พ่อโวย ลูกทำโคมไฟร้านอาหารแตก แต่ร้านแจ้งราคา 3 หมื่น แพงเกินไปไหม โซเชียลชี้เป้าราคาไม่ถึงพัน ถกสนั่นรีดกันแบบนี้ก็ได้เหรอ ?

ภาพจาก 爆料公社
![เด็กทำโคมไฟแตก เด็กทำโคมไฟแตก]()
ภาพจาก 爆料公社
พ่อยังเผยว่า แม้ลูกชายของเขาจะไม่บาดเจ็บ แต่เด็กน้อยก็ค่อนข้างหวาดกลัว ตัวเขาเองก็หวาดกลัวเพราะถูกทางร้านขอให้จ่ายเงินมัดจำก่อน กว่า 16,000 ดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 17,000 บาท) ถึงจะยอมปล่อยพวกเขากลับไป แต่สุดท้ายหลังเจรจากันทางร้านก็ยอมลดมัดจำเหลือ 5,000 ดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 5,600 บาท) ซึ่งเขาก็ต้องจ่ายให้ทางร้าน ก่อนจะพาลูกออกไป
พ่อยังเปิดภาพโคมไฟที่เสียหาย พบว่ามีแค่ส่วนโคมด้านบนที่แตก ส่วนหลอดไฟกับเสายังอยู่ครบถ้วน อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดการถกเถียงดุเดือดในหมู่ชาวเน็ต ที่ล้วนเห็นพ้องกันว่าทางร้านอาหารคิดราคาโคมไฟแพงกว่าความเป็นจริงไปมาก โดยบ้างก็ชี้ว่า "โคมนี้มีขายใน Taobao ราคาแค่ 600 ดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 670 บาท) มีค่าส่งเพิ่มอีก 260 ดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 290 บาท)"
![เด็กทำโคมไฟแตก เด็กทำโคมไฟแตก]()
ภาพจาก 爆料公社
![เด็กทำโคมไฟแตก เด็กทำโคมไฟแตก]()
ภาพจาก 爆料公社
บางคนยังเชื่อว่าทางร้านเองก็มีส่วนต้องรับผิดชอบ ที่นำโคมไฟไปตั้งไว้ในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม พร้อมตำหนิทางร้านเรื่องที่เรียกเก็บค่าโคมไฟจากลูกค้าถึง 30,000 ดอลลาร์ไต้หวัน ทั้งที่ราคาจริง ๆ ไม่น่าจะถึง 1,000 ดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 1,100 บาท) พร้อมเชียร์ให้พ่อรายนี้นำเรื่องไปฟ้องร้อง แล้วปล่อยให้ศาลเป็นคนตีราคาโคมจริง ๆ ที่เขาต้องชดใช้
แต่ก็มีบางคนที่มองว่า หากผู้ปกครองดูแลลูกให้ดีก็คงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ หากทำข้าวของเสียหายก็ต้องชดใช้เป็นเรื่องธรรมดา
ขณะที่ต่อมา เจ้าของโพสต์ได้เข้ามาเผยว่า คนจากทางร้านอาหารได้ติดต่อเขามาแล้ว โดยมีการขออภัยและยินดีจะคืนเงินจำนวน 5,000 ดอลลาร์ไต้หวัน หลังเกิดเรื่องดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เขายืนกรานว่าต้องการให้ทางร้านไปคุยกันเรื่องค่าเสียหายที่แน่นอนก่อนจะติดต่อมาหาเขา เพราะเขาเองก็ควรจ่ายค่าเสียหาย เพื่อเป็นบทเรียนในครั้งนี้ ไม่ใช่ว่าเด็กทำผิดแล้วผู้ใหญ่จะไม่ต้องรับผิดชอบ
ทั้งนี้ พ่อยืนยันว่า ลูกชายของเขามีส่วนผิดที่ทำให้เกิดความเสียหายจริง ๆ เขาเป็นฝ่ายแจ้งร้านค้าเองและเต็มใจที่จะจ่ายเงินชดเชย แต่จุดสำคัญคือความสมเหตุสมผลของจำนวนเงิน เพราะคนที่ได้เห็นสภาพโคมไฟดังกล่าว ก็คงรับไม่ได้ถ้าจะถูกขอให้จ่ายถึง 30,000 ดอลลาร์ไต้หวัน
สำหรับเงินที่จ่ายไป 5,000 ดอลลาร์ไต้หวัน ไม่ใช่จำนวนเงินทั้งหมดที่ต้องชดใช้ เขาแค่จ่ายไปก่อนและให้ทางร้านติดต่อมาอีกครั้งเพื่อทราบค่าใช้จ่ายที่เหมาะสมหลังการประเมิน ทั้งนี้ เขาร้องขอให้ทางร้านอย่าจบเรื่องไปแบบไม่คิดค่าเสียหายเพราะแรงกดดันของสื่อ เนื่องจากมีความเสียหายเกิดขึ้นจริงและต้องใช้แรงงานคนในการทำความสะอาดจริง เขาก็ไม่คิดจะปัดความรับผิดชอบ ขอให้ทางร้านแสดงจิตสำนึกและอย่าแจ้งราคาที่สูงเกินจริงอีก
ขอบคุณข้อมูลจาก Next Apple

ภาพจาก 爆料公社
วันที่ 23 ตุลาคม 2566 เว็บไซต์เน็กซ์แอปเปิล รายงานว่า พ่อชาวไต้หวันรายหนึ่ง ออกมาโพสต์ระบายความไม่พอใจผ่านชุมชนออนไลน์ 爆料公社 หลังจากที่ถูกร้านอาหารในห้างเรียกเก็บค่าเสียหายแพงเกินจริง เนื่องจากลูกชายของเขาเผลอทำโคมไฟที่วางอยู่ตรงทางเข้าร้านล้มแตกโดยไม่ตั้งใจ จริงอยู่ที่เขาไม่คิดจะปัดความรับผิดชอบ แต่ก็อดช็อกไม่ได้จริง ๆ เมื่อทางร้านแจ้งว่าโคมไฟที่แตกไปนั้นมีมูลค่าสูงถึง 30,000 ดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 33,000 บาท)
โดยพ่อรายนี้ระบุว่า "โคมไฟที่ร้านอาหารแพงมาก ต้องระวังให้ดีตอนไปทานอาหาร" ก่อนจะเล่าว่าเขาพาลูกชายวัยประถมไปร้านอาหารที่ห้างแห่งหนึ่งในไต้หวัน เนื่องจากลูกชายสะพายเป้และยังกะระยะด้านหลังไม่ถูก ทำให้เผลอไปชนโคมไฟตั้งพื้นจนล้ม ชิ้นส่วนที่ทำจากแก้วแตกกระจาย แต่ไม่คาดคิดว่า ทางร้านจะอ้างว่าโคมไฟตั้งพื้นนี้มีราคามากกว่า 30,000 ดอลลาร์ไต้หวัน มันทำให้เขาอดอุทานไม่ได้ว่า "30,000 เหรอ โอ้พระเจ้า มันเป็นผลงานของศิลปินใหญ่เบอร์ไหนถึงแพงขนาดนั้น พวกคุณนำโคมไฟแพงขนาดนั้นไปตั้งไว้ด้านนอก ไม่กลัวถูกขโมยหรือไง"

ภาพจาก 爆料公社
พ่อยังเปิดภาพโคมไฟที่เสียหาย พบว่ามีแค่ส่วนโคมด้านบนที่แตก ส่วนหลอดไฟกับเสายังอยู่ครบถ้วน อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดการถกเถียงดุเดือดในหมู่ชาวเน็ต ที่ล้วนเห็นพ้องกันว่าทางร้านอาหารคิดราคาโคมไฟแพงกว่าความเป็นจริงไปมาก โดยบ้างก็ชี้ว่า "โคมนี้มีขายใน Taobao ราคาแค่ 600 ดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 670 บาท) มีค่าส่งเพิ่มอีก 260 ดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 290 บาท)"

ภาพจาก 爆料公社

ภาพจาก 爆料公社
แต่ก็มีบางคนที่มองว่า หากผู้ปกครองดูแลลูกให้ดีก็คงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ หากทำข้าวของเสียหายก็ต้องชดใช้เป็นเรื่องธรรมดา
ขณะที่ต่อมา เจ้าของโพสต์ได้เข้ามาเผยว่า คนจากทางร้านอาหารได้ติดต่อเขามาแล้ว โดยมีการขออภัยและยินดีจะคืนเงินจำนวน 5,000 ดอลลาร์ไต้หวัน หลังเกิดเรื่องดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เขายืนกรานว่าต้องการให้ทางร้านไปคุยกันเรื่องค่าเสียหายที่แน่นอนก่อนจะติดต่อมาหาเขา เพราะเขาเองก็ควรจ่ายค่าเสียหาย เพื่อเป็นบทเรียนในครั้งนี้ ไม่ใช่ว่าเด็กทำผิดแล้วผู้ใหญ่จะไม่ต้องรับผิดชอบ

ภาพจาก 爆料公社
ทั้งนี้ พ่อยืนยันว่า ลูกชายของเขามีส่วนผิดที่ทำให้เกิดความเสียหายจริง ๆ เขาเป็นฝ่ายแจ้งร้านค้าเองและเต็มใจที่จะจ่ายเงินชดเชย แต่จุดสำคัญคือความสมเหตุสมผลของจำนวนเงิน เพราะคนที่ได้เห็นสภาพโคมไฟดังกล่าว ก็คงรับไม่ได้ถ้าจะถูกขอให้จ่ายถึง 30,000 ดอลลาร์ไต้หวัน
สำหรับเงินที่จ่ายไป 5,000 ดอลลาร์ไต้หวัน ไม่ใช่จำนวนเงินทั้งหมดที่ต้องชดใช้ เขาแค่จ่ายไปก่อนและให้ทางร้านติดต่อมาอีกครั้งเพื่อทราบค่าใช้จ่ายที่เหมาะสมหลังการประเมิน ทั้งนี้ เขาร้องขอให้ทางร้านอย่าจบเรื่องไปแบบไม่คิดค่าเสียหายเพราะแรงกดดันของสื่อ เนื่องจากมีความเสียหายเกิดขึ้นจริงและต้องใช้แรงงานคนในการทำความสะอาดจริง เขาก็ไม่คิดจะปัดความรับผิดชอบ ขอให้ทางร้านแสดงจิตสำนึกและอย่าแจ้งราคาที่สูงเกินจริงอีก
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก Next Apple