุรกิจกล้วย วัย 35 ปี
คว้าชัยชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีเอกวาดอร์ เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ที่ผ่านมา
โดยได้รับคะแนนเสียงราว 4.8 ล้านคะแนน หรือคิดเป็น 52.3%
จากจำนวนผู้ใช้สิทธิ์ เอาชนะ ลุยซา กอนซาเลส คู่แข่งจากพรรคสังคมนิยม
สำหรับนโยบายของ โนโบอา ได้นำเสนอการสร้างโอกาสในการทำงานให้กับคนรุ่นใหม่, เพิ่มการลงทุนจากต่างชาติ ใช้เทคโนโลยีในการต่อสู้กับอาชญากรรม และเสนอแนวทางต้านการคอร์รัปชันหลากหลายรูปแบบ รวมทั้งบทลงโทษสำหรับการหลีกเลี่ยงภาษี
โนโบอา กล่าวหลังทราบผลการเลือกตั้ง โดยเขาขอบคุณภรรยา, ครอบครัว และขอบคุณพระเจ้า ที่ให้โอกาสเขาในการรับใช้ประเทศ นอกจากนี้ ยังขอบคุณกลุ่มทุกคนที่ได้ช่วยกันเป็นส่วนหนึ่งของการเมืองแบบใหม่ ซึ่งเป็นการเมืองซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อนำรอยยิ้มกลับสู่ประเทศ พร้อมให้คำมั่นสัญญาว่าจะเริ่มทำงานทันที
ก่อนหน้านี้ หลายส่วนมีความกังวลเรื่องสถานการณ์ความรุนแรง หลังการเลือกตั้งรอบแรกเมื่อไม่กี่เดือนก่อน เกิดเหตุลอบสังหารผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเพียงไม่กี่วันก่อนการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์อันน่าเป็นห่วงเรื่องระบบดูแลความปลอดภัยในประเทศ ซึ่งปัญหาส่วนหนึ่งเกิดจากอิทธิพลของแก๊งอาชญากรที่มักก่อเหตุจากความขัดแย้งเรื่องการควบคุมเส้นทางการค้ายาเสพติด

ภาพจาก GERARDO MENOSCAL / AFP
โนโบอา เติบโตมาจากเส้นทางสายธุรกิจตามรอยคุณพ่อ อัลบาโร่ ซึ่งเขานั้นเคยล้มเหลวในการเสนอตัวเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีมาแล้วหลายครั้ง ก่อนที่ครั้งล่าสุดจะผ่านเข้ารอบคัดเลือกรอบที่สองมาได้ด้วยความเซอร์ไพรส์
ปัจจุบัน เอกวาดอร์ กำลังต้องพยายามดิ้นรนเพื่อฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจนับตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด 19 ซึ่งก่อให้เกิดอาชญากรรมพิ่มสูงขึ้น โดย กิลเลอร์โม ลาสโซ ประธานาธิบดีคนก่อน โทษว่าเป็นปัจจัยมาจากข้อพิพาทระหว่างแก๊งค้ายาเสพติด และจำนวนผู้อพยพที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่ โนโบอา สัญญาว่าจะสร้างหน่วยข่าวกรองใหม่เพื่อจัดการกับแก๊งต่าง ๆ จัดหาอาวุธ ยุทธวิธีให้กับกองกำลังรักษาความปลอดภัย และจะจัดการนักโทษอันตรายเบอร์ต้น ๆ ของประเทศไว้ในเรือเรือนจำกลางทะเล
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีคนใหม่ นับว่ามีเวลาค่อนข้างน้อยในการแก้ปัญหาประเทศ เนื่องจากจะมีวาระการดำรงตำแหน่งจนถึงปี 2568 เท่านั้น ซึ่งถือเป็นการสิ้นสุดวาระของลาสโซ ซึ่งเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ สำหรับแม้แต่นักการเมืองที่ช่ำชองที่สุดที่จะพลิกสถานการณ์ในประเทศ

ภาพจาก RODRIGO BUENDIA / AFP